free web tracker, fire_lady ทำความรู้จัก”อาหารคลีน”กันเถอะ • สุขภาพดี

ทำความรู้จัก"อาหารคลีน"กันเถอะ

อาหารสุขภาพแนวใหม่ที่ถูกพูดถึงกันมากในตอนนี้คือ อาหารคลีน จึงทำให้หลายๆ คนทั้งที่เพิ่งเคยได้ยิน หรือได้ยินมาบ้างต่างสงสัยว่าอาหารคลีนคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร หากต้องการกินคลีนต้องเตรียมตัวอย่างไร วันนี้สุขภาพดี...หาคำตอบมาฝากผู้ที่สงสัยกันนะคะ

อาหารคลีน คืออะไร

อาหารคลีน (Clean Food) คืออาหารที่สด สะอาด เน้นความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบ โดยไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง ดัดแปลง ขัดแต่งสีด้วยสารเคมีต่างๆ หรือการถนอมอาหารเช่นการหมักดอง หรือแปรเป็นอาหารสำเร็จรูป เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ตัวอย่างเช่น การทานผัก ผลไม้สดๆ ธัญพืชหรืออาหารที่ไม่ผ่านการขัดสี อาหารที่ไม่มีการปรุงมากมายให้มีรสจัด ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คล้ายๆ กับการทานสลัดผัก สลัดผลไม้ หรือทานอาหารจีนที่มีรสชาติจืดๆ แค่นำมาต้มใส่เกลือ หรือผัดใส่น้ำมันง่ายๆ ก็สามารถนำมาทานได้แล้ว

อาหารคลีนมีประโยชน์อย่างไร

เพราะการทานอาหารคลีนเน้นในเรื่องของการเลือกอาหารที่หลากหลายให้ครบทั้ง 5 หมู่ มิใช่เน้นทานผักเยอะๆ ทานเนื้อสัตว์น้อยๆ ดังนั้นผู้ที่ทานอาหารคลีนจะได้รับสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ อีกทั้งป้องกันอันตรายจากสารปนเปื้อนจากการแปรรูป เครื่องปรุงรสที่มีการแต่งสี กลิ่น รสชาติ จึงสรุปได้ว่าอาหารคลีนดีต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างแน่นอน

เตรียมตัวอย่างไรหากต้องการทานอาหารคลีน

1 ปรับตัวให้เข้ากับการทานอาหารคลีน ซึ่งหมายถึงการปรับตนเองให้ไม่ยึดติดกับรสชาติอาหารแบบเดิมๆ ที่เคยทาน หรือลดปริมาณความจัดจ้านของรสชาติให้น้อยลงไปเรื่อยๆ โดยใหม่ๆ อาจจะรู้สึกอึดอัด ไม่ถูกปากกับรสชาติ แต่หากทานไปสักระยะจะเริ่มชิน และอร่อยกับการกินคลีน

2 เลือกอาหารที่สดใหม่อยู่เสมอ คือควรซื้อสดๆ มาจากตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วรีบนำมาปรุงรับประทานเลย ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นหลายๆ วันแล้วค่อยนำมาทำอาหารทาน จึงแนะนำให้ซื้อน้อยๆ และซื้อเป็นมื้อๆ หรือต่อวัน เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ใหม่สดของวัตถุดิบตามหลักของอาหารคลีนค่ะ

3 เวลาเลือกซื้อสินค้า หรือวัตถุดิบควรเดินดูให้ทั่วก่อน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ เพราะบางครั้งการที่เรารีบซื้อก่อนที่จะเดินดูให้ทั่วทั้งหมด อาจทำให้เราซื้อมากเกินความจำเป็น กลายเป็นซื้อเก็บแล้วค่อยนำมาทาน การเดินสำรวจให้ทั่วจึงเป็นการช่วยกรอง และเกิดการวางแผน ตัดสินใจว่าอยากจะทานอะไรมากที่สุด ไม่ใช่เห็นอะไรก็อยากทาน อยากซื้อไว้ทั้งหมด สุดท้ายนอกจากจะทานไม่หมดแล้ว ยังอาจเหลือทิ้งอีกด้วย

4 ลดปริมาณน้ำตาลลง จากที่เคยนำเอาเรื่อง ภัยร้ายจากน้ำตาล มาฝากกันไปนั้น ทราบกันดีแล้วว่าน้ำตาลมีอันตรายต่อร่างกายมากแค่ไหน ดังนั้นเมนูอาหารคลีนที่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยสุขภาพจึงไม่เน้นการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาล หากจำเป็นต้องใส่ควรใส่ในปริมาณที่น้อย หรือใช้น้ำตาลปี๊บแทนน้ำตาลทรายได้ จะดีต่อสุขภาพมากค่ะ

5 เน้นการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพราะร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 70% ดังนั้นระบบร่างกายของคนเราจึงจำเป็นต้องมีน้ำเป็นตัวหล่อลื่นและเพิ่มความคล่องตัวในการไหลเวียน หมุนเวียน หากจะให้ดี ควรดื่มน้ำเมื่อท้องว่างจะดีที่สุดนะคะ

6 ชวนเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวมาทานอาหารคลีนด้วยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ช่วยกันหาข้อมูลเรื่องอาหารคลีน ช่วยกันสรรหาเมนูมาลองทำทานให้เกิดความหลากหลาย ทานกันอย่างสนุกสนาน ป้องกันการเบื่อจนต้องเลิกทานคลีนไปซะก่อนที่จะมีสุขภาพดี

7 จัดอาหารที่ทานให้มีความสมดุล โดยแบ่งมื้ออาหารให้เป็นมื้อย่อยๆ 4 หรือ 6 มื้อต่อวัน โดยไม่ควรพลาดอาหารเช้า เพราะเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด สำหรับการทานอาหารหลายมื้อย่อยๆในปริมาณที่เหมาะสมย้อมดีกว่าการทานน้อยมื้อแต่ทานในปริมาณมาก ซึ่งทำให้ขนาดกระเพาะขยายใหญ่ขึ้น จนต้องทานปริมาณมากๆในทุกมื้อจนเป็นนิสัย

8 เลือกทานแป้งได้ตามเหมาะสม โดยหันมาใช้แป้งข้าวกล้อง แป้งข้าวโอ๊ต เป็นทางเลือกแทนแป้งสาลีเพื่อหลีกเลี่ยงสารกลูเตน (Gluten) ที่เป็นอันตรายกับคนที่แพ้สารตัวนี้ที่มักพบในแป้งสาลี และแป้งอื่นๆ

9 รู้จักสังเกตส่วนผสมให้มากขึ้น ควรอ่านฉลากว่ามีส่วนผสมอะไรบ้างเพื่อดูว่าเครื่องปรุงที่นำมาใช้ปรุงอาหารคลีนนั้นสกัดจากธรรมชาติ 100% หรือไม่ หรือหากต้องซื้ออาหารคลีนที่ขายตามห้าง ควรสังเกตุว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง เพื่อจะได้เลือกทานได้เหมาะสมกับความต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

10 อย่าเน้นไปที่การคำนวณแคลอรี่ ควรเลือกทานอาหารให้ครบตามที่ร่างกายต้องการให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการมากกว่าการคำนวณแคลอรี่ของอาหารที่ทาน

หากจะเริ่มต้นทานอาหารคลีน อาหารที่ปรุงแต่งรสชาติน้อยที่สุดไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมค่ะ สำหรับเมนูอาหารคลีนอร่อยๆ ทำง่ายๆ จะนำมาฝากในบทความหน้านะคะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาหารคลีน

1comment
rug - July 4, 2016

ข้อมูลเป็นประโยชน์มากเลยครับ

Reply
Click here to add a comment

Leave a comment: