free web tracker, fire_lady สุคนธบำบัด (Aroma Therapy)…กลิ่นแห่งการรักษา • สุขภาพดี

สุคนธบำบัด (Aroma Therapy)...

กลิ่นแห่งการรักษา

สุคนธบำบัด

ถ้าพูดถึงเรื่องของ “สุคนธบำบัด” สำหรับคนไทยอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก เพราะถือว่าเป็นการบำบัดแบบใหม่ที่เพิ่งเข้ามามีบทบาทในการรักษาของเมืองไทย แต่ในต่างประเทศถือเป็นรูปแบบการรักษาที่มีมานานแล้ว แน่นอนว่าอ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะอยากทราบแล้วว่า “สุคนธบำบัด” คืออะไร เป็นการรักษาแบบไหนและต้องทำอย่างไร เอาเป็นว่าในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการรักษาแบบ “สุคนธบำบัด” กัน

สุคนธบำบัดคืออะไร

คำนิยามและความหมายโดยรวมของการรักษาแบบ “สุคนธบำบัด” ก็คือ การใช้กลิ่นของสิ่งต่างๆ เพื่อบำบัดรักษา เป็นศาสตร์และศิลป์แห่งการรักษา มีจุดประสงค์ในการช่วยปรับสมดุลต่างๆ ของร่างกายให้เข้าที่และบำบัดสภาวะจิตใจของผู้ป่วย นอกจากนั้นยังมีผลเกี่ยวข้องกับความสวยความงามอีกด้วย ในต่างประเทศการรักษาประเภทนี้รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของ Aroma Therapy ซึ่งมาจากคำในภาษาอังกฤษ 2 คำผสมกัน คือคำว่า Aroma ที่แปลว่ากลิ่น และคำว่า Therapy ที่แปลว่า การบำบัดรักษา นั่นเอง

ต้นกำเนิดของสุคนธบำบัด (Aroma Therapy)

สุคนธบำบัด (Aroma Therapy) มีความเป็นมายังไม่แน่ชัด แต่ในอดีตมีการค้นพบวิธีการรักษาด้วยกลิ่นในหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปยุคกลาง มีการสกัดกลิ่นหอมจากดอกลาเวนเดอร์ และโรสแมรี เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อให้กับผู้ป่วยและช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด อีกทั้งยังพบในพิธีกรรมสำคัญต่างๆ มากมายเกี่ยวกับการใช้กลิ่นที่สกัดจากดอกกุหลาบเพื่อเพิ่มระดับของสมาธิให้มากขึ้น

สุคนธบำบัด2

นอกจากนี้ยังมีการค้นพบศาสตร์การรักษาแบบโบราณของอียิปต์ ที่ใช้น้ำหอมประกอบการรักษาทางการแพทย์เพื่อช่วยลดอาการเจ็บปวดของผู้ป่วย อีกทั้งยังมีการใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากจูนิเปอร์ (Juniper) และ เมอร์ เพื่อใช้ในการรักษาสภาพของศพอีกด้วย

อีกหนึ่งการค้นพบของนักวิจัยที่ถือว่าเป็นแนวทางและรูปแบบเริ่มต้นของสุคนธบำบัด ก็คือ การค้นพบว่าในประเทศจีนสมัยราชวงศ์หมิง มีการใช้สารสกัดจากกลิ่นดอกไม้ต่างๆ ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต และยังมีการใช้กลิ่นเพื่อช่วยกระตุ้นอารมณ์ของผู้ป่วยที่หมดสมรรถภาพทางเพศ

สุคนธบำบัด ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การใช้กลิ่นในการรักษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีรูปแบบของการนวดและการจับเส้นที่ให้น้ำมันหอมระเหยในการรักษาด้วย วิธีการนี้มีการค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1939 ซึ่งยุคนั้นตรงกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การค้นพบนี้เกิดในประเภทออสเตรเลีย เป็นการใช้น้ำมัน Tea Tree Oil ในการรักษาและปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับเหล่าทหาร โดยผู้ที่ค้นพบก็คือ Dr. Penfold แน่นอนว่าเขาได้รับการยกย่องเกี่ยวกับการค้นพบสิ่งนี้มาก และในปี 1964 ก็มีการประยุกต์วิธีการใช้แล้วนำน้ำมัน Tea Tree Oil มาผสมกับน้ำหอมแล้วใช้ประกอบการรักษาแบบสุคนธบำบัด

การรักษาแบบสุคนธบำบัดในปัจจุบัน

การรักษาแบบสุคนธบำบัดในปัจจุบันนั้น มีหลากหลายประเภทและหลากหลายรูปแบบ โดยหลักๆ แล้วจะมีดังนี้

ด้านการแพทย์


ในส่วนของการรักษาแบบสุคนธบำบัดที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ปัจจุบันจะเน้นในเรื่องของการบำบัดจิตใจเป็นหลัก ส่วนมากจะนำไปรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเวช มีความพิการทางสมอง มีความบกพร่องทางด้านอารมณ์ และที่ถือว่าส่งผลมากที่สุดและเห็นผลได้ชัดเจนก็คือ ใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีความเครียดสูง แน่นอนว่ากลิ่นหอมจากสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยเมื่อใช้ในระดับที่เหมาะสมก็จะสามารถทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลายและหายเครียดได้ นอกจากนี้กลิ่นหอมที่ได้จากสารสกัดจากดอกไม้และน้ำมันหอมระเหยต่างๆ ยังมีผลกับระบบประสาทการรับรู้กลิ่นของผู้สูดดม ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะเข้าไปช่วยกระตุ้นประสาทส่วนของการรับรู้กลิ่นและส่งผลทำให้ประสาทส่วนอื่นมีการพัฒนาไปด้วย ทำให้เด็กที่มีปัญหาและความพิการทางสมองมีการรับรู้และพัฒนาการที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการนำกลิ่นจากสารสกัดต่างๆ มาช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดทางร่างกายให้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวดได้ อีกทั้งยังมีการนำกลิ่นหอมต่างๆ มาสร้างบรรยากาศภายในห้องพักผู้ป่วยเพื่อให้เกิดอาการผ่อนคลายด้วยเช่นกัน

ด้านความสวยความงาม


กลิ่นหอมกับความสวยงามย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว โดยทั่วไปแล้วสารสกัดจากดอกไม้ที่สร้างกลิ่นหอมและน้ำมันหอมระเหยต่างๆ จะมีพื้นฐานและองค์ประกอบทางเคมีมากมายตามแต่ชนิดของพืชที่สกัดมา และสิ่งที่เป็นผลพลอยได้ก็คือ องค์ประกอบทางเคมีเหล่านั้นมีโมเลกุลขนาดเล็กสามารถซึมผ่านผิวหนังได้เป็นอย่างดี ทำให้มีการนำสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยต่างๆ มาใช้ร่วมกับการนวดเพื่อบำรุงรักษาผิว และยิ่งมีการนวดที่ดีก็จะช่วยกระตุ้นการซึมซับได้มากยิ่งขึ้น

การสร้างบรรยากาศให้กับสถานที่


จริงๆ แล้วอาจจะเรียกว่าเป็นสุคนธบำบัด ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากและอาจจะไม่เกี่ยวกับการบำบัดรักษาเท่าไหร่ เพราะในต่างประเทศ โรงแรมและที่พักหรูๆ บางแห่งจะใช้หลักการของ สุคนธบำบัด ในการสร้างบรรยากาศภายในห้องพัก เพื่อให้ผู้ที่เข้าพักได้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายเวลาเข้าพัก โดยการใช้สารสกัดจากดอกไม้และน้ำมันหอมระเหยในจำนวนที่เหมาะสม ใส่ไว้ในห้องพักต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศตามที่ลูกค้าต้องการ

สิ่งที่ต้องพึงระวังในการรักษาแบบสุคนธบำบัด

ปัจจุบันสุคนธบำบัดมีการใช้อ้างอิงเกี่ยวกับความสวยความงามเป็นจำนวนมาก แต่ทราบหรือไม่ว่า สารสกัดและน้ำมันหอมระเหยที่จะส่งผลดีและทำให้เกิดระบบการรักษาและบำบัดได้จำเป็นต้องเป็นสารสกัดบริสุทธิ์และใช้ระดับความเข้มข้นที่พอเหมาะกับความต้องการของผู้บำบัดด้วย การใช้น้ำหอมเกรดต่ำหรือราคาถูกที่มีสารเคมีอื่นๆ เจือปนจะไม่จัดอยู่ในรูปแบบของการรักษาและการเสริมความงามแบบสุคนธบำบัด จุดนี้เองผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการในสถานเสริมความงามที่อ้างอิงสุคนธบำบัดควรพึงระวังอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะไม่ส่งผลในด้านดีแล้วอาจจะได้รับสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย

สุคนธบำบัด3

โดยรวมแล้วการรักษาแบบสุคนธบำบัดจะเน้นในด้านของสภาพจิตใจและการจัดสมดุลของร่างกายเป็นหลัก และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ให้สูดกลิ่นของสารสกัดและน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์เท่านั้น ยังจำเป็นต้องใช้วิธีการอื่นเข้ามาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น การนวด การจัดระดับความเข้มข้นของกลิ่นและเครื่องมือต่าง ที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการบำบัดรักษาที่เกิดประโยชน์ต่อผู้บำบัดมากที่สุดนั่นเอง

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ "ธรรมชาติบำบัด"