free web tracker, fire_lady ไม่ใช่แค่ข่าวลือ…แกนสับปะรดฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แถมนักวิจัยชี้ไม่มีผลข้างเคียง • สุขภาพดี

ไม่ใช่แค่ข่าวลือ...แกนสับปะรดฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แถมนักวิจัยชี้ไม่มีผลข้างเคียง

แกนสับปะรด ฆ่าเซลล์มะเร็ง

ข่าวดีสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือแม้แต่คนที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เพราะมีการค้นพบวิธีฆ่าเซลล์มะเร็งแบบง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งยา หรือพึ่งสารเคมี ไม่เจ็บตัว แต่ได้ความอร่อย ที่สำคัญคือหาง่าย ราคาถูกในบ้านเราอีกด้วย ส่วนจะเป็นอะไร ตามไปรู้คำตอบกันเลยค่ะ

Bromelain คืออะไร?

เจ้า Bromelain คือสารชนิดหนึ่งที่ทำงานเหมือนยาตัวใหม่ แต่มหัศจรรย์กว่ามากๆ เพราะมันช่วยสลายลิ่มเลือด โดยการไปกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของ Plasminogen ให้เป็น Plasmin ซึ่งตัวนี้นี่แหละที่จะเป็นตัวการสำคัญในการสลายลิ่มเลือด สรุปง่ายๆ จากผลการศึกษาของ ดร. เดวิด วิลเลียมส์ Bromelain คือเอนไซม์ที่เราสามารถสกัดได้จากแกนสับปะรดทั่วๆ ไป แถมยังมีงานวิจัยรองรับที่ตีพิมพ์ในวารสาร Planta Media พบว่า เจ้าเอนไซม์ตัวนี้ดีกว่ายาเคมีบำบัดที่ชื่อ 5- fluorauracil ในการรักษามะเร็งในสัตว์ นอกจากนี้นักวิจัยยังกล่าวสรุปอีกว่า การทดลองรักษาด้วยเอนไซม์ตัวนี้มีดัชนีการรอดตายประมาณ 263% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไมได้รักษาด้วยเอนไซม์ Bromelain

Bromelain เจ๋งกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่นอย่างไร?

สิ่งที่น่าประทับใจก็คือ เอนไซม์ Bromelain ที่สกัดจากแกนสับปะรดทำงานโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเพิ่มกับสัตว์ พูดง่ายๆ จากบทความใน GreenMedinfo: Bromelaim ก็คือ สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งโดยไม่ทำร้ายเซลล์ดีนั่นเอง เห็นแบบนี้แล้วคนป่วยมีเฮ! การรักษาโดยธรรมชาติมีโอกาสเป็นไปได้แล้วววว

เอนไซม์ทำงานอย่างไร ถึงช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้?

Bromelain เป็น Proteolytic enzyme หรือเรียกว่า เอนไซม์ที่ย่อยสลายโปรตีนนั้นเอง ในการศึกษา Planta Medica มันถูกฉีดเข้าในช่องท้อง และการได้รับเอนไซม์จากระบบทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือดไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด เนื่องจากเอนไซม์มีความอ่อนไหวมากและอาจเสียสภาพ จะต้องได้รับการช่วยเหลือให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดสูงในท้องของคุณ

ผลการวิจัยเผยว่าสิ่งที่เป็นไปได้คือ เอนไซม์ที่กินทางปากนี่แหละจะช่วยรักษาและใช้แก้ปัญหา ตั้งแต่บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ไขข้ออักเสบ ไปจนถึงโรคหัวใจและโรคมะเร็ง นับว่าได้ประโยชน์สารพัดจริงๆ และเรามักจะได้เห็นบทความเกี่ยวกับสุขภาพของคนที่ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังจะมีไฟบรินเป็นจำนวนมากในเนื้อเยื่อและเลือด นั่นเป็นเพราะไฟบรินมีประโยชน์ในการซ่อมแซมตัวเองหลังจากร่างกายได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่คุณไม่รู้ก็คือมันจะกลายเป็นปัญหาทันทีถ้าร่างกายไม่สลายออกหลังจากที่มันทำงานเสร็จแล้ว ทีนี้ล่ะคุณเอ๋ย! งามไส้แน่ๆ เพราะจะมีปัญหาใหม่ตามมา

ไฟบรินส่วนเกินจะส่งผลอย่างไร?

เมื่อไฟบรินใช้ในการซ่อมแซมร่างกายหลังจากได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่มันไม่ถูกขับออกมาหมด ทำให้เลือดไม่มีความคล่องตัวในการไหลเวียนเพราะขาดเอนไซม์ ไฟบรินก็จะเริ่มทำการสะสม ยิ่งส่วนไหนของร่างกายที่บาดเจ็บแต่หายช้าหรือหายยาก การสะสมของไฟบรินก็จะปรากฏเป็นกลุ่มก้อนของเนื้อเยื่อ หรือเกิดแผลเป็นในกล้ามเนื้อบริเวณที่ผ่าตัดยังไงล่ะ ทีนี้พอมองออกหรือยังว่าเอนไซม์สำคัญกับเรื่องนี้อย่างไร

ไฟบรินมากเกินไป...นำสู่โรคภัย

ถ้าไฟบรินส่วนเกินกระจายไปทั่วระบบไหลเวียนโลหิต เลือดก็จะถูกจำกัดให้น้อยลงในการหล่อเลี้ยงส่วนสำคัญของร่างกาย ท้ายที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปร่างกายต้องชดเชยด้วยการเพิ่มความดันเลือด และจะทำให้ต้องทุกข์ทรมานจากความเมื่อยล้าเรื้อรัง การรักษาที่ล่าช้า การอักเสบเจ็บปวดจึงส่งผลให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงนั่นเอง

เอนไซม์ช่วยรักษาได้หรือไม่?

เอนไซม์เหล่านี้นำโภชนาการและเลือดที่เต็มไปด้วยออกซิเจน และสามารถเอาอาหารขยะที่ถูกเผาผลาญและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการอักเสบและไฟบรินออกไปจากร่างกายได้ แต่การชำระล้างต้องใช้เวลา อาจเป็นเดือน เป็นปี ในการพัฒนาใยของไฟบรินในเนื้อเยื่อ ดังนั้นต้องอดทน จัดระบบการใช้งาน สังเกตอาการตัวเองและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง

โรคมะเร็งเป็นผลจากการลดลงของเอนไซม์ของตับอ่อนจริงหรือ?

ในขณะนี้การใช้ระบบของเอนไซม์เป็นเพียงแค่ตำนานแต่ก็เป็นพื้นฐานที่ดีไม่น้อยสู่การรักษา John Breard’s เชื่อว่ามะเร็งเป็นผลมาจากการทดลองของเอนไซม์จากตับอ่อน และจะไปช่วยตอบสนองภูมิคุ้มกันของคุณ มีผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อน 10 คนถูกรักษาด้วยเอนไซม์ตับอ่อนทางปากในปริมาณมาก (พร้อมล้างพิษด้วยอาหารอินทรีย์) ปรากฏว่าอัตรารอดของพวกเขามีค่าสูงกว่าผู้ป่วยที่รักษาแบบเดิมๆ ถึง 4 เท่า

รู้ไหมเอนไซม์โปรตีนเอสอาจจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคมะเร็ง

เอนไซม์ช่วยได้อย่างไร ก็ช่วยคืนความสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณยังไงล่ะ นอกจากนี้ ดร.นิค กอนซาเลส ยังศึกษาต่ออีกว่าเอนไซม์มีการทำงานอย่างหนักในการรักษามะเร็ง และยังมีบางวิธีที่เอนไซม์ช่วยโปรตีนก่อให้เกิดประโยชน์ในการต่อสู้กับมะเร็งอีกด้วย

เอนไซม์ช่วยลดการอักเสบ

คุณๆ จ๋า รู้หรือไม่ว่าการที่เรารับประทานอาหารดีๆ เข้าไปเป็นการรับเอนไซม์เข้าสู่ร่างกายด้วยนะ โดยเฉพาะอาหารดิบ สิ่งเหล่านี้ช่วยย่อยอาหารโดยตรงเลยล่ะ ยิ่งอาหารดิบมากขึ้นร่างกายก็ยิ่งลดภาระในการผลิตเอนไซม์ที่จำเป็น และช่วยให้กระบวนการทำงานอื่นๆ ดีขึ้นไปด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลจำเป็นว่าเราควรรับประทานอาหารดิบ สด สะอาด และอาหารอินทรีย์จะดีที่สุด

เห็นมั้ยล่ะว่าแค่แกนสับปะรดธรรมด๊า ธรรมดา ใครจะนึกว่าช่วยฟื้นฟูระบบร่างกายขนาดนี้ การรับประทานอาหารสดดิบก็ให้นึกถึง ผักสด นะจ๊ะ อย่าเพิ่งนึกถึงลาบเลือด และแหล่งเอนไซม์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ยังมีมะละกอดิบ และขิง อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วจัดเลยจ้ะ ถ้าเราฟื้นฟูร่างกายให้ดีโรคภัยไหนๆ ก็ไม่ถามหา จริงมั้ย?

สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ด้วยสับปะรดอบแห้งมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ในราคาประหยัด พร้อมบริการฟรี ส่งตรงถึงบ้าน เก็บเงินปลายทาง คลิกที่นี่ ได้เลยค่ะ

ที่มา: www.detsood.com, รายการหมอนอกกะลา

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี