free web tracker, fire_lady "กลูต้าไธโอน" เร่งผิวขาว อันตรายจริงเหรอ? • สุขภาพดี

"กลูต้าไธโอน"

เร่งผิวขาว อันตรายจริงเหรอ?

กลูต้าไธโอน ผิวขาว

กระแสนิยมผิวขาวในไทยนับวันจะยิ่งเป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตจากโฆษณาในโทรทัศน์แทบทุกช่อง รวมไปถึงในอินเทอร์เน็ต ผลิตภัณฑ์ความสวยความงามต่างๆ ล้วนโฆษณาถึงสรรพคุณช่วยเร่งผิวขาว ผิวใสในระยะเวลาไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ แบบเวอร์ๆ ให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น เร็วขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเพศหญิงที่เป็นตลาดเป้าหมายของผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาลอกผิวขาว ครีมกำจัดเมลานินในชั้นผิว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้อย่าง “กลูต้าไธโอน

กลูต้าไธโอนคืออะไร 

กลูต้าไธโอน เป็นยาที่ถูกค้นพบครั้งแรกจากความบังเอิญในการใช้ยารักษาผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยหลังจากฉีดยาประเภทนี้ให้กับผู้ป่วยชายก็พบว่าผลข้างเคียงจากยานี้ทำให้ผู้ป่วยมีผิวขาวขึ้น ซึ่งหากมองไปถึงคุณสมบัติของกลูตาไธโอนก็พบว่ามีฤทธิ์เปลี่ยนเม็ดสีจากสีคล้ำเป็นขาวขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีพ่อค้าแม่ค้าหัวใส อาศัยผลค้างเคียงจากการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อการรักษาโรคมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม โดยชูคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใสภายใน 7-14 วัน โดยกลูต้าไธโอนมักจะอยู่ในรูปของยาแคปซูล รับประทานควบคู่กับวิตามินซีหรือยาชนิดอื่นๆตามแต่ผู้ประกอบการจะโฆษณา

ทานกลูต้า ช่วยผิวขาวใส ได้จริงเหรอ?

ในความเป็นจริงแล้วกลูต้าไธโอนสามารถย่อยสลายได้ในภาวะที่ร่างกายเป็นกรด รวมถึงในกระเพาะอาหารที่มีน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดอยู่แล้ว ทำให้เมื่อรับประทานกลูต้าเข้าไปในร่างกาย กลูต้าก็จะถูกย่อยสลายจนไม่เหลือประสิทธิภาพใดๆ จึงเป็นการทานแบบสิ้นเปลืองและเสียเปล่า ด้วยเหตุนี้ในเวลาต่อมาผู้ประกอบการเสริมความงามหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์จึงได้หันมาใช้กลูต้าไธโอนในรูปแบบ ‘การฉีด’ แทนการกิน โดยฉีดสารกลูต้าเข้าไปในเส้นเลือดดำ โดยอ้างว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้ผิวขาวมากกว่าและรวดเร็วกว่าแบบรับประทาน จึงไม่แปลกใจว่า การฉีดผิวขาวกลายเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังเสี่ยงกับอันตรายมากมายในภายหลัง

กลูต้า อันตรายต่อร่างกายจริงเหรอ?

การทำให้ผิวขาวด้วยการฉีดกลูต้าเป็นเพียงผลข้างเคียงจากการใช้ยา ไม่ใช่ผิวขาวเองตามธรรมชาติ ดังนั้นหากหยุดฉีดเมื่อไหร่...ผิวก็กลับมาคล้ำตามเดิมหรืออาจดำกว่าเดิม โดยหากอยากให้ขาวเกือบแบบถาวร ก็ต้องฉีดกลูต้าเป็นเวลาอย่างน้อยสิบปีขึ้นไป ซึ่งการฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานๆ ก็ย่อมส่งผลเสียกับร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม

จากข้อมูลของอาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ระบุไว้ว่าการใช้กลูต้าไธโอนเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือทำให้ผิวขาว เป็นการใช้ยาผิดวัตถุประสงค์และยังทำให้มีการสะสมสารเคมีจากยาในร่างกายซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว ยิ่งกว่านั้นวัยรุ่นบางรายก็ซื้อชุดกลูต้ามาฉีดเองที่บ้าน รวมไปถึงใช้บริการกับผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการฉีดยาไม่ดีพอ อาจเสี่ยงกับอันตราย ผลข้างเคียงที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้เข็มฉีดยาที่ไม่ได้มาตรฐาน การฉีดยาโดยไล่ฟองอากาศไม่หมดทำให้เกิดฟองอากาศอุดตันในเส้นเลือด รวมไปถึงการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด

กลูต้าไธโอนแบบฉีด

ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้จึงสรุปได้ว่ากลูตาไธโอนทำให้ขาวได้ แต่ต้องใช้วิธีการฉีดและต้องฉีดติดต่อกันเป็นเวลานานและยังมีผลข้างเคียงตามมานับไม่ถ้วน สำหรับวัยรุ่นหรือสาวๆท่านใดที่ยังหลงใหลกับกระแสนิยมผิวขาวคงต้องหันมาคิดทบทวนแล้วว่าความขาวที่ไม่จีรังยั่งยืนที่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพและชีวิตนั้นคุ้มกันหรือไม่? 

วิธีที่ทำให้ผิวขาวจริงๆ แล้ว ยังมีอีกมากมายหลายวิธี ถึงแม้จะเห็นผลไม่รวดเร็วทันใจ แต่ก็ปลอดภัย และยั่งยืนอย่างแน่นอน...