free web tracker, fire_lady 19 วิธีแก้ปัญหารักแร้เปียก…จัดการอย่างไรให้ความมั่นใจคืนมา • สุขภาพดี

19 วิธีแก้ปัญหารักแร้เปียก...จัดการอย่างไรให้ความมั่นใจคืนมา

แก้ปัญหารักแร้เปียก

ปัญหา "รักแร้เปียก" เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญใจและความอับอายให้ไม่น้อย เพราะการที่เสื้อตรงรักแร้เปียกเป็นด่างๆ ดวงๆ เนี่ย ทำลายบุคลิกภาพและความมั่นใจลงได้แบบไม่มีชิ้นดีเลยทีเดียว ขึ้นรถลงเรือต้องห้อยโหนราว...เกาะทีไรต้องแอบๆ โหนทุกที เพราะอายรักแร้ แต่แอบยังไงก็ไม่พ้นสักที ต้องทำอย่างไรดี? จึงจะแก้ปัญหารักแร้เปียกนี้ได้ มาติดตามกันค่ะ

รวมเคล็ดลับวิธีแก้ปัญหารักแร้เปียก

1. อาบน้ำบ่อยๆ ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เหงื่อจะออกง่ายมาก การอาบน้ำเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยลดเหงื่อ ควรอาบเช้าและเย็นวันละ 2 ครั้ง หลังอาบเช็ดตัวให้แห้ง ปล่อยให้ร่างกายเย็นลงก่อน ไม่ควรใส่เสื้อผ้าทันทีเพราะเหงื่อจะออกตั้งแต่หลังใส่เสื้อผ้าไม่นาน

2. เปลี่ยนเสื้อระหว่างวัน ใครที่เหงื่ออกมากจริงๆ จนระหว่างวันเสื้อเปียกเป็นดวงๆ ใช้วิธีเปลี่ยนเสื้อระหว่างวันได้ โดยการเตรียมเสื้อที่ซักรีดสะอาดเรียบร้อยพับใส่กระเป๋าไป เผื่อต้องใช้ในเวลาที่จำเป็น

3.ใส่เสื้อซับใน อาจจะร้อนเล็กน้อย แต่เสื้อยืดสีขาวนุ่มๆ ช่วยซับเหงื่อได้มาก แนะนำให้หาเสื้อยืดหรือเสื้อกล้ามมาใส่ซับไว้ด้านในเพื่อซับเหงื่อ เหงื่อจะซึมออกไปด้านนอกได้น้อยลง แต่อย่าลืมซักทำความสะอาดทุกครั้งหลังใส่ ห้ามใส่ซ้ำเพราะเสื้อผ้าที่ใส่แล้วจะมีแบคทีเรีย หากนำมาใส่อีกจะทำให้เกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ได้

4. เลือกทานอาหาร จากงานวิจัยบางงานพบว่าอาหารบางชนิดเช่น อาหารกลิ่นแรงและผลไม้บางชนิด ทำให้มีกลิ่นตัวและเหงื่อออกมากขึ้น คนที่เหงื่ออกมากควรหลีกเลี่ยงการทานดีปลี พริก พริกไทยหรือผักสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน เพราะจะกระตุ้นในร่างกายขับเหงื่ออกมามากขึ้น เนื่องจากอาหารกลุ่มนี้ทำให้ร่างกายร้อนขึ้น จึงขับเหงื่ออกมาเพื่อให้ร่างกายเย็นลงนั่นเอง

5. กำจัดขนรักแร้ การกำจัดขนรักแร้นั้นไม่ใช่การลดเหงื่อโดยตรง แต่ว่าขนรักแร้นั้นเป็นสิ่งที่ช่วยกักเก็บเหงื่อเอาไว้เพื่อให้ร่างกายเย็นลง ดังนั้นเหงื่อจับตัวกันจนเปียกเสื้อเป็นดวงๆ และยังทำให้มีกลิ่นตัวด้วย ดังนั้นการกำจัดขนจึงทำให้เสื้อเปียกน้อยลง ทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายและช่วยลดกลิ่นตัวด้วย

โกนขนรักแร้ แก้ปัญหารักแร้เปียก

6. พยายามไม่ให้เหงื่อออก พยายามอยู่ในที่ที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ร่างกายจะได้เย็นจนไม่ต้องขับเหงื่อออกมามากกว่าเดิม เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหารักแร้เปียกที่ทำได้ง่าย

7. ใส่เสื้อผ้าที่ไม่คับจนเกินไป หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าคับแน่นจนเกินไป เพราะจะระบายอากาศไม่ดี ทั้งยังทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก ร้อน เหงื่อออกง่าย และไม่สบายตัว

8. แผ่นซับเหงื่อ แผ่นซับเหงื่อ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยซับเหงื่อระหว่างวันโดยการนำมาแปะบริเวณรักแร้ ซึ่งลักษณะเจ้าแผ่นที่ว่านี้ จะว่าไปแล้วก็ดูคล้ายกับผ้าอนามัยเพียงแต่มีรูปทรงที่เข้าพอดีกับสรีระใต้วงแขน ส่วนใหญ่แปะครั้งเดียวต่อวันก็เอาอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหลุดด้วยเพราะกาวค่อนข้างเหนียวพอสมควร มีขายทั่วไปตามร้านค้าออนไลน์ แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

9. ผ้าอนามัย ถ้าแผ่นซับเหงื่อมันแพงไป ผ้าอนามัยก็ใช้ได้ผลเช่นเดียวกัน โดยใช้ผ้าอนามัยแผ่นเล็กๆ มาแปะเสื้อตรงรักแร้ ใครชอบแบบเย็นๆ เลือกแบบสูตรเย็นมาใช้ นอกจากช่วยซับเหงื่อแล้ว ยังเย็นสดชื่นและช่วยดับกลิ่นด้วย ข้อเสียคือกาวอาจจะหลุดง่ายนิดหน่อย ส่วนใครที่เหงื่อออกเยอะมากๆ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนระหว่างวัน

10. มะนาว ฝานมะนาว นำมาบีบน้ำออก จากนั้นนำเอาเปลือกมาถูบางๆ ที่รักแร้ รอจนแห้ง จากนั้นตามด้วยกาารทาโรลออน จะช่วยลดเหงื่อได้เช่นเดียวกัน

11. สารส้ม จากประสบการณ์ส่วนตัว การใช้สารส้มก็ช่วยลดเหงื่อ ลดปัญหารักแร้เปียกได้เช่นกัน หลังอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้ง นำสารส้มมาทา รอสักพักแล้วค่อยใส่เสื้อผ้า อย่าลืมลบเหลี่ยมมุมด้วยล่ะ เดี๋ยวจะโดนบาด หรือจะไปหาซื้อสารส้มทารักแร้แบบสำเร็จรูปก็ได้ ใช้ง่าย สะดวก และใช้ได้นานมากๆ

12. แป้งตราเต่าเหยียบโลก หลังอาบน้ำ เช็ดตัวจนแห้งแล้ว ทาแป้งบางๆ ที่รักแร้ แป้งนี้จัดเป็นแป้งลดกลิ่นเต่าระดับตำนาน ซึ่งบางคนใช้แล้วลดเหงื่อได้ด้วย

13. ใช้โรลออนที่มีสารระงับเหงื่อ สำหรับคนที่เหงื่ออกแบบปกติ การใช้โรลออนธรรมดาอาจจะเพียงพอ แต่สำหรับคนเหงื่อออกมากแนะนำให้ใช้โรลออนที่มีสารระงับเหงื่อโดยเฉพาะจะดีกว่า เพราะโรลออนชนิดนี้จะมีส่วนผสมของสารอลูมิเนียม คลอไรด์ ซึ่งช่วยทำให้รูขุมขนมีขนาดเล็กลง ทำให้ท่อเหงื่ออุดตัน เหงื่อจะออกน้อยลงและยังช่วยลดกลิ่นตัวด้วย การทาที่ได้ผลดีที่สุดคือทาในท่านอนราบ เพราะจะทำให้เหงื่อไม่ไหลออกมาตั้งแต่แรก แต่ไม่ควรทาหลังจากโกนหรือถอนขนรักแร้เพราะจะทำให้ระคายเคืองได้ เป็นโรลออน ที่ราคาออกจะแพงไปสักหน่อยแต่ก็นับว่าได้ผลดี

14. ทำลายต่อมเหงื่อด้วยคลื่นวิทยุ วิธีนี้จะใช้คลื่นวิทยุส่งความร้อนลงไปใต้ผิวหนัง โดยคลื่นจะไปทำให้โมเลกุลของน้ำในต่อมเหงื่อร้อนขึ้นจนต่อมเหงื่อถูกทำลายและไม่สามารถผลิตเหงื่ออกมาได้อีกอย่างถาวร

15. MiraDry เป็นการใช้คลื่นไมโครเวฟลงไปทำลายต่อมเหงื่ออย่างถาวรเช่นเดียวกับวิธีก่อน มีผลเสียน้อยกว่า ปลอดภัยและได้ผลดี ช่วยลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวและยังช่วยกำจัดขนด้วยค่ะ

16. ฉีดโบท็อกซ์ การฉีดโบท็อกซ์เป็นอีกวิธีรักษารักแร้เปียกที่ได้ผลดีมาก เนื่องจากโบท็อกจะไปยับยั้งสาร Acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่ควบคุมการหลั่งเหงื่อ โดยสามารถลดการหลั่งเหงื่อได้ถึง 80% นาน 4-6 เดือน แต่ข้อเสียคือค่อนข้างเจ็บมากและราคาฉีดต่อครั้งค่อนข้างสูง รวมทั้งรักษาไม่หายขาด ต้องมาฉีดซ้ำอยู่เรื่อยๆ

17. การทำ Lontophoresis เป็นวิธีที่ใช้กระแสไฟฟ้านำสารเคมีเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อลดเหงื่อ สามารถลดเหงื่อได้นานหลายสัปดาห์ไปถึงหลายเดือน แต่ก็ได้ผลสำหรับบางคนเท่านั้น

วิธีแก้ปัญหารักแร้เปียก

18. การผ่าตัดเส้นประสาท เป็นการผ่าตัดที่ใช้กระแสไฟฟ้าเข้าไปทำลายเส้นประสาทที่มีหน้าที่ควบคุมการหลั่งเหงื่อ เส้นนี้จะอยู่บริเวณหน้าอกบริเวณใต้ซี่โครงเส้นที่ 2,3,4 การจะผ่าตัดจึงต้องวางยาสลบและมีความเสี่ยงสูงมากกว่าทุกวิธีที่กล่าวมาทั้งหมด หลังผ่าตัดต้องใช้เวลาพักฟื้นนานถึง 1-3 สัปดาห์ ผลการรักษาอยู่ที่ 30-40% เท่านั้น และถึงแม้เหงื่อจะไม่ไหลบริเวณรักแร้แล้วก็จะไปไหลที่อื่นแทน เช่น หลัง หน้าผาก ฝ่ามือ ฝ่าเท่า เป็นต้น ดังนั้นใครจะแก้ปัญหารักแร้เปียกด้วยวิธีนี้ควรไตร่ตรองดูดีๆ เพราะนอกจากอาจจะเจ็บตัวฟรีแล้ว ราคาก็แพงไม่ใช่เล่นๆ เช่นกัน

19. การผ่าตัดต่อมเหงื่อ หากลองมาหลายวิธีแต่ยังไงก็ไม่หายสักที วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีการรักษาปัญหารักแร้เปียกที่ตรงจุดที่สุดเพราะมันคือการผ่าตัดเอาต่อมเหงื่อเจ้าปัญหาออกไปเลย การผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดเล็ก ทำโดยการฉีดยาชา ตัดผิวหนังส่วนที่มีต่อมเหงื่อเยอะที่สุดออกหรืออาจจะใช้วิธีดูดไขมันเพื่อเอต่อมเหงื่ออกไปด้วยก็ได้เช่นกัน

เหงื่ออกมาเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากๆ เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกเปียกจนไม่สบายตัวแล้วยังทำให้กลิ่นตัวแรงได้ด้วย ใครที่มีปัญหารักแร้เปียกลองรักษาด้วยวิธีธรรมดาก่อนก่อน เช่น อาบน้ำ ทาแป้ง กำจัดขนรักแร้ เลือกใช้โรลออนดีๆ  หากลองแล้วแต่ยังไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมในการรักษา หากต้องรักษารักแร้เปียกด้วยการผ่าตัด ไม่ว่าจะผ่าตัดเล็กหรือใหญ่ ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงข้อดีข้อเสียก่อนแล้วค่อยตัดสินใจผ่าค่ะ