free web tracker, fire_lady AHA เคล็ดลับหน้าขาวใสจากธรรมชาติ • สุขภาพดี

AHA เคล็ดลับหน้าขาวใสจากธรรมชาติ

aha กรดผลไม้

สาวๆที่มีผิวหมองคล้ำหยาบกร้าน แต่ต้องการจะมีผิวที่ขาวขึ้นและมีสุขภาพดี หลายคนหันไปพึ่งยาและอาหารเสริมอย่างเช่น กลูต้าไธโอน หรือคอลลาเจน และสารพัดวิธีอีกมากมาย เพื่อต้องการให้ผิวขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งวิธีเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อผิว จึงทำให้สิ้นเปลืองเงินทอง และอาจมีผลเสียตามมาได้ในระยะยาว มีสารจากธรรมชาติอยู่ชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้ผิวเราขาวใสหมดจดได้ในราคาถูก และไม่เป็นอันตรายจริงหากใช้อย่างถูกวิธี มาดูกันว่าเจ้าสารตัวนั้นคืออะไร และจะช่วยให้ผิวหน้าขาวใสได้อย่างไรบ้าง

AHA มหัศจรรย์ จากธรรมชาติ

AHA (เอเอชเอ) ย่อมาจากคำว่า alpha hydroxy acid หมายถึง สารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นสารที่สกัดได้จากผลไม้และนมเปรี้ยว

AHA ช่วยปรับสภาพผิวหน้าอย่างไร

AHA เป็นที่กล่าวถึงกันมานานในแวดวงความสวยความงาม มีจุดเด่นตรงที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออกไป เผยผิวใหม่ที่สดใสเรียบเนียน ดูอ่อนกว่าวัย กรด AHA จึงถูกนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางต่าง ๆ มากมาย และยังเป็นที่นิยมใช้ตามคลินิกและสถาบันเสริมความงามด้วย เพราะมีความระคายเคืองต่อผิวน้อยมาก และเมื่อนำมาทาบนผิวหน้า จะช่วยลอกหรือผลัดเซลล์ผิวด้านบนซึ่งดูหมองคล้ำหรือเสื่อมสภาพไปแล้วให้ค่อยๆ หลุดออกอย่างช้าๆ...กระตุ้นให้เผยเซลล์ผิวใหม่ด้านล่างที่ดูอ่อนโยนและขาวใสกว่าขึ้นมาแทนที่ รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวใหม่ดูขาวและกระจ่างใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ใช้ AHA เท่าไรจึงจะเหมาะสม

สำหรับความเข้มข้นของกรดผลไม้ที่จะให้ผลตามที่กล่าวมาข้างต้น หากเป็นในผลิตภัณฑ์พวกเวชสำอางจะต้องมีความเป็นกรดและต้องมีความเข้มข้นมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป (20-70 เปอร์เซ็นต์) ถ้ามีความเข้มข้นมากก็ย่อมได้ผลมากขึ้น แต่ความระคายเคืองของผิวหนังก็จะตามมาด้วย ซึ่งควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหา AHA ได้จากครีมที่ขายตามเคาน์เตอร์เท่านั้น AHA ยังสามารถหาได้จากผักผลไม้ใกล้ๆตัวเรานี่เอง ลองไปดูว่ามีผลไม้ตัวไหนบ้างที่มี AHA และสามารถนำมาใช้กับผิวหน้า ผิวกายเราได้

มะขามเปียก 

สมุนไพรที่มี AHA หรือมีกรดผลไม้ตัวแรกซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากก็คือ มะขามเปียก วิธีใช้ก็เพียงแค่นำเนื้อมะขามเปียกประมาณเท่าลูกปิงปองแช่ในน้ำสะอาด ประมาณ 10-15 นาที จนเนื้อเปื่อย คั้นให้เนื้อมะขามเหลวเป็นครีม แล้วนำมาพอกหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หากต้องการเห็นผลเร็วและไม่แพ้หรือทนอาการแสบๆ คันๆ ได้ สามารถเพิ่มปริมาณมากขึ้นตามความพอใจ แต่ถ้าคนมีผิวแห้งต้องการใช้มะขามเปียกแนะนำให้ใส่นมจืดและน้ำผึ้งลงไปด้วย เพราะว่านมจะมีโปรตีนและไขมันที่ช่วยลดความแห้งของผิว น้ำผึ้งนอกจากจะให้น้ำตาลที่ให้ความชุ่มชื้นแล้ว...ยังมีวิตามินบี ซึ่งมีผลดีต่อผิวหน้าอีกด้วย

มะนาว

มะนาว กรดผลไม้ AHA

น้ำมะนาวมีกรดผล ไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว...ช่วยกระชับรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใส...นำน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ วิธีนี้จะเป็นการเจือจางน้ำมะนาวไม่ให้กัดหน้าเรามากเกินไป จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก จะพบว่าผิวหน้าเราจะนุ่มและใสขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ

มะเฟือง

มะเฟือง AHA

สูตรหน้าขาวใสด้วยมะเฟืองนี้ เป็นสูตรที่ใช้พอกหน้า เพื่อบำรุงและดูแลให้ผิวหน้ากระชับเต่งตึง เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้ง่าย เพื่อเผยผิวหน้าที่ขาวใสเปล่งปลั่งมาแทน และยังสามารถช่วยลดเลือนรอยด่างดำหมองคล้ำบนใบหน้าได้อีกด้วย โดยวิธีทำก็เริ่มจากการหั่นมะเฟืองเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบดหรือยีให้ละเอียด แล้วนำมาพอกให้ทั่วทั้งใบหน้า โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก เพราะสองจุดนี้เป็นบริเวณที่ผิวหนังบอบบางที่สุด หลังจากพอกหน้าแล้วก็ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะพบว่าผิวหน้าขาวใสเปล่งปลั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สับปะรด

สัปะรด AHA

สับประรดนอกจากจะมีรสชาดอร่อย ดีต่อระบบย่อยอาหารแล้ว ยังนำมาใช้ในเรื่องของความสวย ความงามอีกด้วย โดยปอกเปลือกสับปะรดออก แล้วหั่นสับปะรดออกเป็นชิ้นเล็กๆ...นำไปปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันนำมาพอกที่หน้าเว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งนะคะ ทำเป็นประจำสัก 1-2 เดือน จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าค่ะ ผิวหน้าจะไม่มันแต่จะขาวใสขึ้น และรู้สึกถึงความสะอาดหมดจดของผิวด้วยค่ะ

คำแนะนำในการใช้ AHA

กรด AHA ในปริมาณความเข้มข้นสูง แม้จะมีคุณสมบัติที่ดีในการขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกเร็วขึ้น ทำให้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ เป็นผลให้ผิวหนังดูเรียบเนียน สดใสขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง เกิดผื่นคัน และไวต่อแสงแดด(แพ้แสงแดด)ได้มากเช่นกัน บางครั้งจะทำให้เกิดรอยดำ โดยเฉพาะในผิวคนไทย ซึ่งทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังมากขึ้นด้วย แนะนำให้ทาครีมกันแดดควบคู่ไปกับการใช้ AHA โดยอาจจะทา AHA เฉพาะตอนกลางคืน และตอนเช้าก็ทามอยซ์เจอไรเซอร์และทับด้วยครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน แค่นี้ก็จะทำให้สาวๆมีผิวหน้าขาวใสไร้ริ้วรอยมากวนใจแล้วล่ะค่ะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AHA กรดผลไม้เพื่อผิวขาวใส