การดูแลรูปร่างและผิวพรรณ หน้าใส July 12, 2018 Share 0 Tweet Pin 0 17 วิธีป้องกันสิวอย่างง่าย...ลดสิวเก่า ป้องกันการเกิดสิวใหม่อย่างได้ผลปัญหา "สิว" เป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนจิตใจใครหลายคน ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วจะเป็นธรรมชาติของร่างกาย แต่สิวนั้นส่งผลโดยตรงกับความสวยงามและความมั่นใจบนใบหน้า สิวสามารถทำลายได้ทุกอย่างที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ก็สามารถทิ้งรอยแผลเป็นได้ทั้งนั้น นอกจากนี้ใครที่สิวอักเสบจนกินเนื้อผิวข้างๆ ไปมาก จะได้หลุมสิวขนาดใหญ่มาเพิ่มด้วย การรักษาก็ไม่ใช่จะทำให้หายได้ง่ายๆ อีก ดังนั้นเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เราต้องป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นสิว จะได้ไม่ต้องมาคอยรักษาสิวหรือหลุมสิวในภายหลัง ส่วนวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิว ทำอย่างไรรบ้างนั้น วันนี้เราได้รวบรวมมาฝากกันค่ะ สิว เกิดขึ้นได้อย่างไร?"สิว" หมายถึง การอุดตันที่รูขุมขนอันเกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายมารวมตัวกัน มีลักษณะเป็นจุดหรือตุ่ม อาจจะมีการอักเสบหรือไม่ก็ได้ บริเวณที่พบมากที่สุดคือใบหน้า หน้าอกและหลัง คนทั่วๆ ไปจะเริ่มเป็นสิวกันเมื่อร่างกายย่างเข้าสู่วัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากปล่อยไว้เฉยๆ โดยไม่ได้รักษา อาการสิวจะเริ่มบรรเทาขึ้นเองหากอายุมากขึ้นสาเหตุของการเกิดสิวสิวเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ คือมาจากฮอร์โมนเอนโดรเจน เพราะฮอร์โมนตัวนี้มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของต่อมน้ำมัน หากช่วงไหนที่ฮอร์โมนเอนโดรเจนแปรปรวนมากๆ สิวจะขึ้นในช่วงนั้นมากตามไปด้วย เช่น ย่างเข้าสู่วัยรุ่น ขณะตั้งครรภ์ เป็นประจำเดือน แต่ก็อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก เช่น กรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต มลภาวะประเภทของสิวสิวอุดตัน สิวอุดตันเป็นสิวที่พบได้มากที่สุด สาเหตุเกิดจากต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันมากไปจนเกินความต้องการของผิวหน้า เจ้าน้ำมันส่วนเกินนี้เมื่อเหลือใช้แล้ว จะไปรวมตัวกับพวกเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจนมีลักษณะเหนียวข้นซึ่งยากที่ใบหน้าจำจัดออกไปได้เอง เมื่อสะสมมากๆ เข้าก็จะอุดตันอยู่ตามรูขุมขน สิวประเภทนี้เป็นสิวที่ไม่สร้างความเจ็บใดๆ แต่!!! มันสร้างความรำคาญใจให้อย่างมาก เนื่องจากมันทำให้ผิวหน้าดูขรุขระไม่เรียบเนียน ถ้าหากปล่อยไว้นานโดยไม่รีบกำจัด หัวสิวจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ รูขุมขนก็จะใหญ่ตามไปด้วย ถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดหลุมสิวเลยก็ว่าได้ โดยสิวอุดตันมี 3 ชนิดคือ สิวอุดตันไม่มีหัว สิวอุดตันแบบหัวเปิด และสิวอุดตันแบบหัวปิดค่ะสิวอักเสบ เป็นสิวที่พัฒนามาจากสิวอุดตัน สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ Propionibacterium acne ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีที่มาจากความสกปรกของมือเจ้าตัวนั่นแหละ ที่ไปแกะเกา บีบสิว รวมไปถึงการจับต้องใบหน้าโดยไม่จำเป็นด้วย เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นมา ผิวจะนูนบวมแดง ถ้ารักษาไม่ทันสิวก็จะกลายเป็นสิวหัวหนอง จัดเป็นสิวที่เป็นศัตรูกับใบหน้าอย่างแท้จริง เพราะในขณะที่เป็นสิวก็จะเจ็บปวดบริเวณที่อักเสบ เมื่อรักษาจนหายแล้วก็เสี่ยงที่จะมีรอยดำ รอยแดงจากสิวทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าอีก บางคนหนักกว่านั้นเพราะได้หลุมสิวขนาดใหญ่เป็นของแถมนั่นเองสิวเสี้ยน เป็นสิวขนาดเล็กมากที่มีกลไกการเกิดแบบเดียวกับสิวอุดตัน แต่ที่แตกต่างกันคือ สิวเสี้ยนจะมีขนาดเล็กกว่า และมีเส้นขนอยู่ภายในด้วย อาจจะมีแค่เส้นเดียวหรือหลายเส้นอยู่รวมกันก็ได้ หัวสิวจะมีลักษณะคล้ายเสี้ยนแหลมๆ โผล่ขึ้นมา สิวเสี้ยนนั้นมักจะเป็นคราวละหลายๆ หัว พบได้ทั่วใบหน้า แต่จะพบมากที่ปลายจมูกและคาง เป็นต้น การเป็นสิวเสี้ยนเยอะๆ นานๆ อาจทำให้รูขุมขนกว้างได้ ส่วนสิวหัวไหนที่ข้างในมีเส้นขนเยอะๆ จนขนไม่สามรถโผล่ออกมาได้ ขนจะคุด หัวสิวก็จะกลายเป็นสิวอุดตันในที่สุดสิวผด สิวผดมีลักษณะเป็นผดเม็ดเล็กๆ สีแดง หรือเป็นผื่นแดงเรียงๆ ติดกัน อาจจะคันและอักเสบได้ถ้าเกา สามารถส่วนใหญ่เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อน แสงแดด มลภาวะรวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างที่กระตุ้นการเกิดสิว เช่น ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นต้น17 วิธีป้องกันสิว...แบบเคล็ดไม่ลับ1. เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่ง เมคอัพกับสาวๆ เป็นของคู่กัน เครื่องสำอางบางชนิดอย่าง ครีมกันแดด รองพื้น คอนซีลเลอร์ นั้นล้างออกได้ยากมาก การล้างหน้าด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าทั่วไปอาจจะล้างได้ไม่สะอาดหมดจด ก็จะหลงเหลือตกค้างอยู่บนผิวหน้าจนกลายเป็นสิวอุดตันได้ เพราะด่านแรกที่จะป้องกันใบหน้าไม่ให้เกิดสิวก็คือการล้างหน้านั่นเอง ดังนั้นใครที่ต้องแต่งหน้า อย่าลืมเช็ดหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่งทุกครั้ง แนะนำให้เลือกแบบสูตรน้ำ เพราะไม่ทำให้รุขุมขนอุดตันและไม่ทำลายความชุ่มชื่นของผิวหน้า2. หลีกเลี่ยงการทาครีมครั้งละหลายตัว ไม่ควรทาครีมหลายๆ ชนิดพร้อมกัน เพราะหากแพ้ครีม เราจะไม่รู้ว่าเราแพ้ครีมตัวไหนกันแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เป็นสิวหรือกำลังรักษาสิว ลดการใช้ครีมบำรุงผิวลงให้เหลือน้อยที่สุด ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะการทาครีมเยอะๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและไปอุดตันรูขุมขน ส่วนไอ้ที่อุดตันมาก่อนอยู่แล้วก็อาจจะกลายเป็นสิวอักเสบไปในที่สุด ตัวผู้เขียนเองในขณะใช้ยาทารักษาสิวก็ใช้ครีมบำรุงแค่เจลว่านหางจระเข้เท่านั้น จากผลลัพท์ที่ได้พบว่าเป็นผลดีต่อผิวมากกว่า สิวยุบง่ายและแห้งเร็ว ไม่บวมแดงหรืออักเสบ รวมทั้งสิวเกิดใหม่ก็น้อยลงด้วย3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม สำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับล้างทำความสะอาดผิวหน้า คนเป็นสิวนั้นต้องพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง หากเป็นสิวง่ายหรือกำลังเป็นอยู่ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์4. ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ ทุกครั้งก่อนใช้เครื่องสำอางตัวใหม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือทดสอบการแพ้ด้วยการทาครีมบริเวณท้องแขนก่อน 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการอะไรผิดปกติค่อยนำมาใช้กับผิวหน้า เพราะสภาพผิวของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ครีมบางตัวอาจใช้ได้ผลดีกับคนอื่น แต่อาจไม่ได้ผลกับเราก็ได้ เพราะถ้าหากแพ้ครีมแล้วสิวขึ้น รับรองว่าได้รักษากันยาวแน่นอน ซึ่งไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงค่ะ อีกสิ่งสำคัญที่อยากจะแนะนำคือ อย่าไว้ใจครีมที่มีขายทั่วไปตามสื่อออนไลน์ต่างๆ เพราะมีความเสี่ยงอย่างมากที่ครีมเหล่านั้นจะมีส่วนผสมจากสารเคมีอันตราย เช่น ปรอท สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน เป็นต้น เมื่อใช้สิวยุบหายไว ผิวขาวใสทันใจ พอหยุดใช้สิวอาจจะบุกกลับโดยไม่ทันได้ตั้งตัว5. อ่อนโยนกับผิวหน้า ไม่ว่าจะล้างหน้า ซับผ้าหรือทาครีม ควรทำด้วยความอ่อนโยน ไม่ถูหรือแกะเกาใบหน้าแรงๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวระคายเคือง สิวจะอักเสบมากขึ้น ในขณะล้างหน้าควรถูใบหน้าตามแนวขน เมื่อถึงเวลาล้างด้วยน้ำเปล่า ไม่ควรเปิดฝักบัวให้รดผิวแรงๆ โดยตรง และที่ลืมไม่ได้คือพยายามอย่าใช้น้ำอุ่นล้าง เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากจนลอกและคันได้6. รักษาสมดุลความมันบนใบหน้า ใครที่คิดว่าหน้ามันทำให้เป็นสิว?...คุณคิดถูกค่ะ เอ้า...แล้วจะพูดทำไมในเมื่อก็คิดถูกแล้ว? ก็เพราะว่าถ้าหน้ามันแล้วพยายามจะกำจัดน้ำมันออกจากใบหน้ามากเกินไป ก็จะเป็นสิวเช่นเดียวกัน แถมอาจเป็นมากกว่าเดิมด้วยนะ เพราะการที่คุณล้างหน้าบ่อยๆ หรือเอาแต่ซับหน้าด้วยกระดาษซับหน้ามันทั้งวัน ใบหน้าจะสูญเสียสมดุล ผิวจะคิดว่ามันแห้งจนเกินไปเลยเร่งการผลิตน้ำมันออกมา ยิ่งล้างยิ่งซับ หน้ายิ่งมัน ยิ่งมันสิ่วก็ยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม ดังนั้นเดินทางสายกลางดีกว่าค่ะ อย่าไปรบกวนอะไรกับใบหน้ามาก แค่ล้างหน้าเช้า-เย็น วันละ 2 ครั้ง หากหน้ามันในระหว่างมัน ควรใช้ทิชชู่นุ่มๆ ซับมากกว่า เพราะจะไม่ซับน้ำมันออกมากเกินไป หากใครที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายบ่อยๆ จนเหงื่อออก ให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า (เน้นย้ำว่าน้ำเปล่า) ทุกครั้งหลังเหงื่อออก7. งดจับใบหน้าโดยไม่จำเป็น เพราะในระหว่างวัน เราใช้มือหยิบจับอะไรอยู่ตลอดเวลา มือจึงเป็นแหล่งสะสมความสกปรกและแบคทีเรียชั้นดี หากใครมีสิวอุดตันอยู่แล้วเอามือมาจับหน้าบ่อยๆ สิ่งสกปรกเหล่านั้นจะกระตุ้นให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบได้ง่าย ดังนั้นไม่ควรจับใบหน้าบ่อย หลีกเลี่ยงการนั่งเท้าคางด้วยนะค่ะถ้าหากยังไม่ได้ล้างมือ8. งดบีบสิว หยุดบีบสิวโดยเด็ดขาด รวมไปถึงห้ามแคะ แกะ เกา หรืออะไรก็ตามที่ไปยุ่งกับสิวมากเกินไป เพราะการกระทำเหล่านี้โดยเฉพาะการบีบสิว เป็นการทำร้ายผิวอย่างรุนแรง เนื้อเยื่อโดยรอบสิวจะแตก บวมช้ำหรืออักเสบ สิ่งอุดตันในรูขุมขนรวมไปถึงเชื้อโรคตัวเล็กๆ จะแพร่กระจายออกมา ทำให้เป็นสิวอักเสบได้ ใครที่ชอบบีบสิวจะสังเกตได้ว่า เมื่อบีบสิวแล้วทำไมสิวยังไม่หายไปไหน บีบแล้วบีบอีก แต่สิวก็ยังชอบขึ้นในที่เดิมๆ แถมยังมีสิวหัวใหญ่ขึ้นเพิ่มในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย นอกจากจะเป็นสิวเพิ่มแล้ว ผิวหน้าอาจจะมีรอยดำรอยแดง สีผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอตามมา ดังนั้น อยากหน้าสวยใสไร้สิว หยุดบีบสิวดีกว่าน้า9. ไม่ขัด หรือ มาร์คหน้าบ่อยเกินไป การขัดหรือมาร์คหน้าเป็นเรื่องจำเป็นเพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวหน้ากระจ่างใส แต่!!! ห้ามขัดหรือมาร์คหน้าบ่อยไปเพราะว่า ผิวหน้าอาจจะบาง ไวต่อแดด แทนที่จะขาวอาจจะกลายเป็นดำได้ ยิ่งถ้ากำลังเป็นสิว ไม่ว่าจะสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ ผิวในบริเวณนั้นจะอ่อนแอมาก ควรหยุดกิจกรรมเหล่านี้ไปก่อน เพราะยิ่งขัด ยิ่งมาร์ค สิวจะอักเสบมากขึ้น เผลอๆ อาจจะแผ่ขยายพื้นที่สิวออกไปมากกว่าเดิมด้วย10. รักษาความสะอาดของเครื่องนอน-เสื้อผ้า ซักทำความสะอาดผ้าห่ม ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน บ่อยๆ ป้องกันการสะสมของไรฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ บางคนสิวรักษามาแสนนาน ยังไงก็ไม่หาย พอรักษาความสะอาดข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ สิวกลับดีขึ้นเองโดยไม่ต้องพึ่งยาหรือครีมใดๆ ทั้งนี้รวมไปถึงของใช้อย่างอื่นด้วย เช่น ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้ากับผ้าเช็ดตัวรวมกัน สิ่งของเหล่านี้เมื่อซักทำความสะอาดแล้ว ต้องนำไปตากให้แห้งสนิท โดยตากกลางแดดจ้าหรือในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก11. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เป็นสิว สำหรับบางคนอาหารมีผลต่อการเกิดสิวค่ะ การทานไม่ระวังอาจทำให้เป็นสิวเพิ่มขึ้น เช่น ขนมหวานจัด อาหารรสเผ็ด อาหารทะเล เป็นต้น ลองสังเกตตัวเองดูว่า มีอาหารอะไรบ้างที่หลังทานไปแล้ว สิวขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อรู้แล้วจะได้หลีกเลี่ยงได้ค่ะ12. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำมากเพียงพอ จะทำให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มน้ำ เมื่อผิวไม่แห้ง ใบหน้าจะไม่ขับน้ำมันออกมามากจนเหลือเป็นความมันส่วนเกินบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวนั่นเอง13. ทานอาหารที่อุดมไปด้วยใยอาหาร ทานผักและผลไม้เยอะๆ เพื่อป้องกันอาหารท้องผูกค่ะ เพราะเมื่อท้องผูก ระบบขับถ่ายจะแปรปรวน ของเสียในร่างกายไม่ถูกขับออก เมื่อตกค้างอยู่ในร่างกายนานๆ อาจจะทำให้เป็นสิวมากขึ้นได้ บางคนที่ท้องผูกบ่อยๆ จะมีสิวขึ้นที่คางเยอะเป็นพิเศษ ตัวผู้เขียนเองก็เป็นเหมือนกันค่ะ14. ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ จะสังเกตได้ว่าช่วงไหนเครียดๆ นอนไม่พออย่างในเวลาที่ต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยหรือช่วงที่ต้องอ่านหนังสือสอบ สิวจะเห่กันขึ้นใบหน้ามากกว่าปกติ เพราะเมื่อเครียดและพักผ่อนน้อย ฮอร์โมนในร่างกายจะเหวี่ยงขึ้นลงได้ง่าย ฮอร์โมนบางตัวเมื่อมีมากเกินไปนั้นกระตุ้นให้เกิดสิวโดยตรง นอกจากนี้ใบหน้าจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายด้วยค่ะ15. งดดื่มเหล้าสูบบุหรี่ เหล้าบุหรี่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวอ่อนแอ ขาดความชุ่มชื่น คอลลาเจนถูกทำลายจนผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น รวมๆ กันแล้วคือผิวจะปกป้องตัวเองได้น้อยลง สิวจะขึ้นได้ง่าย รอยเหี่ยวย่นก็ด้วย ดังนั้นไม่อยากแก่ไวหรือใบหน้าอุดมไปด้วยสิว ลด ละเลิกเหล้าและบุหรี่กันเถอะค่ะ16. หลีกเลี่ยงมลภาวะและแสงแดด อากาศในประเทศไทยนั้นร้อนมาก เมื่อตากแดดนาน แสงแดดจะไปทำให้น้ำมันบนใบหน้าระเหยออกไปจนผิวแห้งลง เมื่อผิวแห้งก็จะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น สิวอุดตันก็จะมาเยี่ยมเยียนในที่สุด และไม่ใช่แค่แดดและความร้อนเท่านั้นที่ทำให้เกิดสิว ใครที่นั่งทำงานเย็นๆ อยู่ในห้องแอร์ก็ใช่ว่าจะรอด เพราะอากาศเย็นจากแอร์ก็จะทำให้ผิวแห้งมากเช่น อีกอย่างหนึ่งคืออากาศในห้องแอร์มักจะถ่ายเทไม่สะดวก เชื้อโรคและสิ่งสกปรกมักจะวนเวียนกันอยู่ในนั้นจนไปกระตุ้นให้เกิดสิวได้17. ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า พัฟและแปรงแต่งหน้าจัดเป็นแหล่งสะสมความสกปรกชั้นดีอีกแหล่งหนึ่ง ดังนั้นหมั่นนำมาล้างทำความสะอาดบ่อย ช่วยกำจัดสาเหตุของการเกิดสิวไปอีกข้อหนึ่งค่ะมาถึงตอนนี้อยากจะฝากว่า "สิว" เป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกายมากๆ ค่ะ บางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย (ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้) ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสภาพร่างกายและปัจจัยภายนอกต่างๆ จึงไม่อยากให้ผู้ที่เป็นสิวเครียดหรือวิตกกังวลมากจนเกินไปนัก เพราะว่าถ้าหากสิวเกิดมาจากสภาพร่างกายของตนเอง มันก็ค่อนข้างปกป้องกันได้ยาก ทำได้เพียงแค่คอยรักษาตามอาการเพื่อไม่ให้เป็นมากกว่าเดิม แต่ถ้าใครที่สำรวจตัวเองดูแล้วพบว่าสิวนั้นเกิดมาจากปัจจัยภายนอกต่างๆ อันนั้นป้องกันได้ค่ะ ลองสังเกตดูว่าสิวของเรานั้นมีสาเหตุมาจากอะไรแล้วปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะวิธีการป้องกันสิวที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงการกระตุ้นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวนั่นเอง