free web tracker, fire_lady “มะเขือเปราะ” สรรพคุณ-ประโยชน์-โทษ พืชลูกเล็ก แต่ประโยชน์ไม่เล็ก • สุขภาพดี

"มะเขือเปราะ" สรรพคุณ-ประโยชน์-โทษ พืชลูกเล็กกับประโยชน์ดีๆ ที่ไม่เล็กเหมือนขนาด

มะเขือเปราะ-สรรพคุณ ประโยชน์

วันนี้จะพามารู้จักกับ “มะเขือเปราะ” มะเขือลูกเล็กพันธุ์หนึ่งที่กรอบอร่อย สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู บางคนอาจจะคุ้นเคยกับเจ้ามะเขือเปราะในรูปแบบของผักเครื่องเคียงคู่กับน้ำพริกอยู่เสมอๆ แต่ใครจะรู้ว่าเห็นลูกเล็กๆ แบบนี้แต่คุณค่าทางสารอาหารจัดเต็มมาก ใครอยากรู้สรรพคุณและประโยชน์ดีๆ ของมะเขือเปราะ ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด

ที่มา ต้นกำเนิด

มะเขือเปราะ เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์มะเขือ มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย จัดเป็นพืชสวนครัวพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่มักอยู่คู่กับครัวไทย  นอกจากจะถูกเรียกว่ามะเขือเปราะแล้ว ยังมีชื่อเรียกท้องถิ่นอีกหลายชื่อเช่น มะเขือแจ้ มะเขือคางกบ มะเขือเสวย เป็นต้น ส่วนประเทศอินเดียจะเรียกมะเขือชนิดนี้ว่า Kantakari แต่สำหรับประเทศในฝั่งยุโรปและอเมริกาจะคุ้นเคยกันในชื่อ Eggplant ซึ่งจริงๆ แล้วคำนี้สามารถใช้เรียกมะเขือได้เกือบทุกชนิด ดังนั้นถ้าจะพูดถึงมะเขือเปราะให้เติมคำว่า Thai ลงไปด้วยเป็น Thai Eggplant ซึ่งจะสื่อถึงมะเขือเปราะได้เข้าใจง่ายกว่าค่ะ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ 2-4 ฟุต ลำต้นตั้งตรง เปลือกลำต้นสีเขียว แตกกิ่งก้านสาขามาก ผิวลำต้นเรียบ ไม่มียาง รากเป็นระบบรากแก้ว รากสีน้ำตาล ทรงกลม แทงลงดิน

ใบ เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ออกแบบเรียงสลับ ใบสีเขียว ผิวใบมีขน ขอบใบเว้าเข้าเป็นคลื่น ไม่เรียบ โคนใบมน  ปลายใบแหลม มีหูใบสองข้าง

ดอก ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันคล้ายจาน ปลายดอกแยกกันเป็นแฉก กลีบดอกสีม่วงอ่อนไปจนถึงขาว ตรงกลางดอกเป็นสีเหลือง

ผล  ผลทรงกลม ผิวเรียบ มีลายเป็นริ้วๆตลอดความยาวผล ผิวผลมีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์เช่น สีเขียวอ่อน เขียวเข้ม สีขาว สีเหลือง เป็นต้น เนื้อด้านในสีขาวกรอบ ฉ่ำน้ำ เป็นเมือกเล็กน้อย มีเมล็ดขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก

เมล็ด เมล็ดมีรูปทรงกลมแบน สีขาวอมเหลือง ในหนึ่งผลอาจมีเมล็ดมากกว่า 60 เมล็ด

ลักษณะของมะเขือเปราะ

17 สรรพคุณ-ประโยชน์ดีๆ ของมะเขือเปราะ

1. มะเขือเปราะมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเบาหวาน  มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของมะเขือเปราะที่ประเทศอินเดีย โดยนำสารสกัดจากมะเขือเปราะไปทดลองกับหนูทดลอง พบว่าสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีเทียบเท่ายาไกลเบนคลาไมด์ ซึ่งเป็นตัวยาใช้รักษาแก่ผู้ป่วยโรคเบาหวานระดับ 2 ดังนั้นชาวอินเดียจึงนิยมดื่มน้ำต้มมะเขือเพื่อรักษาโรคเบาหวาน อีกทั้งมะเขือเปราะเมื่อทานไปแล้วจะออกฤทธิ์คล้ายกับอินซูลิน จึงช่วยร่างกายนำน้ำตาลไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มีใยอาหารสูง จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงหรือผู้ที่กำลังควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างดี

2. มะเขือเปราะช่วยลดน้ำหนัก มะเขือทุกชนิดรวมไปถึงมะเขือเปราะมีไฟเบอร์สูงแต่แคลอรี่ต่ำ เมื่อทานแล้วจึงช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร ถึงจะไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักโดยตรงแต่ก็เหมาะสำหรับเป็นอาหารของผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

3. สรรพคุณของมะเขือเปราะแก้ไข้ได้ มะเขือเปราะมีฤทธิ์ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย ช่วยถอนพิษไข้ ลดไข้ ลดการอักเสบและแก้ไอได้ด้วย หากใครป่วยเป็นไข้ลองทานมะเขือเปราะจะพบว่า อาการไข้หายไวยิ่งขึ้น

4. มะเขือเปราะช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เนื่องจากมะเขือเปราะมีไฟเบอร์สูง เส้นใยเหล่านี้จะช่วยหุ้มน้ำ ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นนั่นเอง

5. มะเขือเปราะช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มะเขือเปราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุจำพวกโพแทสเซียม แคลเซียมและเหล็ก ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็ง ลดความเสี่ยงในเรื่องของฟันผุ กระดูกเปราะ กระดูกพรุนได้

6. มะเขือเปราะมีสรรพคุณสมานแผล นำใบมะเขือเปราะล้างให้สะอาดนำมาขยำแล้วพอกที่แผล จะช่วยสมานแผล ทำให้แผลหายไวขึ้น ทั้งนี้ยังช่วยลดการอักเสบ หากเป็นโรคเหงือกอักเสบ เหงือกบวม คออักเสบหรือปวดฟัน นำใบมะเขือมาเคี้ยว ช่วยบรรเทาอาการได้

7. มะเขือเปราะช่วยขับปัสสาวะ ใบและรากของมะเขือเปราะนำมาต้มดื่ม รักษาโรคขัดเบา ขับปัสสาวะ

8. มะเขือเปราะช่วยลดคอเลสเตอรอล มีงานวิจัยพบว่ามะเขือเปราะช่วยลดไขมันเลวลงได้ ทั้งนี้ยังช่วยในเรื่องลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด จึงช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก

9. มะเขือเปราะช่วยบำรุงเลือด ในมะเขือเปราะมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งธาตุเหล็กนี้มีส่วนช่วยการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยบำรุงเลือด รักษาและป้องกันโรคโลหิตจาง

10. มะเขือเปราะช่วยบำรุงหัวใจ เนื่องจากมะเขือเปราะช่วยลดไขมันเลวและรักษาสมดุลของความดันเลือดในอยู่ในระดับปกติ ผลพลอยได้จึงทำให้หัวใจแข็งแรง ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปนั่นเอง

11. มะเขือเปราะช่วยบำรุงผิว มะเขือเปราะอุดมไปด้วยวิตามินอีและสานแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง หากทานบ่อยๆ จะช่วยบำรุงผิวพรรณ ส่วนสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยชะลอความเสื่อมของผิว

12. มะเขือเปราะช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่น ผดผื่นคัน โดยการนำใบมะเขือเปราะมาต้มน้ำแล้วอาบ ช่วยบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี

13. มะเขือเปราะป้องกันโรคความจำเสื่อม สารไฟโตนิวเทรียนส์ในมะเขือเปราะช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อหุ้มเซลล์ถูกทำลาย ทำให้การรับส่งข้อมูลระหว่างเซลล์เป็นไปได้ด้วยดี แต่ว่าสารนี้จะอยู่ในเปลือกเท่านั้น ดังนั้นต่อไปหากจะทานมะเขือเปราะแนะนำว่าควรทานทั้งเปลือกค่ะ

14. มะเขือเปราะช่วยบรรเทาปวด ปวดบวมอักเสบตามข้อ มือเท้าชา บรรเทาได้โดยการนำมะเขือเปราะสดมาตุ๋นกับไตหมูรับประทาน

15. มะเขือเปราะช่วยบำรุงผม นำมะเขือเปราะมาฝานหรือหั่นเป็นซีก มาถูบนศีรษะให้ทั่ว หมักทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน สารอาหารจากมะเขือเปราะช่วยบำรุงให้รากผมแข็งแรง กระตุ้นให้ผมยาวเร็ว เส้นผมนุ่มสลวยไม่แข็งกระด้าง

16. มะเขือเปราะช่วยขจัดรังแค นำมะเขือเปราะ แตงกวา อะโวคาโด้และนมเปรี้ยวมาปั่นรวมกันให้ละเอียด จากนั้นนำไปพอกหนังศีรษะทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออก แล้วสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน ช่วยลดรังแคและบรรเทาอาการคันหนังศีรษะอย่างได้ผล

17. มะเขือเปราะช่วยบำรุงตับ การทานมะเขือเปราะช่วยกระตุ้นให้ตับหลั่งน้ำดีออกมามากขึ้น ตับทำงานได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันภาวะตับวายในทางอ้อม ทั้งนี้หากตับมีสุขภาพดีจะช่วยให้ไขมันถูกย่อยสลายได้มากขึ้นด้วย

มะเขือเปราะต้านมะเร็งได้จริงหรือ?

สำหรับคนรักสุขภาพหลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า "มะเขือเปราะช่วยต้านมะเร็งได้" จากงานวิจัยหลายชิ้นที่วิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ในการต้านมะเร็งของมะเขือเปราะพบว่า ในมะเขือเปราะมีสารโซลานีน สารไกลโคอัลคาลอยด์โซลามาร์จีน สารอัลคาลอยด์โซลาโซดีนที่ไม่มีโมเลกุลของน้ำตาล ซึ่งสารทุกตัวมีฤทธิ์ในการต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งตับและมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสารโรคโรจินิกช่วยต้านอนุมูลอิสระ สารฟีนอลและวิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มให้ร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้ต่อสู้และกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทั้งหมดนี้บ่งบอกได้ว่ามะเขือเปราะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้มากพอสมควร

โทษ-ข้อควรระวังในการทานมะเขือเปราะ

หากทานมะเขือเปราะมากเกินไป สารโซลานีนในมะเขืออาจจะตกค้างสะสมและไปรวมกับไขมันเลวตามร่างกาย จากนั้นก็จะไปเกาะอยู่ตามข้อ ตามกระดูก ทำให้ปวดขา ปวดแขน และเป็นตะคริวได้ แต่จริงๆ แล้วสารนี้ยังพบได้ในผักสดอีกหลายชนิด ซึ่งไม่ควรกังวลจนหยุดทาน เพราะหากทานในขนาดปกติจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อร่างกาย แต่ถ้าหากใครเป็นโรคเก๊าต์ โรครูมาตอยด์ หรือปวดตามข้ออยู่แล้ว แนะนำว่าให้ทานมะเขือเปราะดิบแต่น้อย ถ้าทานแล้วมีอาการปวดก็นำมาปรุงสุกแทน

เมนูอร่อยด้วยมะเขือเปราะ

มะเขือเปราะสามารถทานได้ทั้งแบบสดและแบบสุก ดังนั้นจะเห็นว่ามีเมนูมากมายที่มีมะเขือเปราะเป็นส่วนประกอบเช่น ทานสดคู่กับน้ำพริกปลาร้าสับ ต้มลวกจิ้มน้ำพริก นำไปใส่ในแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด แกงป่า หรือผัดกับไข่ เป็นต้น สำหรับวันนี้เรามีเมนูอร่อยจากมะเขือเปราะมานำเสนอ รับรองว่าอร่อยเด็ดแน่นอน

แกงเนื้อมะเขือเปราะ

วัตถุดิบ

  • เนื้อวัว
  • มะเขือเปราะ
  • มะเขือพวง
  • กะทิ
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปี๊บ
  • พริกแกงใต้
  • โหระพา
  • น้ำเปล่า
แกงเนื้อมะเขือเปราะ

วิธีทำ

1. หั่นเนื้อเป็นเส้นเล็กๆ และผ่าครึ่งมะเขือเปราะรอเอาไว้

2. ตั้งกระทะ นำกะทิมาผัดกับพริกแกงใต้จนส่งกลิ่นหอม จากนั้นใส่เนื้อวัวลงไป ผัดให้พอสุก

3. นำส่วนผสมจากข้อ 2 ย้ายมาใส่หม้อ เติมกะทิลงไป เคี่ยวจนกะทิแตกมัน ส่วนใครที่ไม่ชอบกะทิมันมากๆ  สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้ตามใจชอบ

4. ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง และใบโหระพาลงไป

5. ปรุงด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตามใจชอบแล้วเคี่ยวต่อจนเนื้อเริ่มเปื่อย

6. ใส่โหระพาลงไปเพิ่ม ไม่ต้องคน ตักเสริฟได้เลย

เมื่ออ่านกันมาถึงนี่จะเห็นได้ว่า มะเขือเปราะนี้ถึงจะลูกเล็กแต่สรรพคุณและประโยชน์มากมายจริงๆ ดังนั้นคราวหน้าใครที่ไม่ชอบทานมะเขือ เจอทีไรก็เขี่ยออก อยากให้ลองทานกันดู รับรองว่ารสชาติอาจจะไม่เท่าไรแต่คุณประโยชน์ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน