free web tracker, fire_lady กินแล้วผอม…ทำอย่างไร ผอมแบบไม่ง้อการออกกำลังกาย • สุขภาพดี

กินแล้วผอม...ทำอย่างไร ผอมแบบไม่ง้อการออกกำลังกาย

กินแล้วผอม วิธีลดน้ำหนักที่ได้ผล

“ใครอยากลดน้ำหนักแต่ไม่มีเวลา ยกมือขึ้นนน” มั่นใจว่าต้องยกมือกันเพียบแน่นอน เพราะยุคนี้เป็นยุคของความรีบเร่ง เวลาที่เหลือก็น้อยเหลือเกิน อยากสวยหุ่นเป๊ะบ้าง ก็ไม่รู้จะหาเวลาไหนไปออกกำลังกาย ที่พึ่งสุดท้ายก็เห็นจะเป็นการลดน้ำหนักแบบไม่พึ่งพาการออกกำลังกายอย่างการควบคุมอาหารนี่เอง จริงๆ อยากให้เข้าใจกันก่อนว่า วิธีการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการควบคุมอาหารไปพร้อมกับการลดน้ำหนัก แต่ถ้าเราไม่มีเวลาจริงๆ ก็ต้องใช้วิธีคุมอาหารนี่แหละ ซึ่งก็มีหลายเทคนิคให้ทำค่ะ สาวๆ คนไหนอยากหุ่นดีแต่ไม่มีเวลามาดูกันได้เลยค่า

ไม่มีเวลาออกกำลังกายก็ผอมได้ ด้วย 6 เทคนิคยิ่งกิน ยิ่งผอม

1. หลีกเลี่ยงอาหารสีขาว อาหารสีขาวในที่นี้มักเป็นอาหารในกลุ่มแป้งและน้ำตาล หรือก็คืออาหารในหมู่คาร์โบไฮเดรตนั่นแหละ จริงๆ แล้วอาหารกลุ่มนี้จัดเป็นแหล่งพลังงานหลักในการดำรงชีวิต จึงมักเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ดูดซึมได้เร็วและให้พลังงานสูง ก็อย่างที่รู้กันว่า ถ้ากินมากเกินไปจนใช้พลังงานไม่หมด ก็จะเหลือสะสมกลายเป็นไขมันในร่างกายนั่นเอง จึงต้องลดปริมาณอาหารในกลุ่มนี้ลง แต่ว่าไม่ใช่ต้องงดเลยนะ เพราะร่างกายยังต้องการคาร์โบไฮเดรตอยู่ เพราะสุดท้ายมันก็กลายเป็นไกลโคเจน แล้วไปอยู่ตามตับและกล้ามเนื้อ เป็นสิ่งที่ให้พลังงานได้อย่างรวดเร็วในยามออกกำลังกาย ถ้าเกิดใช้แรงเยอะแต่กินคาร์โบไฮเดรตน้อย ร่างกายก็จะไปสลายไกลโคเจนตามกล้ามเนื้อมาใช้แทน ทำให้เกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ ทีนี้เมื่อกล้ามเนื้อน้อยลง อัตราการเผาผลาญก็จะลดลงไปด้วยเสี่ยงต่อการโยโย่อีก 

ดังนั้นจึงยังต้องกินอยู่ เพียงแต่ควรเปลี่ยนไปกินพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแทน เช่น ข้าวไม่ขัดข้าว ขนมปังโฮลวีท มันเทศ ธัญพืชเต็มเมล็ด เป็นต้น อาหารพวกนี้ถึงจะให้คาร์โบไฮเดรตเหมือนกัน แต่มันย่อยได้ช้ากว่า ดูดซึมช้ากว่า กินแล้วจึงอิ่มนาน ใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า ส่วนพวกข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาลทราย เส้นก๋วยเตี๋ยวอะไรพวกนี้ควรงด เพราะสารอาหารน้อยมากและยังอุดมไปด้วยน้ำตาลอีก

ลดอาหารคาร์โบไฮเดรตลดน้ำหนัก

แต่ก็ยังมีอาหารสีขาวที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งกลุ่มผักและเนื้อสัตว์ เช่น หัวไชเท้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เนื้อไก่ เนื้อปลา นม ไข่ขาว เป็นต้น กลุ่มนี้มีประโยชน์และกิน ได้ตลอดไม่ว่าจะตอนลดน้ำหนักหรือไม่ก็ตาม

2. แบ่งส่วนอาหารและแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย แนะนำให้แบ่งส่วนอาหารเป็น 4 ส่วนคือ ผัก 50% เนื้อสัตว์และคาร์โบไฮเดรตอย่างละ 25% ส่วนไขมันไม่ต้องนับก็ได้ เพราะกินนิดเดียวก็เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการแล้ว สำหรับจำนวนมื้ออาหาร หากมีเวลามากพอให้ทาน 5-6 มื้อต่อวัน ข้อดีของการแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ คือ ช่วยควบคุมระดับพลังงานไม่ให้มากเกินไป มีน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม การกินแบบนี้จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายด้วย สำหรับมื้ออาหารควรห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ลดมาเป็น 4-5 มื้อต่อวันก็ได้

สำหรับมื้ออาหารที่สำคัญมากจนห้ามละเลยก็คือ มื้อเช้าและมื้อหลังออกกำลังกาย เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อแรกสุดของวัน ร่างกายต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อไปบำรุงสมองและใช้เป็นพลังงานในระหว่างวัน ควรกินให้ครบ 5 หมู่ ส่วนมื้อหลังออกกำลังกายนั้นสำคัญเนื่องจาก หลังออกกำลัง ร่างกายต้องการสารอาหารมาฟื้นฟูและซ่อมในส่วนที่ถูกทำลายไป มื้อนี้หากเป็นมื้อเย็นหรือดึกให้ลดคาร์โบไฮเดรตลง เน้นโปรตีนและผักแทน เพื่อไม่ให้ได้รับพลังงานเยอะเกินความจำเป็น เพราะมันใกล้จะถึงเวลานอนแล้วนั่นเอง

3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องดื่มสำเร็จรูปไม่ว่าน้ำอัดลม น้ำผลไม้ล้วนมีน้ำตาลอยู่สูงมากทั้งสิ้น ถึงแม้จะเป็นเครื่องดื่มที่เคลมว่า 0 แคลอรี่ก็มีมักมีน้ำตาลอยู่ แต่เป็นปริมาณที่น้อยนิดจนไม่เกินค่าที่กำหนดเลยสามารถติดฉลากว่า 0 แคลอรี่ได้ มนุษย์สายเฮลตี้ทุกคนแนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มทั้งสองแบบ ถึงแม้เครื่องดื่มชนิดหลังมักจะใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็ตาม เพราะมันจะเป็นการฝึกให้ร่างกายชินกับความหวาน แต่ความหวานที่ได้รับนั้นมันปลอม จึงไปกระตุ้นให้รู้สึกโหยหาน้ำตาลจริงๆ มากขึ้น กินแล้วไม่ได้ช่วยให้หายอยากของหวาน แต่จะทำให้อยากกินมากกว่าเดิม เป็นเหตุทำให้อ้วนนั่นเอง ดังนั้นเลี่ยงได้ก็เลี่ยง เพราะเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพที่สุดก็คือ น้ำเปล่า นั่นเองจ้า

4. น้ำเปล่า สุดยอดตัวช่วยลดน้ำหนัก ปกติคนเราก็ต้องดื่มน้ำประมาณ 6-8 แก้วต่อวันอยู่แล้ว พอมาลดน้ำหนักก็ต้องยิ่งดื่มให้มากกว่าเดิม เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปในขณะออกกำลังกาย ใครที่กลัวว่าดื่มน้ำมากแล้วจะตัวบวมนี่ต้องคิดใหม่น้า เพราะการดื่มน้ำมากไม่ทำให้บวม กลับกันยิ่งดื่มน้ำน้อยยิ่งบวมค่ะ เพราะว่าร่างกายจะเข้าใจไปว่ากำลังขาดแคลนน้ำดื่ม จึงต้องรีบสะสมน้ำเอาไว้ กลัวจะไม่มีน้ำนั่นเอง เรียกว่ายิ่งดื่มน้อยยิ่งบวมนะ แต่ถ้าดื่มให้พอต่อความต้องการ ร่างกายจะลดการเก็บกักน้ำลง เพราะรู้ว่าเรามีน้ำพอกิน ตัวก็จะไม่บวมแถมระบบต่างๆ ในร่างกายก็ทำงานเป็นปกติอีกด้วยนะ

จริงๆ น้ำช่วยกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญได้ เช่น การดื่มน้ำเย็นจะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มขึ้น 1-2 แคลเพราะว่าต้องรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้สมดุล น้ำเปล่ายังนำมาใช้ลดน้ำหนักได้ด้วยนะ เพียงแค่ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาสักครึ่งชั่วโมง 1-2 แก้วทุกมื้อ จะช่วยให้อยากอาหารน้อยลง ไม่กินในปริมาณมากเกินไป

ประโยชน์ของน้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนัก

5. ชีสต์เดย์บ้าง หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “มื้อปล่อยผี”นั่นเอง ชีสต์เป็นมื้อที่สามารถกินตามใจตัวเองแต่ก็ยังต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมนะ ไม่ใช่ชีสต์เดย์จัดบิงซู ชาบู หมูกะทะแล้วบอกว่าเดี๋ยวค่อยไปเอาออก อันนั้นมันไม่ช่ายย มื้อชีสต์เดย์มีไว้เพื่อผ่อนคลายร่างกาย จากการที่โหมออกกำลังกายและควบคุมอาหารมาตลอดทั้งสัปดาห์ การลดน้ำหนักในระยะแรกทำให้ร่างกายนั้นมีความเครียดเพิ่มขึ้นแน่นอน การกินแบบนี้จึงช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้นแถมยังไปกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้นอีกด้วย

6. อย่าลืมไฟเบอร์ ไฟเบอร์ก็คือใยอาหารที่พบได้ตามผักผลไม้ทั่วไป เมื่อลดน้ำหนักไฟเบอร์เป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะว่ามันช่วยให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน ไฟเบอร์มีสรรพคุณช่วยอุ้มน้ำได้เป็นอย่างดีและด้วยความเป็นเซลลูโลสจากพืช ร่างกายจึงไม่ย่อย จึงเหลือเข้าสู่กระบวนการขับถ่ายเต็มๆ ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูกได้ดี ทั้งนี้ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยนะเพราะต่อให้กินไฟเบอร์มากแต่ดื่มน้ำน้อย ก็ยังท้องผูกได้อยู่ดีจ้า

ทานอาหารที่มีไฟเบอร์ช่วยลดน้ำหนัก

จบกันไปแล้วสำหรับ 6 เทคนิคกินแล้วผอม หรือ ยิ่งกินยิ่งผอมที่ทุกคนนำไปใช้ได้ ไม่ว่าจะอ้วนแค่ไหนก็ตาม แต่ต้องเข้าใจว่ามันจะได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้นถ้าหากออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย แต่ก็เข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลาไปออกกำลังกาย ถึงเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตามมันอาจจะเห็นผลช้าหน่อย แต่ก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับไขมันที่หายไปกับสุขภาพดีและรูปร่างที่สวยงามที่ได้กลับมาค่ะ   

เรียบเรียงข้อมูลโดย เว็บsukkaphap-d.com