free web tracker, fire_lady อึ้ง! ของบ้านๆ ทั่วไปแต่กลับไล่ยุงได้ ป้องกันไวรัสซิก้าก็เจ๋งนะ • สุขภาพดี

อึ้ง! ของบ้านๆ ทั่วไปแต่กลับไล่ยุงได้ ป้องกันไวรัสซิกาก็เจ๋งนะ

วิธีกำจัดยุงลาย ป้องกันไข้ซิกา

"ไวรัสซิกา" หรือ "ไข้ซิกา" เป็นโรคร้ายที่มียุงเป็นพาหนะ เป็นโรคที่พบในต่างประเทศ และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็หายได้เองใน 7 วัน ซึ่งตอนนี้เริ่มแพร่ขยายเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลให้หลายจังหวัดต้องควบคุมดูแลเป็นพิเศษ ถึงแม้จะยังไม่มีวัคซีนป้องกันเด็ดขาด แต่วิธีที่ดีที่สุดก็คือ อย่าให้ยุงกัดนั่นเอง

เราจึงสรรหาสารพัดวิธีกำจัดยุงแบบธรรมช๊าติ ธรรมชาติมาฝากกัน....เชื้อมั้ยล่ะว่า...แค่ของใช้ในบ้านแบบคาดไม่ถึง ก็สามารถกำจัดยุงแบบล้างโคตร แถมไล่แมลงสาบ มด หนู ได้ด้วย วิธีนี้ดี๊ดี บอกลาสารเคมีได้เลย

6 วิธี ไล่แมลงกวนใจ จัดการยุงร้าย ป้องกันไวรัสซิกา แบบเอาอยู่!!

1. ไล่ด้วยสบู่ (วิธีจัดการยุงลาย ป้องกันไวรัสซิกา)

สูตรนี้สำหรับแมลงสาบ เพราะเจ้าแมลงโสมมชนิดนี้กลัวกลิ่นหอม ดังนั้นสบู่จึงเป็นอีกทางเลือกที่เอาไว้ไล่แมลงสาบ เพียงแค่นำสบู่ก้อนและกะละมังใส่น้ำ แล้วละลายสบู่ก้อนลงไป (สับให้ละเอียด) จากนั้นเทน้ำสบู่ใส่ภาชนะต่างๆ เช่น ถ้วย แก้ว...เชื่อมั้ยว่าแค่นี้ก็ทำให้แมลงสาบไม่กล้ามายุ่งแล้ว แถมยุงก็ไม่เข้าใกล้อีกด้วย แต่อย่าลืมว่าต้องเปลี่ยนน้ำสบู่บ่อยๆ ด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวกลิ่นเน่าเหม็นจะถามหา

ยุงก็เกลียดสบู่เหมือนกัน สูตรนี้ใช้สบู่ก้อนผสมน้ำร้อน 4 ลิตร ละลายให้เข้าที่และฉีดพ่นบริเวณที่มียุง หรือเทใส่แหล่งเพาะพันธุ์ยุง วิธีนี้จะช่วยตัดวงจรชีวิตยุงได้ดีทีเดียว เมื่อยุงไม่เกิดใหม่ก็เท่ากับว่าเราช่วยป้องกันไม่ให้มีพาหะนำโรคเพิ่มขึ้น จริงมั้ย

2. ยุงกลัวกระเทียม (วิธีจัดการยุงลาย ป้องกันไวรัสซิกา)

เรื่องจริงไม่ได้อำ กระเทียมใช่ว่าจะไล่ได้แค่ผีดิบเท่านั้นนะ แต่ไล่ยุงร้าย ยุงลาย ได้อีกด้วย เพียงแค่นำกระเทียมไปวางไว้บริเวณที่มียุงชุกชุม เพียงเท่านี้ยุงก็ไม่กล้ามากวนใจคุณ ลองสังเกตดูดีๆ สิ!!...ยุงจะค่อยๆ ลดจำนวนลงจนไม่เหลือเลยล่ะ ยิ่งวันไหนฝนตกฟ้าร้องนะจ๊ะ เตรียมไว้ได้เลย ขาสวยๆ จะได้ไม่ลาย

3. มะนาวก็เยี่ยมยอดเหมือนกัน (วิธีจัดการยุงลาย ป้องกันไวรัสซิกา)

สูตรนี้เหมาะกับมดที่ชอบมาตอมขนมหวานซะมากกว่า คุณลองนำน้ำมะนาวสดๆ ไปทาบริเวณที่มดชอบเดินผ่านดูสิ รับรองได้ว่าคุณจะอึ้ง! ทึ่ง! ไปเลย เพราะมดมันหายไปทันตาจริงๆ นะ แค่ลอง 1-2 ครั้งมดก็ลดลงจนไม่มากวนใจอีกแล้ว

4. วิตามิน B1, B2, C ก็มีดีไม่แพ้ใคร (วิธีจัดการยุงลาย ป้องกันไวรัสซิกา)

สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเดินป่า ลองทานวิตามินเหล่านี้ดูสิ หรืออาจจะใช้วิตามินละลายน้ำฉีดพรมบนเสื้อผ้าก็ได้นะ มีงานวิจัยเคยบอกว่า...ยุงไม่ชอบกลิ่นของคนที่ทานวิตามินเหล่านี้ แต่กลิ่นนี้คนจะไม่ได้กลิ่น ไม่ต้องห่วงว่าจะสร้างความรำคาญให้เพื่อนร่วมทาง เพราะยุงร้ายเท่านั้นที่จะได้กลิ่นจนทนไม่ไหวกระทั่งหายไปในที่สุดจ้า

5. ดอกไม้ก็ช่วยได้ (วิธีจัดการยุงลาย ป้องกันไวรัสซิกา)

เคยได้ยินกันมั้ยคะว่า...ดอกไม้บางชนิดช่วยไล่แมลงได้ ให้คุณลองใช้ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมแรงๆ หรือใช้ต้นไม้บางชนิด เช่น สะระแหน่ ตะไคร้หอม มาวางในจุดต่างๆ ในบ้านดูสิ นอกจากให้ความสดชื่น สดใสแล้ว ยังช่วยไล่ยุงได้แบบธรรมชาติอีกด้วย แต่ข้อควรระวังก็มีเหมือนกันคือ...อย่าใส่น้ำในแจกันเยอะเกินไป เดี๋ยวกลายเป็นน้ำขัง แล้วจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ซวยไปอีก ทางที่ดีเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เพียงเท่านี้ก็จบปัญหาจ้า

6. เปลี่ยนผ้าม่านสีโทนร้อน (วิธีจัดการยุงลาย ป้องกันไวรัสซิกา)

รู้หรือไม่ว่า...เจ้ายุงทั้งหลายปลื้มสีมืดๆ พวกสีดำ สีเข้ม นักเชียว คนที่สวมถุงน่องดำนั่นแหละจะโดนกัดก่อนเพื่อน แต่ในทางกลับกัน เจ้ายุงก็เกลียดสีโทนร้อน พวกสีแดง สีส้มแจ่มๆ นักล่ะ ลองเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีส้ม สีแสดดูสิ หรือจะใช้กระดาษแก้วเป็นสีๆ มาห่อหลอดไฟดูก็ได้นะ งานนี้นอกจากจะไล่ยุงแล้ว คนก็อาจจะโดนไล่ไปด้วย เพราะเหมือนอยู่กลางแดดจ้าๆ เอาน่ะ ถือว่ากำลังซาวน่าเบิร์นไขมันก็แล้วกัน

เคล็ด(ไม่)ลับ...วิธีแก้คัน ป้องกันขาลาย

ใช้ยาสีฟันผสมน้ำเกลือ :เวลาไปต่างประเทศ ถ้าลูกน้อยโดนยุงกัดจนตัวลาย จะเกาก็กลัวเป็นแผล เดี๋ยวมีรอยด่างดำทั้งตัว แต่จะปล่อยเฉยก็คันยิกๆ ยาหม่องก็ไม่ได้พกติดตัวไป ให้คุณลองใช้ยาสีฟันผสมน้ำเกลือทาบางๆ บริเวณรอยคันดูสิ วิธีนี้ช่วยลดอาการคันได้อย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ

ใช้กระเทียม : กระเทียมนอกจากจะช่วยป้องกันยุงและแมลงแล้ว ยังแก้คันได้ดีด้วยนะ คนโบราณจะนำกระเทียมทุบพอแตกมาทาบริเวณที่โดนยุงกัด ไม่นานรอยแดงๆ ก็จาง พร้อมกับพิษยุงก็หายไปด้วยจ้า สูตรนี้เวิร์คมากอยากให้ลอง

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีป้องกันยุงและแมลง แถมช่วยป้องกันไวรัสซิกาได้อีกด้วย แค่ของใกล้ๆ ตัว ก็ไม่อยากเชื่อเลยใช่มั้ยว่าจะสามารถไล่ยุงร้ายและแมลงกวนใจไปได้ นอกจากนี้ยังมี แตงกวา พริกป่น เปลือกส้ม และก็ ผงซักฟอก ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม แบบไม่ง้อสารเคมีอีกด้วยนะ ถ้าใครทดลองแล้วดีอย่าลืมมากระซิบบอกกันด่วน

ถ้าเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ ได้โปรดแชร์วนไปเลยจ้า ^_^

ที่มา: www.saradd.com

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี