free web tracker, fire_lady เลิกกินตามใจปาก ลดน้ำหนักได้...ลองแล้วคุณจะรู้ • สุขภาพดี

เลิกกินตามใจปาก ลดน้ำหนักได้

"การกินตามใจปาก" เป็นพฤติกรรมที่ทำให้อ้วนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนใหญ่เรามักกินเพราะถึงเวลาอาหารบ้าง กินเพราะอาหารอร่อยยั่วลิ้นบ้าง บางคนกินเพราะไม่มีอะไรจะทำ บางคนกินแก้เครียด บางคนกินตามเพื่อน ตามสังคม เรากินกันด้วยสารพัดเหตุผล ซึ่งหลายๆ ครั้งไม่เกี่ยวกับความหิวเลย

ควรกินเมื่อไหร่ ?

ดังนั้นหากผู้ที่อยากจะลดความอ้วน หรือควบคุมน้ำหนักควรที่จะเรียนรู้กินในแบบที่ร่างกายต้องการจริงๆ มากกว่าเมื่อรู้สึกอยากจะกิน การฝึกเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้นิสัยการกินอาหารตามใจปากถูกทำลายลงอย่างราบคาบ

นักโภชนาการอธิบายว่า การกินอาหารตามใจขณะที่ร่างกายยังไม่ต้องการอาหารจริงๆ ทำให้อาหารส่วนเกินเหล่านั้นกลายเป็นภาระของระบบต่างๆในร่างกาย ส่งผลให้การเผาผลาญทำได้ไม่เต็มที่ ไขมันมหาศาลจึงหลงเหลืออยู่ แล้วเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายโดยไม่จำเป็น การกินอาหารเมื่อร่างกายต้องการจริงๆ มีประโยชน์ โรแกลโล (Roe Gallo) ผู้เขียนหนังสือ Perfect Body กล่าวว่า “การกินอาหารเมื่อร่างกายต้องการจริงๆ มีผลทำให้ของเหลวในร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล” เพราะเมื่อร่างกายหิว (ตรงตามมื้อ) การทานเพื่อเพิ่มพลังงาน เป็นการให้อาหารแก่เซลล์อย่างพอเหมาะพอดี การเผาผลาญอาหารและกำจัดของเสียออกจากร่างกายก็จะทำได้ดีด้วย ทำให้ไม่มีพลังงานส่วนเกินที่ทำให้อ้วน

จัดการพฤติกรรมกินตามใจปากอย่างไร

1 กินอาหารเช้า เชื่อไหมคะว่า คนที่งดอาหารเช้ามีโอกาสอ้วนมากกว่าคนที่กินอาหารเช้าถึง 5 เท่าด้วยกัน เนื่องจากการงดอาหารเช้าทำให้เกิดความอยากกินอาหารในระหว่างวันมากขึ้น ทำให้ได้รับแคลอรีมากกว่าปกติถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้ยังพบว่าการกินอาหารเช้าช่วยลดความอยากกินของว่างให้น้อยลงได้อีกด้วย

2 หากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ไม่สามารถทานได้เมื่ออยากกินอาหารโดยไม่รู้สึกหิว เช่น เล่นดนตรี ออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน เพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกอยากกินให้น้อยลง

3 แปรงฟันและขัดฟันด้วยไหมขัดฟันทันทีหลังมื้อเย็นจะช่วยลดความอยากอาหารได้

4 คิดไว้เสมอว่า อาหารเหล่านั้นจะอยู่ในปากแค่ 2-3 นาที แล้วหลังจากนั่นเราอาจต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

สำหรับคนที่อยากลดหรือควบคุมน้ำหนัก ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ ทำได้รับรองว่าต้องบอกลา…ไขมันส่วนเกิน…ไปได้เลยค่ะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับวิธีลดน้ำหนัก อย่างได้ผล

Click here to add a comment

Leave a comment: