"โคเอนไซม์ Q10" เอนไซม์มหัศจรรย์

ปัจจุบันแนวโน้มการดูแลสุขภาพ ผิวพรรณ และความสวยความงามนั้นกำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากคนในสังคมเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการที่มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางเพื่อบำรุงความงามออกมาจำหน่ายและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โคเอนไซม์ Q10 ก็เป็นสารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น จึงเป็นที่น่าสนใจว่าโคเอนไซม์ Q10 คืออะไร มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อผิวและสุขภาพอย่างไร วันนี้สุขภาพดี...มีคำตอบมาให้ค่ะ

โคเอนไซม์ Q10 คืออะไร ?

"โคเอนไซม์ Q10" เป็นโคเอนไซม์ชนิดหนึ่งซึ่งพบในทุกเซลล์ทั่วร่างกาย มีคุณสมบัติคล้ายวิตามิน ละลายในไขมัน ร่างกายสามารถผลิตได้เอง ซึ่งโคเอนไซม์ Q10 ที่ผลิตในร่างกายนี้ สังเคราะห์มาจากกรดอะมิโนที่ชื่อ ไทโรซีน (Tyrosine) และฟีนีลอะลานิน (Phenylalanine) โดยอาศัยกระบวนการในร่างกายหลายขั้นตอนร่วมกันกับวิตามิน 7 ชนิด คือ วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินบี 6, กรดโฟลิก, วิตามินบี 12, วิตามินซี และกรดแพนโททีนิก จะเห็นได้ว่า แม้ร่างกายเราจะสามารถสังเคราะห์ โคเอนไซม์ Q10 ได้ แต่หากร่างกายขาดวิตามินชนิดใดชนิดหนึ่งอันเป็นปัจจัยในการสังเคราะห์โคเอนไซม์ Q10 ขึ้นมาแล้วนั้น ร่างกายเราก็จะไม่สามารถผลิตโคเอนไซม์ Q10 ขึ้นมาได้เลย

โคเอนไซม์ Q10 ยับยั้งคอเลสเตอรอล ป้องกันอัลไซเมอร์

เนื่องจาก โคเอนไซม์ Q10 เป็นสาระสำคัญที่มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงาน มักพบในอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น ตับ ไต หัวใจ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ และช่วยลดความเมื่อยล้า โคเอนไซม์ยังสามารถช่วยยับยั้งคอเลสเตอรอลไม่ให้จับตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือด จึงลดการเกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตันได้ สามารถบรรเทาอาการปวดบริเวณหน้าอกจากโรคความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ อีกทั้งช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ เนื่องจากโคเอนไซม์ Q10 มีฟีนีลอะลานิน เป็นส่วนประกอบ สารตัวนี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ซึ่งผลิตฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ความจำดีขึ้นได้ ดังนั้นผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโคเอนไซม์ Q10 เป็นส่วนประกอบตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยลดโอกาสการเป็นโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราได้

โคเอนไซม์ Q10 ชะลอเซลล์เสื่อมสภาพ

ส่วนกรดอะมิโนอีกตัวหนึ่งคือ “ไทโรซีน” ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตโคเอนไซม์ Q10 นั้นจะช่วยให้เซลล์เสื่อมสภาพช้าลง และเป็นตัวควบคุมความรู้สึกหิวในสมองส่วนไฮโปธาลามัส อีกทั้งยังช่วยทำให้เหงือกแข็งแรง ลดอาการอักเสบของเหงือก หรืออาการเหงือกบวม นอกจากนี้โคเอนไซม์Q10 ยังมีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี และยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะเกิดขึ้นภายในเซลล์ของร่างกาย สามารถทำงานร่วมกับวิตามินอีซึ่งเป็นสาร Antioxidant ตัวหนึ่งได้ และจะช่วยเสริมฤทธิ์กัน ดังนั้นหากเลือกที่จะรับประทานโคเอนไซม์ Q10 เป็นอาหารเสริม ก็ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินอีสูงอย่าง ถั่ว และผักผลไม้ต่างๆร่วมด้วย เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของโอเอนไซม์ Q10 ให้ดีขึ้น

โคเอนไซม์ Q10  ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย ป้องกันมะเร็ง

โคเอนไซม์ Q10 ยังทำหน้าที่คอยกระตุ้นให้เซลล์เปลี่ยนสารอาหารเป็นพลังงาน และนำพลังงานมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ โคเอนไซม์ Q10 เป็นสาร Antioxidant ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยทำหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ในทางชีวเคมี นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระจากกระบวนการเมตาบอลิซึมระดับเซลล์ซึ่งมีผลทำให้สามารถป้องกันความเสื่อมชราของเซลล์ได้ และยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์มีการรับออกซิเจนเข้าไปใช้ได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้เกิดผลดีต่อกระบวนการสร้างพลังงานของร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิตซึ่งเกิดจากการแข็งตัวของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ลดอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ในร่างกาย เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร ลดความเสี่ยงต่อภาวะเซลล์กล้ามเนื้อตายเนื่องจากการทำงานหนักและมีสารตกค้างซึ่งเกิดจากกระบวนการเมตาบอลิซึม

มีการค้นพบว่าเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตโคเอนไซม์ Q10 ได้น้อยลง ดังนั้นความสามารถในการทำงานของเซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวหนังจะมีประสิทธิภาพลดลงด้วย คือ เซลล์ผิวหนังไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะคงความกระชับ ยืดหยุ่น และเต่งตึง ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆเพิ่มขึ้น พูดง่ายๆ คือการไม่มีโคเอนไซม์ Q10 ผิวก็ไม่สามารถต่อต้านความแก่ด้วยตนเองได้นั่นเอง ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีผู้ผลิตอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางนานาชนิด ที่มีสารโคเอนไซม์ Q10 โดยหวังว่าจะทำให้เซลล์ผิวหนังสามารถสร้างพลังงาน คืนความยืดหยุ่น ลบเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวหนังกลับเรียบดังเดิม โดยมักจะผสมโคเอนไซม์ Q10 ในมอยส์เจอร์ไรเซอร์ร่วมกับผสมสารอื่น เช่น ไลโปโซม หรืออาจจะผสมโคเอนไซม์ Q10 ในครีมทารอบดวงตา ครีมรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ครีมบำรุงผิวหรือกินอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของโคเอนไซม์ Q10 ยังไม่เพียงพอ อย่าลืมหลีกเลี่ยงแสงแดด งดการสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลส์ ผ่อนคลายความตึงเครียด เพราะสิ่งที่กล่าวมาเป็นสาเหตุของริ้วรอยที่สำคัญมาก

ปริมาณโคเอนไซม์ Q10 ในร่างกาย

แม้ว่าโคเอนไซม์ Q10 จะเป็นสารที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้เอง แต่ก็อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าโคเอนไซม์ Q10 จะสร้างในปริมาณที่ลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่จะทำให้ปริมาณโคเอนไซม์ Q10 ในร่างกายลดลงได้อีก เช่น ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม สารพิษ และมลพิษต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การพักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับยาหรือสารเคมีบางชนิด หรือแม้แต่ความเครียด ก็ล้วนส่งผลต่อปริมาณโคเอนไซม์ Q10 ในร่างกายทั้งสิ้น ดังนั้นร่างกายจึงควรได้รับโคเอนไซม์ Q10 จากอาหารด้วย 

ส่วนแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไปด้วยโคเอนไซม์ Q10 ได้แก่ น้ำมันปลา ปลาทะเล หรือสัตว์ทะเลต่างๆ อาหารจำพวกพืช เช่น รำข้าว บร็อกโคลี ถั่วเหลือง เป็นต้น แต่หากในชีวิตประจำวันเราไม่สามารถรับประทานอาหารเหล่านี้ได้อย่างเพียงพอ อาหารเสริมก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะไม่ทำให้ร่างกายของคุณขาดโคเอนไซม์ Q10

เห็นได้ว่า โคเอนไซม์ Q10 เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ปัจจุบันจึงได้มีการนำ โคเอนไซม์ Q10 มาใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในทางการแพทย์เพื่อรักษาอาการของโรคต่างๆในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพื่อลดริ้วรอย และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว แต่การที่คนเราจะมีสุขภาพดี ผิวพรรณสดใสได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณโคเอนไซม์ Q10 ในร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย เช่น การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ การทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นวิธีที่ง่ายๆ และประหยัดซึ่งสามารถช่วยให้คนเราสุขภาพดีได้