“คลอโรฟิลล์” มีสรรพคุณ ประโยชน์จริงหรือแค่ลวงโลก?

“น้ำคลอโรฟิลล์ ผงคลอโรฟิลล์ แค่ชงแล้วเขย่าก็สุขภาพดีได้” อาจจะเป็นประโยคที่ดุคุ้นหูสำหรับใครหลายคนที่มักจะเสาะอาหารอาหารเสริมต่างๆ มาบำรุงสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ เพราะคลอโรฟิลล์จัดเป็นอาหารเสริมที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากพอสมควรในปัจจุบัน สรรพคุณดีๆ ที่มากมายที่ได้ยินมากจากคำโฆษณานั้นดูจะดีต่อสุขภาพร่างกายมากมาย แต่จริงๆ แล้วอาหารเสริมคลอโรฟิลล์ที่ว่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่ มาหาคำตอบได้จากที่นี่ค่ะ

คลอโรฟิลล์ (chlorophyll) คือสารประกอบที่พบได้ในพืชที่มีสีเขียว แบคทีเรียบางชนิดที่สามารถสังเคราะห์ได้ รวมทั้งพบได้ในสาหร่ายเกือบทุกชนิด คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่สังเคราะห์แสงเพื่อนำอาหารไปหล่อเลี้ยงและดำรงชีวิต โครงสร้างของคลอโรฟิลล์คล้ายคลึงกับโครงสร้างของฮีม(Heme) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของเม็ดเลือดแดงมาก

อาหารเสริมคลอโรฟิลล์ในท้องตลอดตอนนี้มีทั้งแบบผงชงและแบบเครื่องดื่มพร้อมดื่ม ซึ่งกว่าจะมาเป็นอาหารเสริมต้องผ่านกระบวนการผลิตมาหลายขั้นตอน คลอโรฟิลล์ที่ได้จึงไม่ใช่คลอโรฟิลล์จากธรรมชาติอีกต่อไป

มีการโฆษณาว่าคลอโรฟิลล์มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น ช่วยบำรุงเลือด ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงเพราะมีโครงสร้างคล้ายกัน ถ้ารับประทานแล้วจะเข้าไปเสริมสร้างให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงได้มากขึ้น หรือช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดกลิ่นปาก ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้หลายฝ่ายยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าคลอโรฟิลล์มีประโยชน์จริงหรือไม่ จึงมีการนำคลอโรฟิลล์ไปศึกษาวิจัยเพื่อหาคำตอบ

1. ช่วยลดกลิ่นปาก  อาหารเสริมคลอโรฟิลล์บางยี่ห้อนั้น ผู้ประกอบการได้อ้างว่าสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์เหล่ามีปริมาณคลอโรฟิลล์ผสมอยู่ในสัดส่วนที่น้อยมากๆ เรียกได้ว่าแทบไม่มีผลอะไรต่อกลิ่นปากเลยมากกว่า ดังนั้นหากใครอยากลดกลิ่นปากก็แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ บ้วนปากด้วยน้ำเกลือก่อนนอนก็ช่วยลดกลิ่นได้แล้วค่ะ

2. ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย  สำหรับประโยชน์ในข้อนี้ บางคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าคลอโรฟิลล์ช่วยรักษาบาดแผลให้หายไวได้เนื่องจากคลอโรฟิลล์มีสรรพคุณในการช่วยฆ่าเชื้อโรคซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าคลอโรฟิลล์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดได้จริง แต่เมื่อเทียบกับยาฆ่าเชื้อแล้วคลอโรฟิลล์มีประสิทธิภาพต่ำกว่ามากๆ ดังนั้นไม่ว่าจะดื่มหรือนำมาล้างแผล คลอโรฟิลล์ก็ไม่ได้ช่วยให้แผลหายไวขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อของแผลอีกด้วย ดังนั้นอยากให้แผลหายไวๆ ควรรักษาแผลตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยมีอุปกรณ์และขั้นตอนที่สะอาด รวมทั้งรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงจะช่วยส่งเสริมให้บาดแผลรักษาตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

3.ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง  คลอโรฟิลล์มีโครงสร้างที่คล้ายกับฮีมมาก ซึ่งฮีมคือโครงสร้างหลักของเม็ดเลือดแดง จึงเชื่อกันว่าหากรับประทานคลอโรฟิลล์กันเข้าไป จะไปเป็นสารตั้งต้นที่ช่วยเสริมสร้างการผลิตเซลล์เม็ดแดง หากใครมีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างเม็ดเลือดแดง อาจจะมีสาเหตุมาจากการขาดคลอโรฟิลล์ก็เป็นได้

ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โครงสร้างของคลอโรฟิลล์คล้ายกับฮีมก็จริง แต่ว่ามีองค์ประกอบของโครงสร้างแตกต่างกับองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดงอย่างชัดเจน รวมทั้งหน้าที่ยังแตกต่างกันอีกด้วยเพราะเมล็ดเลือดมีหน้าที่ขนส่งสารอาหารและออกซิเจนไปทั่วร่างกายแต่คลอโรฟิลล์มีหน้าสังเคราะห์แสงเท่านั้น

4.ช่วยขับสารพิษ  สำหรับสรรพคุณในการขับสารพิษหรือดีท็อกซ์ร่างกายนั้น คลอโรฟิลล์ไม่ได้มีโครงสร้างเหมือนเส้นใยของพืช ที่จะช่วยดูดซับสารพิษและถูกขับออกในรูปของอุจจาระ ดังนั้นการทานคลอโรฟิลล์จึงไม่ได้ช่วยในเรื่องขับสารพิษเหมือนกับรับประทานพืชผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยเส้นใยทั่วๆ ไป

5.ช่วยบำรุงผิว ส่วนในเรื่องการบำรุงผิว ยังไม่พบงานวิจัยที่บ่งบอกว่าคลอโรฟิลล์ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ขาวใสหรือเรียบเนียนเปล่งปลั่งแต่อย่างใด

6.ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย  ความเชื่อในข้อนี้เป็นผลพวงมาจากข้อที่เชื่อว่าคลอโรฟิลล์ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง บางคนถึงกับกล่าวว่าคลอโรฟิลล์คือเลือดของพืชเลยทีเดียว ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะโครงสร้าง องค์ประกอบและหน้าที่ของคลอโรฟิลล์และเม็ดเลือดแดงนั้นแตกต่างกัน สิ่งที่ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายคือ “ฮีโมโกลบิน” คลอโรฟิลล์ไม่ใช่ฮีโมโกลบินจึงไม่ได้ช่วยในการเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายแต่อย่างใด มีหน้าที่แค่สังเคราะห์ให้พืชเท่านั้น อีกอย่างคือคลอโรฟิลล์มีส่วนประกอบหนึ่งของโครงสร้างเป็นอะตอมของแมกซีเซียมจึงไม่สามารถละลายน้ำได้ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ ส่วนคลอโรฟิลล์ที่สกัดมาก็ไม่ใช้คลอโรฟิลล์ธรรมชาติอีกแล้ว จึงไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่น่าเชื่อถือได้มายืนยันประโยชน์ในเรื่องนี้เลย

การรับประทานคลอโรฟิลล์ในปริมาณมากอาจจะทำให้อุจจาระเป็นสีเขียว หรือทำให้เกิดการท้องเสียได้ รวมทั้งสารอาหารและสารเคมีอื่นๆ ที่ใส่เพิ่มเข้ามาในอาหารเสริม หากได้รับมากๆ ในเวลานานอาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายในเรื่องอื่นได้ค่ะ

ดังนั้นหากใครที่คิดจะรับประทานคลอโรฟิลล์นั้น แนะนำให้รับประทานผักผลไม้สดจะดีกว่า เพราะได้คลอโรฟิลล์เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียวและสาหร่ายต่างๆ ซึ่งจัดเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์เลยทีเดียว หากเป็นผู้ที่รับประทานผักใบเขียวอยู่เป็นประจำ ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาอาหารเสริมคลอโรฟิลล์มารับประทานเพิ่มแต่อย่างใด

อาหารเสริมผสมคลอโรฟิลล์ในปัจจุบันนั้น มีการโหมโฆษณากันอย่างมากมาย ซึ่งสรรพคุณต่างๆ ที่กล่าวอ้างกันมานั้น เกือบทั้งหมดยังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่น่าเชื่อถือได้มารับรองสรรพคุณนั้นๆ อีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเหล่านี้มักจะมีราคาแพงมาก แต่ประโยชน์ที่ได้กลับน้อยมากจนแทบจะเรียกว่าไม่ได้ประโยชน์เลยสะมากกว่า ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจรับประทานอาหารเสริมใดๆ รวมไปถึงคลอโรฟิลล์ควรศึกษาประโยชน์และข้อมูลต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะจริงๆ แล้วหากคนเรารับประทานอาหารครบ 3 มื้อและหลากหลายครบ 5 หมู่ ก็สามารถได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการโดยไม่ต้องรับประทานอาหารเสริมใดๆ เลย