คลินิกสุขภาพจิต ไขปัญหาสุขภาพ May 2, 2018 Share 0 Tweet Pin 0 "ดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนักได้" ชัวร์หรือมั่วนิ่ม?ว่ากันว่าคนเราสามารถอยู่ได้หลายวันถ้าไม่ได้ทานอาหาร แต่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วันหากขาดน้ำ น้ำมีความสำคญ มีประโยชน์ต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย และที่สำคัญสาวๆ หลายๆ คนคงเคยได้ยินว่า "น้ำช่วยลดน้ำหนักได้" ซึ่งจะเป็นความจริงหรือไม่สามารถหาคำตอบได้จากที่นี่เลยค่ะ การดื่มน้ำสำคัญอย่างไรต่อร่างกาย"น้ำ" จัดเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย โดยมีสัดส่วนมากตั้งแต่ 55- 78 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว ดังนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากอย่างยิ่ง นอกจากการดื่มน้ำจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น เย็นสบายแล้ว น้ำยังมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด เช่น ช่วยให้อวัยวะในร่างกายทำงานกันเป็นระบบ ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยกระตุ้นกระบวนการเมแทบอลิซึม ช่วยกระตุ้นสมองให้สดชื่น เป็นต้นการดื่มน้ำช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?สาวๆ หลายคนคงเคยได้ยินว่าการดื่มน้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนักได้ ซึ่งเป็นไปได้จริงหรือที่แค่น้ำเปล่าจะช่วยให้การลดน้ำหนักนั้นเป็นผลสำเร็จ วันนี้เราหาคำตอบมาฝากกันค่ะมีผลงานวิจัยจากสถาบัน Institute for Public Health and Water Research และ Virginia Tech University ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า น้ำเปล่าช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลในร่างกายศาสตราจารย์ดอกเตอร์ บาร์รี ป็อปคิน ผู้อำนวยการศูนย์ UNC Interdisciplinary Obesity Center สหรัฐอเมริกา ได้กล่าวถึงเหตุผลที่สนับสนุนว่าน้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนักได้เพราะว่า การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อร่างกายเย็นลง จะกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้นเพื่อคงความสมดุลอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย จึงทำให้พลังงานและไขมันถูกเผาผลาญตามไปด้วย ส่วนเหตุผลต่อมาคือเมื่อทานน้ำเปล่ามากเพียงพอ จะช่วยลดความอยากดื่มน้ำชนิดอื่นๆ เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ชาหรือกาแฟเป็นต้นนอกจากนี้หลายคนยังคิดว่าการดื่มน้ำมากจะทำให้ร่างกายบวมน้ำหรือไม่ จริงๆ แล้วการดื่มน้ำในปริมาณที่พอเพียงตามร่างกายต้องการนั้นไม่ทำให้บวมน้ำ แต่การดื่มน้ำน้อยกับทำให้ร่างกายบวมน้ำมากกว่า อันเนื่องมาจากหากดื่มน้ำน้อย ร่างกายจะเข้าใจผิดว่าอยู่ในภาวะขาดน้ำ ดังนั้นร่างกายจึงพยายามสะสมน้ำเอาไว้เพื่อทดแทนการขาดน้ำนั่นเอง ดังนั้นควรดื่มน้ำให้มากๆ ส่วนวิธีการดื่มน้ำยังไงจึงจะช่วยลดน้ำหนักได้นั้น เราจะพูดถึงกันต่อไปค่ะประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่ากับการลดน้ำหนัก1. ช่วยให้กล้ามเนื้อและผิวหนังชุ่มชื่น สำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก หากดื่มน้ำน้อย ผิวหนังอาจจะเหี่ยวย่น กล้ามเนื้ออาจจะไม่เฟิร์มกระชับเนื่องจากขาดน้ำ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือควบคุมน้ำหนัก น้ำถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากๆ ซึ่งขาดไม่ได้เลยทีเดียว2. การดื่มน้ำช่วยให้ไตทำงานเป็นปกติ การทำงานของไตมีส่วนสัมพันธ์กับการลดความอ้วน เนื่องจากถ้าไตทำงานไม่ปกติ ตับจะทำงานหนักแทน โดยปกติหน้าที่ของตับคือการเผาผลาญไขมันในร่างกาย หากดื่มน้ำน้อยจนไตทำงานไม่ปกติ ตับไปทำงานแทนไต การเผาผลาญไขมันจะลดน้อยลง การลดความอ้วนจะทำได้ช้าลงนั่นเอง3. ลดการกินจุกจิก ในบางคนที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้หิวบ่อยๆในระหว่างวัน ซึ่งอาจจะหาทางออกด้วยการซื้อขนมหรือลูกอมมาทาน จนน้ำหนักขึ้นยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นใครที่รู้สึกหิวบ่อยบ่อยในระหว่างวันให้ลองดื่มน้ำอุ่นๆสักแก้ว อาจจะทำให้หายหิวไปเลยก็ได้4. บรรเทาอาการท้องผูก จะสังเกตได้ว่าใครที่ท้องผูกบ่อยๆ หรือขับถ่ายไม่ค่อยเป็นเวลาจะลงพุงนิดๆ ถึงแม้ว่าจะไม่อ้วนก็ตาม อีกทั้งยังทำให้รู้สึกอึดอัดไม่ค่อยสบายตัว ใครที่อยากแก้ปัญหานี้แนะนำให้จิบน้ำในระหว่างวันบ่อยๆ ดื่มให้พอวันละ 8-10 แก้วต่อวัน อาจจะสังเกตผลก่อนสัก 1 อาทิตย์ คุณจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง หน้าท้องจะยุบ ขับถ่ายเป็นเวลามากขึ้นและรู้สึกอึดอัดน้อยลงวิธีการลดน้ำหนักด้วยการดื่มน้ำ1. ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังตื่นนอน หลังตื่นนอนให้ดื่มน้ำทันที 1 แก้ว เพื่อชาร์จพลังให้ร่างกาย จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น พร้อมรับกับวันใหม่ ทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ บรรเทาอาการท้องผูก2. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงและหลังอาหารครึ่งชั่วโมงในทุกๆ มื้ออาหาร ในขณะกำลังรับประทานอาหาร ไม่ควรดื่มน้ำเยอะเกินไปเพราะว่าจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง กระเพาะจะย่อยอาหารได้ไม่เต็มที่ อาจจะทำให้ท้องอืดอาหารไม่ย่อยได้ ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารน้อยลง ทำให้หิวบ่อยระหว่างวัน ซึ่งจะทำให้บางคนกลายเป็นคนกินจุกจิกได้เพราะหิวบ่อย ส่งผลให้การลดน้ำหนักทำได้ยากยิ่งขึ้น3. ดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง ขณะออกกำลังกายหรือทำงานให้ใช้แรงงานหนัก ควรจิบน้ำบ่อยๆ หรือดื่มน้ำครึ่งแก้วทุกๆ 15 นาที เพื่อป้องกันการค่ะ4. ดื่มน้ำทุกครั้งเมื่อร่างกายรู้สึกต้องการน้ำ อย่ารอให้ตัวเองหิวน้ำจนคอแห้ง ถ้าเกิดอาการปากแห้งปากแตก ผิวแห้งไม่ค่อยมีชีวิตชีวา อาจจะบ่งบอกได้ว่าร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ5. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8 ถึง 12 แก้ว หากใครไม่แน่ใจว่าแต่ละวันควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไร ให้คำนวณดังนี้ น้ำหนักตัว(กิโลกรัม)* 40/1000 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน เช่น หนัก 50 กิโลกรัม จะได้ 50*40/1000 = 2 ลิตรต่อวัน ทั้งนี้ไม่นับรวมน้ำแกง น้ำก๋วยเตี๋ยว น้ำนม เพราะถือว่าเป็นอาหารไม่ใช่น้ำเปล่า นอกจากนี้ยังไม่ควรดื่มเครื่องดื่มผสมน้ำตาลเยอะๆ เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ เพราะนอกจากยังไม่ช่วยลดน้ำหนักแล้วอาจจะทำให้น้ำหนักขึ้นไข้พรวดเลยก็ได้6. ดื่มน้ำโดยกระจายเวลาตลอดทั้งวัน เน้นจิบบ่อยๆ อย่าดื่มน้ำครั้งเดียวทีละมากๆ เพราะส่งผลเสียมากกว่าผลดี อาจจะทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายได้7. แนะนำให้ดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิร่างกายเล็กน้อย หรือประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส น้ำจะไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป น้ำอุ่นจะทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายทำงานหนักขึ้น จะทำให้ร่างกายอุณหภูมิสูงขึ้น ระบบเผาผลาญก็ทำงานมากขึ้นนั่นเองน้ำเปล่าช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างไร1. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญไขมัน กระบวนการกำจัดไขมันจะทำงานสำเร็จบ้างก็ต่อเมื่อตับได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ดังนั้นน้ำถึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นไขมันก็จะถูกกำจัดออกไปได้น้อยแล้วก็จะตกค้างสะสมอยู่ในร่างกายนั่นเอง2. น้ำช่วยลดความอยากอาหาร จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอที่ร่างกายต้องการ จะไม่หิวบ่อยหรือกินจุบจิบตลอดเวลาเหมือนผู้ที่ดื่มน้ำน้อย3. ช่วยย่อยอาหาร การดื่มน้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น จะสังเกตได้ว่าถ้าช่วงไหนดื่มน้ำน้อย จะรู้สึกท้องอืด อึดอัด เหมือนอาหารไม่ย่อย แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรดื่มน้ำเยอะขณะรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ควรดื่มก่อนหรือหลังมื้ออาหารจะดีกว่า4. เร่งอัตราการเผาผลาญ การดื่มน้ำนั้น ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อร่างกายเย็นลง จะมีการกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญมากขึ้น เพื่อคงระดับสมดุลความร้อนในร่างกาย สารอาหารและพลังงานถูกเผาผลาญและนำไปใช้มากขึ้น จึงลดการตกค้างสะสมของไขมันในร่างกายด้วยสรุปได้ว่าน้ำเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนัก ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ผลดีขึ้นในหลายหลายทาง แต่อย่างไรก็ตามสาวสาวๆ อย่าเพิ่งใจร้อนดื่มน้ำทีละมากๆ เพราะอยากให้น้ำหนักลดเร็วๆ เพราะการดื่มน้ำครั้งละมากๆอาจทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษได้ ซึ่งการลดน้ำหนักนอกจากดื่มน้ำให้เพียงพอ เหมาะสมแล้ว ควรทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งจะได้ทั้งหุ่นสวย ควบคู่การมีสุขภาพดีไปด้วยจ้า