เคล็ดลับสุขภาพ เรื่องน่ารู้ November 9, 2016 Share 1 Tweet Pin 0 ปลูก “อะโวคาโด” สุขภาพดี เศรษฐกิจงาม...ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลของในหลวง รู้หรือไม่ว่า “อะโวคาโด” ผลไม้เมืองนอกที่มีราคาแพงไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศเสมอไปนะ...เพราะในหลวง ร9 ของเราได้พระราชทานอาชีพให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งพระราชทานผลไม้ดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ให้เราได้รับประทานในราคาที่ไม่แพงเกินไปอีกด้วย ปลูกยังไง? ปลูกที่ไหนน่ะเหรอ ตามมาดูทางนี้ แหล่งปลูกอะโวคาโดในเมืองไทย ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2521 ท่ามกลางหุบเขา ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเขตพื้นที่หางดง เมื่อก่อนที่นี่เป็นแหล่งทดลองไม้เมืองหนาวที่สำคัญ โดยเฉพาะกุหลาบที่มีกลิ่นหอม แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนงานส่งเสริมโดยเน้นมาปลูกพืชอินทรีย์หลากหลาย ที่สำคัญคือ "อะโวคาโด" นั่นเอง ซึ่งเราสามารถรับประทานผลสดได้เลย มีไขมันไม่อิ่มตัวประมาณ 8-20 % สรรพคุณของอะโวคาโดช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ให้วิตามินสูง นอกจากให้คุณค่าทางอาหารแล้วยังใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อการสกัดน้ำมันในอุตสาหกรรมอีกด้วย “อะโวคาโด” ผลไม้พลิกชีวิตด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลของในหลวงช่วยพลิกชีวิตชาวบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประชาชนได้รับประทานผลไม้หลากประโยชน์ในราคาที่จับต้องได้ คุณอาย "เตจ๊ะ" เกษตรแม่บ้านขนิลเหนือ ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า..."เมื่อก่อนปลูกพืชไร่ ปลูกกล้วย ทำสวนลิ้นจี่มาโดยตลอด รายได้ไม่ค่อยดี และไม่มีตลาดที่แน่นอน พร้อมทั้งต้องใช้หนี้ค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ประกอบกับสุขภาพไม่ค่อยดีจึงเปลี่ยนมาทำเกษตรแบบผสมผสาน เมื่อเจ้าหน้าที่จากโครงการหลวงเข้ามาแนะนำส่งเสริมให้เปลี่ยนมาปลูกอะโวคาโด พร้อมทั้งปลูกพืชแบบผสมผสานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง ร.9 ได้ทำการประยุกต์ใช้มาประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา และทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น"“อะโวคาโด” ผลไม้หลากประโยชน์เพื่อสุขภาพ เมื่อก่อนคนไทยไม่ค่อยนิยมผลไม้ชนิดนี้ เนื่องจากเมืองไทยมีผลไม้ให้เลือกหลากหลาย ประกอบกับคนไทยนิยมรับประทานผลไม้ที่มี่รสหวาน กลิ่นหอม ในขณะที่ "อะโวคาโด" มีรสชาติมัน จืด ความหวานจึงน้อยกว่าที่คนไทยคุ้นเคย แต่เชื่อหรือไม่ว่า คุณค่าทางอาหารของมันมากมายชนิดที่เราต้องร้องว๊าว! เลยทีเดียว เพราะอะโวคาโดขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการ อะโวคาโดมีไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอไมก้า 6 สามารถกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดี ทั้งยังมีส่วนช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท โดยไม่ต้องไปหาอาหารเสริมมาบำรุงเลยทีเดียว เรามาดูสรรพคุณที่มากมายของอะโวกันเถอะ1. บำรุงสมองและป้องกันสมองเสื่อม มีการศึกษาพบว่า อะโวคาโดช่องป้องกันโรคนสมองเสื่อมได้ เพราะมีกรดโอเลอิกสูง ช่วยรักษาเนื้อเยื่อซึ่งช่วยป้องกันระบบประสาทและสมอง จึงทำให้การทำงานของสมองมีความรวดเร็วและไม่เมื่อยล้า หากใช้สมองมาก2. ช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักเป็นอย่างดีสายคลีนห้ามพลาด 3. อะโวคาโดมีโปรตีนสูง และมีกรดอะมิโนสำหรับร่างกายในการย่อยโปรตีนที่ดี ช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งต่างๆ มีวิตามินอีที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง4. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เพราะมีสาระสำคัญในการช่วยป้องกันและควบคุมการเต้นของหัวใจได้ดี ทำให้มีการไหลเวียนโลหิตดี มีกรดโอเลอิกมาก5. ป้องกันมะเร็งเต้านม มีการวิจับพบว่ามี ลูทีน วิตามินอี และมีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงเรื่องระเร็งเต้านม โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการมีบุตรมาแล้ว 6. อะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี และมีแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ จึงเป็นผลไม้วิเศษที่เหมาะกับคนรักสวยรักงาม นอกจากนั้นยังมี วิตามิน B1, B2, B6 ฟอสฟอรัส, ไนอาซีน, โพแทสเซียม, กรดโฟลิก, ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง สดใส ไม่เหี่ยวย่นนั่นเอง เคล็ดลับแบบสุดๆ ในการทาน “อะโวคาโด” ให้อร่อยอะโวคาโดสามารถทานและทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสลัดผลไม้ น้ำสลัด แยม หรือใช้รับประทานแทนแตงไทยน้ำกะทิก็ได้ ทานกับไอศกรีมก็รสชาติดี หรือจะทานด้วยวิธีง่ายๆ แต่อร่อยไม่รู้ลืม แนะนำให้ตักทานกับน้ำผึ้งหอมๆ แบบนี้ขอกระซิบว่าอร่อยจนไม่เคยพอ ที่มา: https://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539825125&Ntype=8https://www.technologychaoban.com/news_detail.php?tnid=587บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับโครงการหลวง เปิดความลับ…ทำไมสินค้า “ดอยคำ” ราคาแพง? ได้ยินถึงกับน้ำตาไหล ผักอินทรีย์ ของดีจาก “โครงการหลวง” สายคลีนห้ามพลาด เปิดกรุ 10 ตัวท็อป สินค้าห้ามพลาดจาก “โครงการหลวง” เปิดความลับ “นมวัวแดง” หนึ่งในอาชีพพระราชทานจากในหลวง ร.9