"ผักบุ้งต้ม" ลดไขมัน รีดสิ่งอุดตันในลำไส้ ทั้งพุงยุบ ทั้งหน้าใส จัดด่วน!!

มาอีกแล้วสูตรดีท็อกซ์ร่างกายจากธรรมชาติ ช่วยชำระล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ให้หายเกลี้ยง วันนี้เราขอนำเสนอผักพื้นบ้าน หาง่าย ราคาถูกแต่สารพัดประโยฃน์นั่นก็คือ “ผักบุ้ง” นั่นเอง ซึ่งจะเป็นตัวรีดสิ่งอุดตันออกจากลำไส้ ให้ถ่ายคล่องปรี๊ด คล่องปรี๊ด เลิกหงุดหงิดใจ หน้าผ่องใส ส่วนผักบุ้ง ลดไขมันได้ยังไงมาดู

ผักบุ้งดียังไง?

มากินผักบุ้งกันเถอะ เพราะผักบุ้งกำเล็กๆ กำนี้เป็นอาหารดีท็อกซ์ธรรมชาติที่เยี่ยมยอดมากๆ ทั้งช่วยลดความอ้วน ทั้งป้องกันท้องผูก รู้มั้ยว่าผักบุ้ง 100 กรัม ให้พลังงาน 22 กิโลแคลลอรี และยังประกอบไปด้วยเส้นใย วิตามินและร่าตุอื่นๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี 2 วิตามินบี3 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก เป็นต้น

ผักบุ้งช่วยป้องกันท้องผูกและช่วยรีดสิ่งอุดตันในลำไส้ให้หายเกลี้ยง นับว่าเป็นการดีท็อกซ์แบบธรรมชาติ๊ ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเหลือง ปัสสาวะเป็นเลือด และถ่ายเป็นเลือดอีกด้วย แค่คั้นน้ำจากลำต้นมาผสมน้ำผึ้งดื่มก็ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และยังมีอีกสารพัดสูตรที่จะนำมาบอกกล่าวในบทความต่อไปอย่างละเอียด แต่ถ้าใครเน้นการลดน้ำหนักแล้วล่ะก็ ต้มผักบุ้งจิ้มน้ำพริกเป็นมื้อเย็นสิ รับรองพุงยุงทันใจ

วิธีรับประทานผักบุ้งเพื่อลดไขมัน

ผักบุ้งเป็นผักที่ต้องปรุงอาหารผ่านความร้อนสักครู่ก็ใช้ได้แล้ว เพราะความร้อนจะเป็นการไปกระตุ้นสรรพคุณให้ทำงานได้เต็มที่ วันนี้เราจึงมีเมนูง่ายๆ จากผักบุ้งมาฝากกัน เพื่อเป็นการคลีนลำไส้แบบไม่เบื่อหน่าย หรือ จืดชืด ไปเสียก่อน

คำแนะนำ ผักบุ้งต้มถ้าอยากให้สีเขียวสวยต้องรีบน็อคน้ำเย็นทันที เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพควรรับประทานคู่กับน้ำพริกที่ไม่ผัดน้ำมัน เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกปลาทู หรือน้ำพริกปลาร้า เป็นต้น ส่วนข้าวก็ควรเลี่ยงข้าวขัดขาวแต่รับประทานข้าวกล้องแทน หรือจะเลี่ยงไม่รับประทานข้าวก็ได้เช่นกันถ้าวันนั้นร่างกายคุณได้รับคาร์โบไฮเดรตเพียงพอแล้ว

ข้อควรระวังในการดีท็อกซ์

นอกจากการดีท็อกซ์จะมีประโยชน์ ช่วยล้างพิษ ขจัดสิ่งตกค้างและฟื้นฟูสุขภาพแล้ว เรายังต้องรู้จักข้อควรระวังอีกด้วย สำหรับคน 7 กลุ่มต่อไปนี้ห้ามทำดีท็อกซ์เด็ดขาด เพราะอะไรนั้นมาดูกัน

1. ผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบลำไส้ใหญ่ เช่น ลำไส้อักเสบ อุดตัน มะเร็งลำไส้ เพราะเมื่ออัดน้ำเข้าไปจะทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวมากขึ้น (แบบสวน) และอาจทำให้ลำไส้แตกถึงขั้นเสียชีวิตได้

2. ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดลำไส้ด้วยการเปิดหน้าท้อง

3. เด็ก

4. สตรีมีครรภ์

5. ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย สุขภาพไม่แข็งแรง และผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ

6. ผู้ป่วยช่องท้องอักเสบ

เห็นมั้ยว่าทุกๆ อย่างมีทั้งคุณและโทษ ถ้าหากเราเข้าคอร์สดีท็อกซ์ทั้งที่ร่างกายไม่พร้อมอาจเกิดผลร้ายตามมาได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการบำบัดด้วยธรรมชาติผ่านอาหาร ถ้าเรานำสิ่งที่ดีเข้าสู่ร่างกาย งดเว้นอาหารขยะ สุขภาพดีก็ตามมาเอง จงจำไว้ว่าหมอที่ดีที่สุดคือตัวผู้ป่วย ถ้าเราไม่รักษาด้วยตัวเอง หวังพึ่งแต่สารเคมีภายนอก กินอาหารขยะแล้วสรรหายาวิเศษมากิน สิ่งที่ได้รับอาจจะไม่เป็นดังที่คิดเสมอไปนะคะ

ถ้าใครเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ โปรดแชร์วนไปค่ะ

ที่มา: https://plus.google.com/wm/1/113146528524548992503/posts/6AZ4v96xw7c,

https://www.detsood.com/6560-content/

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี