เคล็ดลับสุขภาพ เรื่องน่ารู้ November 8, 2016 Share 0 Tweet Pin 0 ผักอินทรีย์ ของดีจาก “โครงการหลวง” สายคลีนห้ามพลาด “โครงการหลวง” เป็นโครงการส่วนพระองค์ที่ในหลวงทรงก่อตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาลดการปลูกฝิ่น ถางป่า ทำไร่เลื่อนลอย หันมาปลูกพืชเมืองหนาวแทน หลักๆ ผลิตภัณฑ์ของโครงการนี้คือ “ผักปลอดสารพิษโครงการหลวง” ซึ่งมีผักนานาชนิด เช่น 11 ผักอินทรีย์ เพื่อสุขภาพดี ในโครงการหลวง 1. ข้าวโพดหวานสองสี (sweet corn bicolor) ข้าวโพดหวานสองสี จัดเป็นพืชที่ให้พลังงานสูง และมีปริมาณโปรตีนรองจากถั่วลันเตา ถั่วแขก และกระเทียม นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยธาตุอาหารที่สูง เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และ ไทอามิน นอกจากนี้แล้วพันธุ์ที่มีสีเหลืองมากจะให้วิตามินเอมาก สามารถนำไปนึ่ง ปิ้ง ย่าง หรือฝานผสมมะพร้าวทำของหวานก็ได้ ข้าวโพดหวานสองสี 2. คะน้าใบหยิก (curl leaf kale) คะน้าใบหยิกจัดอยู่ในพืชตระกูลกะหล่ำ เป็นผักที่ได้รับการขนานนามว่ามีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุดในโลก เป็น The green of queen โครงการหลวงจึงได้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อทำการปลูกให้ประชาชนคนไทยได้กินผักที่มีประโยชน์ ผักคะน้าใบหยิก3. ยอดซาโยเต้ (chayote shoot) หรือที่รู้จักกันในชื่อยอดฟักแม้ว เป็นผักที่ดีต่อผู้ควบคุมน้ำหนัก ส่วนที่นิยมรับประทานได้แก่ เนื้อและยอด อีกทั้งมีไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องขับถ่าย และยังมีประโยชน์ในเรื่องช่วยรักษาความดันโลหิตและสลายนิ่วในไตอีกด้วย4. ซาโยเต้ (chayote) หรือลูกฟักแม้วนี่เอง มีประโยชน์ไม่แพ้ยอดผักเลยทีเดียวเหมาะสำหรับคนทีต้องการลดน้ำหนัก รู้หรือไม่ว่าเนื้อฟักแม้ว 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 13 กิโลแคลอรีเท่านั้น ฟักแม้วสามารถรับประทานได้ทั้งยอดและเนื้อ เมนูสุดฮิตคือยอดฟักแม้วผัดน้ำมันหอย สำหรับเนื้อนิยมนำไปผัดไข่ จะหวานกรอบ หรือสามารถนำมาปั่นรับประทานน้ำสดๆ ก็ได้ มีส่วนช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูงและสลายนิ่วในไต ผลซาโยเต้ 5. แตงกวาหนาม (prickled cucumber) ผลจะมีขนาดเล็ก มีผิวหนาม นิยมนำมาดองใส่ของ สำหรับรับประทาน เป็นเครื่องเคียงอาหารพวกสเต๊ก ในฤดูฝนและฤดูหนาว แตงกวามีสารอาหารที่ให้พลังงานน้อยมาก เมื่อเทียบกับผักใบเขียวอื่นๆ เพราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก คุณสมบัติของแตงกวาคือมีคุณสมบัติเย็น มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้ไข แก้เจ็บคอ และบรรเทาอาการแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แตงกวาหนาม6. ถั่วหวาน (sugar snap pea) เป็นถั่วที่ได้รับการผสมสายพันธุ์ระหว่างถั่วลันเตากับถั่วอิงลิช โดยปกติถั่วลันเตาจะมีฝักที่เหนียวและแข็ง เมล็ดโต ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์สำหรับรับประทานฝักสด มีเนื้อฝักที่หวาน อร่อย แน่น ถั่วหวานมีคุณค่าทางอาหารเหมือนถั่วลันเตาโดยทั่วไป คือ มีแคลเซียมฟอสฟอรัสมาก มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน เหล็ก ไนอาซิน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 และวิตามินซี เหมาะอย่างยิ่งต่อการบำรุงกระดูกและฟัน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด7. ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butter head lettuce) ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮดหรือกะหล่ำดาวนั่นเอง เป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผักที่ให้วิตามินสูง เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน กะหล่ำดาวนิยมนำไปรับประทานคู่กับสลัด หรือทานคู่กับน้ำพริก ห่อเมี่ยงคำ ทานคู่กับยำ เนื้อย่าง หรือใช้ตกแต่งจานอาหารก็ได้ แต่นิยมรับประทานสดมากกว่าปรุงสุก 8. เบบี้แครอท (baby carot) มีลักษณะเป็นหัวเล็กๆ สีส้ม มีรสหวาน อร่อย สามารถรับประทานสดได้ ทำให้รับประทานง่ายและได้ประโยชน์เต็มๆ หรือจะนำไปปรุงอาหารเหมือนแครอทปกติก็ได้รสชาติกรุบกรอบไม่แพ้กัน และได้รับสารอาหารเหมือนแครอทสีส้มทั่วไปทุกประการ แจ่มไปเลยเนอะแบบนี้ เบบี้แครอท 9. พาร์สเลย์ (parsley) พาร์สเลย์ ผักใบเล็กประโยชน์ล้ำ ถ้าใครนึกไม่ออกให้นึกถึงผักใบเล็กๆ หยักๆ ขอบใบคล้ายผักชี มีต้นใบที่แข็งและเหนียว มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใช้ตกแต่งอาหารฝรั่ง แต่จริงๆ แล้วประโยชน์ของมันก็ไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารมากมาย พาส์เลย์ 1 ถ้วย จะมีเบต้าแคโรทีน หรือวิตามินเอมากกว่าแครอทหัวใหญ่ๆ หนึ่งหัวเชียวนะคะ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มากกว่าส้มตั้ง 2 เท่าเชียวนะ มีแคลเซียมมากกว่านม 1 แก้ว มีวิตามินอีเทียบเท่าเมล็ดดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ มีโปรตีนมากกว่าเต้าหู้ขาว 1 ชิ้น มีใยอาหารมากกว่าข้าวโพด 1 ฝัก ตั้ง 15 เท่า โอ้ย ยังมีประโยชน์อีกสารพัด สาธยายไม่หมดค่ะ 10. ฟักสปาร์เกตตี้ (Spaghetti Squash) เหตุผลที่เรียกว่าสปาร์เกตตี้ก็เนื่องจากเมื่อทำให้สุกแล้วเนื้อข้างในจะเป็นเส้นๆ การทำฟักชนิดนี้ให้สุกมีหลายวิธีเช่น ต้ม นึ่ง อบ ย่าง ไมโครเวฟ ตามความสะดวกเลย เมนูที่นิยมได้แก่ ผัดไทยไร้เส้น หรือสปาเกตตี้ หรือ ใช้แทนเมนูเส้นอื่นๆ ได้อร่อยล้ำ ถ้าใครไปเที่ยวภาคเหนือแล้วล่ะก็หาซื้อมาชิมกันได้เลยจ้า ฟักสปาเก็ตตี้ 11. บีทรูท (beet root) บีทรูทหรือผักกาดแดง หรือผักกาดฝรั่ง เป็นผักที่ใช้กินส่วนหัว เพราะเป็นพืชที่ส่วนหัวหรือรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน สารสีแดงในบีทรูทมีประโยชน์มหันต์ สาระสำคัญชื่อว่า โคปีน ซึ่งเป็นเม็ดสีแคโรทีนอยด์ที่ให้สีแดงแก่ผักต่างๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันความเจ็บป่วย รวมถึงโรคมะเร็งอีกด้วยค่ะได้รู้จักกับผักอินทรีย์ ของดีจาก "โครงการหลวง" กันไปแล้ว อย่าลืมหามาทานเพื่อสุขภาพที่ดีกันด้วยนะค่ะบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับโครงการหลวง เปิดกรุ 10 ตัวท็อป สินค้าห้ามพลาดจาก “โครงการหลวง” เหตุผล 26 ข้อ…ที่รู้แล้วต้องรีบซื้อสินค้า “โครงการหลวง” เปิดกล่องส่องนม 5 ยี่ห้อ…ที่พ่อหลวงพระราชทานไว้ให้ลูกหลาน เปิดความลับ “นมวัวแดง” หนึ่งในอาชีพพระราชทานจากในหลวง ร.9