คลินิกสุขภาพจิต ไขปัญหาสุขภาพ May 11, 2018 Share 29 Tweet Pin 0 "ฝังเข็มลดความอ้วนได้" ชัวร์หรือมั่วนิ่ม?ไม่ว่าใครๆ ก็อยากมีรูปร่างหน้าตาที่ดีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคุณสาวๆ เรื่องของน้ำหนักตัวมีผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนอ้วนพยายามเสาะหาวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลจริง โดยไม่ต้องออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร เพราะการออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแม้จะปลอดภัยแต่ทำได้ยาก ยิ่งคนไม่มีวินัยหรือกำลังใจมากพอ ทำแป็บๆ ก็เลิก หรืออดใจทานอาหารอร่อยๆ ไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องมานั่งรู้สึกผิดที่ทานเข้าไปอีก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ว่า "การฝังเข็มช่วยลดน้ำหนักได้" ถือเป็นที่ฮือฮากันมากพอสมควรเพราะไม่ต้องไปเหนื่อยออกกำลังกาย ไม่ต้องอดใจงดทานอาหารอร่อยๆ แถมดูแล้วน่าจะปลอดภัยมากกว่าทานยาลดความอ้วน ดังนั้นหลายคนที่ได้ยินข่าวนี้อาจจะงงๆ และสงสัยว่า การฝังเข็มจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร เพราะมันดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวกับกลไกการลดน้ำหนักเลย ใครที่อยากรู้ว่าการฝังเข็มช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ หาคำตอบได้จากบทความนี้ค่ะการฝังเข็มคือ?การเอาเข็มเข้าไปกดในจุดต่างๆ ของร่างกาย จัดเป็นแพทย์ทางเลือกแขนงหนึ่งของแพทย์แผนจีน จุดที่ว่านี้จะอยู่กระจายกันไปทั่วร่างกาย ซึ่งตำราจีนโบราณมีการบันทึกตำแหน่งของจุดต่างๆ นี้เอาไว้ โดยปกติแล้วการฝังเข็มจะได้ผลดีในการรักษาอาการปวดประเภทต่างๆ เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดท้องประจำเดือน ปวดศีรษะเรื้องรัง เป็นต้น แต่ก็มีการนำวิธีฝังเข็มมาใช้ประโยชน์ในด้านลดน้ำหนักด้วยเช่นกัน ว่ากันว่าเป็นอีกวิธีที่ได้ผลดี ส่วนจะมีหลักการหรือขั้นตอนอย่างไรบ้าง ได้ผลจริงหรือไม่มาดูกันดีกว่าค่ะการฝังเข็มช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไรมีผลการศึกษาวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์อยู่หลายชิ้น ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการฝังเข็มลดน้ำหนัก เช่น คณะแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยนานกิง ได้ผลการวิจัยว่า การฝังเข็มมีผลทำให้กลไกการทำงานของฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง มีผลต่อการสะสมและการสลายไขมันของร่างกาย มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญคือ ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ไขมันลดลง น้ำหนักตัวผู้ทดลองก็ลดลงเช่นเดียวกัน หรือจะเป็นผลการวิจัยของแผนกฝังเข็ม มหาวิทยาลัยแพทย์จีนกวางสี่ พบว่าการฝังเข็มช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ น้ำและไขมันในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจากงานวิจัยทั้งสองชิ้นนี้เชื่อเหมือนกันว่า การฝังเข็มทำให้กลไกการทำงานของฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง มีการปรับสมดุลของระดับน้ำตาลและไขมันในร่างกาย เมื่อลดน้ำตาลและไขมันลงได้แล้วจะช่วยส่งผลดีทางอ้อมคือ ลดความเสี่ยงและบรรเทาความรุนแรงของโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายถ้าอ้วน เช่น โรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้นประโยชน์ของการฝังเข็มต่อการลดน้ำหนัก1. กระตุ้นระบบเผาผลาญ ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ลดการตกค้างสะสมของพลังงาน ช่วยย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายทำงานดี และช่วยให้ระบบต่างๆ ที่กล่าวทำงานสอดคล้องประสานกันได้เป็นอย่างดี2. ปรับสมดุลต่อมต่างๆ ในร่างกาย เช่น ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ต่อมเหล่านี้หากทำงานมากน้อยผิดปกติ จะส่งผลต่อน้ำหนักของร่างกายได้ เช่นหากต่อมไทรอยด์ทำงานหนักมากเกินไป เกิดภาวะไทรอยด์เป็นพิษ จะทำให้หิวง่าย กินจุบจิบได้ เป็นต้น3. บำรุงตับและไต ตับมีหน้าที่เผาผลาญไขมัน ส่วนไตมีหน้าที่แลกเปลี่ยนของเสียและขับถ่ายออกจากร่างกาย หากตับและไตแข็งแรง จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น4. บำรุงตับอ่อน มีฮอร์โมนสำคัญหลายตัวที่ถูกสร้างจากตับอ่อนโดยเฉพาะ อินซูลิน ฮอร์โมนอินซูลินมีหน้าที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน ช่วยรักษาความสมดุลของปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดการเตรียมตัวก่อนไปฝังเข็มลดน้ำหนัก1. ควรสวมใส่เสื้อแบบแยกชิ้น เช่น เสื้อกับกางเกงหรือกระโปรง เพื่อความสะดวกในการฝังเข็ม2. หากวินิจฉัยแล้วว่าต้องมีการฝังเข็มบริเวณต้นคอ ต้องรวบเก็บผมให้เรียบร้อย เพราะการฝังเข็มบริเวณนี้ต้องใช้ความแม่นยำอย่างมากในการฝัง3. พยายามผ่อนคลายและไม่เครียดเพราะจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานไม่ดี4. ชำระล้างร่างกายให้สะอาดขั้นตอนการฝังเข็มลดน้ำหนัก1. เข้าไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการวินิจฉัย เพื่อประเมินการรักษารวมทั้งหาวิธีรักษาที่เหมาะสม2. ก่อนฝังเข็มแพทย์ผู้รักษาจะจะทำความสะอาดในบริเวณจุดที่ต้องการฝัง อาจจะเน้นในจุดที่ที่หย่อนคล้อย เช่น ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น3. ทำการฝังเข็ม ซึ่งขั้นตอนนี้ในบริเวณ แพทย์อาจจะพิจารณาการใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าที่เข็มเพิ่ม เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายกระชับไวขึ้น4. ฝังเข็มทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที5. แพทย์จะทำงานติดหมุดที่ใบหู อาจจะใช้หมุดแม่เหล็กหรือหมุดที่ทำมาจากเมล็ดผักก็ได้ ลักษณะเหมือนการกดจุด โดยจะใช้สติกเกอร์แปะทับหมุดลงไปที่ใบหู เป็นการกดจุดที่จะช่วยลดความอยากอาหารลง ซึ่งเป็นการรักษาร่วมกันกับการฝังเข็มนั่นเอง สำหรับหมุดที่ใช้กดจุดนั้นต้องเปลี่ยนทุกๆ 3-4 วันเพราะอาจะทำให้เกิดอาการคันหรืออักเสบได้6. โดยปกติแล้ว การฝังเข็มลดความอ้วนจะใช้เวลาประมาณ 8-12 สัปดาห์ โดยฝังเข็มสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะเห็นผลข้อควรระวังในการฝังเข็มการฝังเข็มมีความเสี่ยงคือ ความสะอาดของอุปกรณ์ ดังนั้นใครที่เลือกการรักษาด้วยวิธีนี้ควรหาสถาบันการรักษาที่ได้มาตรฐาน แพทย์ผู้รักษามีความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์และสถานที่ต้องสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเข็มที่ใช้ฝัง ต้องผ่านการฆ่าเชื้อและใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเท่านั้น ส่วนการกดจุดด้วยหมุด ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ป้องกันอาการคันหรืออักเสบ หากรู้สึกคันจนทนไม่ได้ มีหนองหรือบริเวณที่กดมีกลิ่นเหม็นให้รีบแกะสติกเกอร์หรือปลาสเตอร์ที่ใช้แปะออก แล้วรีบไปพบแพทย์ที่ทำการรักษาจะเห็นได้ว่าการฝังเข็มเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการย่อยและการเผาผลาญ รวมไปถึงกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่จำเป็นออกมา ดังนั้นใครอยากลดน้ำหนักแบบได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน แนะนำให้เริ่มที่ควบคุมอาหารดีกว่าค่ะ ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร ทานให้ครบสามมื้อ โดยลดคาร์บ ลดไขมัน ของมันๆ ทอดๆ น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมหวานต่างๆ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย อย่าหักโหม ทำเท่าที่ได้ โดยตั้งเป้าหมายระยะสั้นไว้เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง ส่วนการฝังเข็มลดน้ำหนัก ลดความอ้วน จัดเป็นเพียงตัวช่วยๆ หนึ่งเท่านั้น