เคล็ด(ไม่)ลับ เคล็ดลับสุขภาพ March 23, 2017 Share 32 Tweet Pin 0 รวมพล “น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน” แบบแจ่มว๊าว อาหารที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย ช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยได้ดี และสามารถจะช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย อาหารที่ว่าก็คือ “อาหารคลีน” นั่นเอง ลักษณะของอาหารคลีนนั้นปัจจุบันได้มีข้อมูลเผยแพร่ออกมามากมาย ซึ่งทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นว่า อาหารคลีนไม่ใช่แค่การกินผักหรือผลไม้ แต่เป็นอาหารที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ใน 1 มื้อ โดยสิ่งสำคัญคือวัตถุดิบเหล่านั้นต้องสด สะอาด ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปหรือปรุงแต่งรสชาติใดๆ เลย ถ้าจะดัดแปลงหรือปรุงรสก็ให้น้อยที่สุด เน้นความเป็นธรรมชาติของวัตถุดิบให้มากที่สุด ดังนั้น การทำอาหารคลีนเราจึงต้องเลือกใช้ส่วนผสมต่างๆ ที่ไม่ทำให้ความสด รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบลดลงหรือเปลี่ยนไปอาหารมีไขมันหรือประเภททอดและผัดที่ใช้น้ำมันเยอะจึงเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับอาหารคลีนแน่นอน แต่ไขมันคือสิ่งจำเป็นของอาหารคลีนเช่นกัน การจะนำน้ำมันมาปรุงอาหารคลีนจึงควรเป็นน้ำมันที่มีไขมันดี โดยน้ำมันที่แนะนำในการทำอาหารคลีน คือน้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน 9 ชนิด1. น้ำมันมะกอก (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) เป็นน้ำมันคุณภาพดีที่คนรักษาสุขภาพโดยเฉพาะคนกินอาหารคลีนจะเลือกใช้ทำอาหารในอันดับต้นๆ ของบรรดาน้ำมัน เพราะมีคุณสมบัติเป็นไขมันไม่อิ่มตัวสูงที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี มีสารแอนติออกซิแดนต์และฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ ได้ดี น้ำมันมะกอกแบ่งเป็นประเภทใหญ่ได้ 2 ประเภท ได้แก่ น้ำมันมะกอกที่ผ่านการสกัดเย็น ไม่เหมาะกับการใช้ผ่านความร้อน แต่ใช้ทำอาหารประเภทสลัดหรือการหมักเนื้อสัตว์ได้ดี และน้ำมันมะกอกที่ผ่านการสกัดโดยการกลั่น ซึ่งจะเหมาะกับการทอด การผัด และทำขนมอบต่างๆ ที่ต้องใช้ความร้อน2. น้ำมันมะพร้าว (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) โดยส่วนใหญ่อาหารคลีนมักมีวิธีการทำที่ไม่ต้องทอด แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้น้ำมันในการทอดอาหาร น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น คือน้ำมันพืชที่เหมาะสมเนื่องจากมีกรดไขมันอิ่มตัวซึ่งมีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูง โดยไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกลายเป็นอนุมูลอิสระตัวการร้ายแห่งความเสื่อมของร่างกาย รวมทั้งไม่กลายเป็นไขมันทรานส์บ่อเกิดของโรคหัวใจและหลอดเลือด3. น้ำมันเมล็ดชา (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอก มีองค์ประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบ โรคเบาหวาน เป็นต้น อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่มีไขมันทรานส์ทำให้การดูดซึมวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเคในร่างกายดี และมีจุดเกิดควันสูงจึงใช้ทำอาหารได้ทั้งทอด ผัด หมัก เบเกอรี่ และน้ำสลัด คนกินอาหารคลีนจึงมักเลือกเป็นน้ำมันเพื่อใช้ทำอาหาร4. น้ำมันคาโนลา (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) มีคุณสมบัติเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวรองจากน้ำมันมะกอก รวมทั้งมีกรดโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง รวมถึงช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อม ทำให้ความจำดี และมีข้อดีที่น่าสนใจคือมีจุดเกิดควันสูง เหมาะจะนำมาใช้ทำอาหารที่ต้องผ่านความร้อนนานๆ โดยไม่ทำให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เป็นน้ำมันที่สามารถจะทำอาหารคลีนได้เป็นอย่างดี5. น้ำมันทานตะวัน (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) เพราะเป็นน้ำมันที่มีลักษณะของเนื้อบาง เบา และไม่มีกลิ่น จึงเหมาะกับการทำอาหารอย่างสลัดและการผัด ซึ่งอาหารคลีนจะเน้นวิธีการทำที่ไม่ใช่การใช้น้ำมันเยอะอยู่แล้ว ทำให้น้ำมันทานตะวันเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคนรักษ์สุขภาพและกินอาหารคลีน และยังมีประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการแข็งตัวหลอดเลือด รวมทั้งช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายได้ด้วย6. น้ำมันถั่วแมคคาเดเมีย (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) อาจกล่าวได้ว่าเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าน้ำมันพืชเกือบทุกชนิดก็ได้ ทำให้ช่วยลดไขมันและไม่มีคอเลสเตอรอล จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดอุดตันและหัวใจวาย รวมทั้งยังมีจุดเกิดควันสูงกว่าน้ำมันมะกอกจึงมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่จะนิยมใช้น้ำมันถั่วแมคคาเดเมียมาผสมกับน้ำสลัด เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของถั่วแมคคาเดเมียและก็ใช้ทำอาหารคลีนได้รสอร่อยเช่นกัน7. น้ำมันอะโวคาโด (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) จัดอยู่ในกลุ่มของน้ำมันคุณภาพดีที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 เป็นแหล่งของลูทีนที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และไขมันดีในน้ำมันอะโวคาโดจะช่วยดูดซึมแคโรทีนอยด์ที่มีอยู่ในผักและผลไม้ไปช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือมีจุดเกิดควันสูง หากจะทำเมนูอาหารคลีนด้วยวิธีผัด ทอด หรือปิ้งย่าง ก็ให้นึกถึงน้ำมันอะโวคาโดได้เลย8. น้ำมันรำข้าว (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) นอกจากน้ำมันรำข้าวมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูงแล้ว ยังมีกรดไขมันที่ดีและช่วยในการดูแลสุขภาพ มีทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอี น้ำมันรำข้าวมีคุณสมบัติเด่นอีกข้อคือ มีจุดเกิดควันสูง แม้จะทำอาหารด้วยความร้อนสูงก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คนที่กินอาหารคลีนจึงชอบนำมาใช้ทำอาหารกันมาก9. เนยใส หรือ Ghee (น้ำมันที่ใช้ทำอาหารคลีน) Ghee คือส่วนที่แยกส่วนของไขมันและน้ำออกแล้วเหลือเพียงเนยใส ซึ่งทำมาจากนมวัวหรือนมควาย แต่ Ghee ที่ทำจากนมวัวเลี้ยงธรรมชาติจะดีกว่านมวัวอุตสาหกรรม เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่า ถึงแม้จะเป็นไขมันจากสัตว์แต่กลับเป็นไขมันดีเทียบเท่าน้ำมันมะพร้าว เก็บได้นาน มีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอและวิตามินอีได้ดี ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลและลดน้ำหนักได้ และที่พิเศษคือสามารถใช้ทอดอาหารได้ แต่เนยทั่วไปทำไม่ได้ หากจะทำอาหารคลีนด้วยการทอดหรืออบก็ใช้ Ghee แทนน้ำมันได้เราจะได้กิน “อาหารคลีน” ที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้าย และลดน้ำหนักได้แน่นอน หากรู้จักเลือกใช้น้ำมันมาทำอาหารคลีนได้อย่างเหมาะสมแค่นั้นเองบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาหารคลีน 5 วิธีกินคลีนแบบง่ายๆ สบายกระเป๋า “อาหารคลีน” หากกินได้ สุขภาพดีไม่ไปไหน กินคลีนควบคู่ออกกำลังกายลดน้ำหนักได้ผลเร็ว ทำความรู้จัก”อาหารคลีน”กันเถอะ