คลินิกสุขภาพจิต ธรรมชาติบำบัด November 23, 2015 Share 40 Tweet Pin 0 "สปาบำบัด" ทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพและความงาม ปัจจุบันคนหันมาเห็นความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น มีการรณรงค์ให้ออกกำลังกาย เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นการป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรง จึงไม่น่าแปลกที่ธุรกิจสุขภาพอย่าง “สปา” จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และมีธุรกิจสปาใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย ด้วยเหตุนี้ สุขภาพดี...จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับ “สปาบำบัด” ว่ามีความหลากหลายมากน้อยเพียงใด เป็นมาอย่างไร เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้รักสุขภาพ เลือกนำมาดูแลสุขภาพอีกทางหนึ่งค่ะ "สปาบำบัด" คืออะไร?คำว่า “สปา” (Spa) โดยรากศัพท์ ซึ่งมาจากภาษา Latin (sanus per aquam) นั้น หมายถึงการดูแลสุขภาพโดยการใช้ “น้ำ” เป็นหลักนั่นเอง แต่สปาในความหมายที่รู้จักกันโดยทั่วไป ก็คือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยใช้ศาสตร์สัมผัสทั้ง 5 ได้แก่รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างภาวะสมดุลระหว่างร่างกาย และจิตใจ สปาจึงถือเป็นศาสตร์และศิลป์ในการดูแลสุขภาพที่ครบถ้วน จนเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยทีเดียวและสปาที่เป็นที่นิยมที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นกิจการสปาบำบัดเพื่อสุขภาพ ซึ่งก็คือสปาที่ให้การดูแลและเสริมสร้าง สุขภาพ โดยมีบริการหลัก คือ การนวดเพื่อสุขภาพ และอาจมีบริการเสริมประเภทต่างๆ อย่างเช่น การทําสมาธิและโยคะ การอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ การออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ โภชนบําบัดและการควบคุมอาหาร หรือการใช้สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมาประกอบด้วย งั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าสปาบำบัดเพื่อสุขภาพทั้ง 8 แบบที่นำมาฝาก...แต่ละแบบนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง เพื่อช่วยตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ถูกกับความต้องการของแต่ละคน8 ทางเลือก...สปาบำบัด..เพื่อสุขภาพ สปาบำบัดด้วยสมุนไพรไทย คนไทยนิยมใช้สมุนไพรบำบัดรักษาโรคมายาวนาน การใช้สมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคของไทยได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ และถูกถ่ายทอดต่อๆกันมา โดยเฉพาะความนิยมในการใช้ลูกประคบเพื่อการรักษาแบบแผนโบราณ การใช้ลูกประคบซึ่งเป็นมีสมุนไพรนานาชนิดรวมกันในห่อผ้าขาว มัดเป็นก้อนกลมๆ จากนั้นนำไปนึ่งให้ร้อน นำไปกดทับตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อย เกร็ง รวมถึงประคบตามข้อต่อต่างๆ ถือเป็นการช่วยบำบัดอาการปวดเมื่อยหรือการเจ็บปวดเฉพาะที่ สปาบำบัดด้วยอโรมาเทอราพีอโรมาเทอราพี เป็นการบำบัดโดยใช้น้ำมันหอมระเหย ซึ่งสกัดจากส่วนต่างๆ ของพืช ซึ่งมีหลายชนิด และมีสรรพคุณแตกต่างกันออกไป มาดูกันว่ามีพืชชนิดใดบ้าง ที่นิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย และแต่ละชนิดมีสรรพคุณอย่างไรบ้าง ใบโหระพา น้ำมันหอมระเหยจากใบโหระพานั้นมีสรรพคุณทำให้สดชื่น คลายความเครียด เพิ่มสมาธิ หากประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมอักเสบจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้พริกไทยดำ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แก้ปวด ทำให้ร่างกายอบอ่นคาโมไมล์ เป็นน้ำมันหอมระเหยที่นิยมมาก เพราะมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยผ่อนคลาย รักษาอาการไซนัส ปวดศีรษะ ไมเกรน อาการบวมน้ำ และช่วยให้นอนหลับสนิทขึ้นอีกด้วย ใครมีปัญหานอนไม่หลับ แนะนำให้จุดอโรมากลิ่นคาโมไมล์ จะทำให้หลับสบายขึ้นค่ะอบเชย หรือ ซินนามอน ช่วยบรรเทาอาการไข้ ตัวร้อน หากประคบเย็นจะช่วยบรรเทาการบวมอักเสบจากแมลงกัดต่อยได้ตะไคร้หอม มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและช่วยดับกลิ่น บรรเทาอาการระคายเคืองและบวม อีกทั้งยังสามารถใช้ไล่แมลงได้ด้วยขิง กลิ่นของขิงช่วยทำให้ตื่นตัว มีชีวิตชีวา บรรเทาอาการเหนื่อยล้า ลดความเครียด กระตุ้นความรู้สึกทางเพศมะลิ คลายความเครียด ลดอาการวูบวาบในวัยหมดประจำเดือน กระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ทางเพศลาเวนเดอร์ เป็นน้ำมันหอมระเหยอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น ทำให้สมองปลอดโปร่ง กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ลดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียของร่างกายเลมอน มีกลิ่นหอมแบบสดชื่น กระตุ้นให้ร่างกายกระฉับกระเฉง บรรเทาอาการเมื่อยล้า แก้โรคซึมเศร้ากุหลาบ บรรเทาอาการเก็บกด คลายความเครียด ช่วยให้นอนหลับสบายโรสแมรี่ ผ่อนคลายความเครียด สร้างสมาธิ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดไมเกรน ทำให้นอนหลับสบาย จะเห็นได้ว่าการบำบัดด้วยกลิ่นของสมุนไพรเกือบทุกชนิด จะมีคุณสมบัติในการผ่อนคลายความเครียด ทำให้รู้สึกสดชื่น แจ่มใส หากใครอยากทำสปาบำบัดด้วยอโรมาเธอราพีด้วยตัวเอง ก็สามารถทำเองที่บ้านได้ โดยซื้อเตาอาโรม่าและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบมาติดบ้านไว้ เพียงแต่ควรรู้ด้วยว่ากลิ่นที่เราชอบนั้นสกัดมาจากพืชชนิดใด และตัวเราแพ้กลิ่นหรือพืชชนิดนั้นหรือไม่สปาบำบัดด้วยการนวดศาสตร์การนวดแผนไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกำลังกลายเป็นวิถีทางแห่งการบำบัดรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นกรรมวิธีการบำบัดรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างมากอีกวิธีหนึ่ง การนวดมีผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ที่ได้รับการนวด ช่วยให้รู้สึกสบายทั้ง กายและใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลืองดีขึ้น การนวดนั้นมีหลายรูปแบบ แต่ในปัจจุบันสปาส่วนมากจะเน้นการนวดเพื่อผ่อนคลาย มากกว่าการนวดเพื่อรักษาโรค ในขณะนวดก็จะมีการเปิดเพลงคลอเบาๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย มีการใช้น้ำมันนวด ซึ่งน้ำมันนวดแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปตามสรรพคุณของสมุนไพรนั้นๆ สปาบำบัดด้วยการอบสมุนไพร การบำบัดด้วยการอบสมุนไพร เป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการอบสมุนไพรที่บ้าน การใช้ตู้อบสมุนไพรก็ไม่แตกต่างกัน เพราะสูตรในการอบสมุนไพรก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้สมุนไพรชนิดใดบ้าง แต่สมุนไพรที่มักเป็นที่นิยมก็คือ ขมิ้น ไพล ตะไคร้ การบูร และ มะกรูด เพราะสมุนไพรเหล่านี้หาง่าย ราคาถูก และมีสรรพคุณหลากหลาย การอบสมุนไพรนอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องบำรุงสุขภาพโดยทั่วไปและการรักษาผิวพรรณแล้ว ยังถือเป็นกรรมวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง หากมีการทำอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี สปาบำบัดด้วยโยคะสปาบำบัดด้วยโยคะ เป็นการเชื่อมต่อ ผสมผสานระหว่างจิตใจ และร่างกาย ช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย ช่วยลดแคลอรี่ และฝึกสมาธิไปด้วยในตัว หากฝึกโยคะสม่ำเสมอจะทำให้จิตใจมีความสงบ มีสมาธิ และมีพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม สปาบำบัดด้วยการทำสมาธิการทำสปาบำบัดด้วยสมาธิ เป็นการทำสปาที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยหาห้องเงียบๆสักห้องหนึ่ง และอาจจุดอโรมากลิ่นที่ชอบไปด้วยก็ได้ การทำสมาธิช่วยให้จิตใจปลดปล่อยความวิตกกังวล ความเครียด ผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่า สมาธิมีผลดีต่อการทำงานของสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิต ประโยชน์ที่ได้จากการฝึกสมาธิ ทำให้อารมณ์เยือกเย็น แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ดี ความจำดี มีความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การบำบัดฟื้นฟูด้วยโคลน (mud therapy) การบำบัดด้วยโคลนอาจยังเป็นวิธีที่ไม่แพร่หลายในบ้านเรา แต่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศเพราะในโคลนชนิดที่นำมาใช้ทำสปานั้นมากด้วยวิตามิน และเกลือแร่ที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งสถานที่ทำสปาโคลนที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยก็คือ สปาโคลน ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นั่นมีน้ำพุร้อนผุดขึ้นกลางทุ่งนา ประกอบกับน้ำไหลไปรวมกันในลำธารเล็ก ๆ เกิดเป็นโคลนอันอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากชั้นใต้ดินผุดขึ้นมากับน้ำพุร้อน จึงเป็นโคลนร้อน ที่นอกจากจะบำรุงผิวด้วยแร่ธาตุแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และช่วยรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย สปาบำบัดด้วยเสียง (sound therapy) สปาบำบัดวิธีสุดท้ายนี้ เป็นสปาที่เราไม่ต้องเสียเงิน หรือซื้ออุปกรณ์ใดๆเลย เพราะการบำบัดด้วยเสียง เป็นการใช้เสียงรอบๆตัว สร้างบรรยากาศเพื่อผ่อนคลายประสาทหูและจิตใจ แต่จะต้องเป็นเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงลมพัด นกร้อง ฝนตก เสียงน้ำตก ไม่ใช่เสียงเพลง หรือเสียงใดๆที่มนุษย์สร้างขึ้น เสียงของธรรมชาติมีผลในการผ่อนคลายจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยสร้างความรู้สึกสงบ ลึกล้ำ ทำให้เพลิดเพลินใจได้อย่างไม่รู้ตัว จะเห็นได้ว่าสปาไม่ได้หมายถึงการดูแลรักษาความงามของร่างกายเพียงอย่างเดียวอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ แต่สปายังรวมไปถึงการบำบัด และการดูแลสุขภาพในหลายๆทาง ดังนั้น ใครยังไม่เคยลองสปาบำบัดรูปแบบอื่นๆ ที่ได้แนะนำมา อาจต้องหาโอกาสไปลองคะ เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจของคุณก็ยังดีขึ้น....เรียกว่า กายพร้อม ใจพร้อม ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกสถานการณ์