เผยเคล็ดลับ...วิธีขัดผิวด้วยเบกกิ้งโซดา

สูตรแรก จะช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับข้าวโอ๊ต นมสด และน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน และรอสักพักเพื่อให้ข้าวโอ๊ตพองตัวก่อน (ใส่ข้าวโอ๊ตเพราะสครับจะได้มีความนุ่ม และน้ำมันจากข้าวโอ๊ต ช่วยถนอมผิวและไม่ทำให้ผิวแห้ง) จากนั้นนำมาขัดเบา ๆ ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แต่หากเป็นผิวหน้า แนะนำว่าให้ขัดเบามือหน่อยนะจ๊ะ

สูตรที่ 2 ช่วยเพิ่มความขาวเปล่งปลั่ง และกระจ่างใส โดยใช้เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมรวมกัน แล้วใช้ขัดผิวเบา ๆ AHA จากมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก เผยผิวใหม่ที่สดใสกว่า ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ม่ำให้ผิวแห้งลอกจากกรดมะนาว

สูตรที่ 3 ใช้ขัดถูผิวหนังที่แห้งด้าน ผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้สดใสมากยิ่งขึ้น อย่าง ช้อศอก ตาตุ่ม เข่า เป็นต้น ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา 3 ส่วน และน้ำ 1 ส่วน นำมาผสมกันใช้เช็ดถูบริเวณที่ต้องการ แล้วค่อยล้างออก จากนั้นทาโลชั่นที่มีปริมาณมอยซ์เจอไรเซอร์สูง เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นค่ะ แนะนำให้ทำเป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ผิวหนังที่แห้งและด้าน จะนุ่มลงและกระจ่างใสขึ้นค่ะ

สูตรที่ 4 บางคนนิยมนำเบกกิ้งโซดามาสครับจมูกเพื่อกำจัดสิวเสี้ยน โดยใช้เบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำมาขัดเบาๆ ที่จมูก วนไปเรื่อยๆ พยายามเน้นเป็นพิเศษในส่วนที่มีสิวเสี้ยนเยอะที่สุด เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยทำให้จำนวนสิวเสี้ยนลดลงได้ แต่อย่างไรก็ตามสูตรนี้ต้องทำเป็นประจำ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งนะคะ เพราะสิวเสี้ยนนั้นรักษายังไงก็ไม่หายขาด ต้องขยันสครับบ่อยๆ จำนวนสิวเสี้ยนจะได้ไม่เพิ่มขึ้น

สูตรที่ 5 เบกกิ้งโซดาสครับริมฝีปาก ใครมีริมฝีปากแห้งแตกลอก ลองสูตร น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + เบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนชา นำมาผสมกันแล้วนวดให้ทั่วริมฝีปากเบาๆ จากนั้นทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วทาลิบปาล์มเคลือบริมฝีปากทันที วิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวของริมฝีปากที่แห้งให้ลอกออกมา ทางที่ดีควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เผื่อผลัดเซลล์ผิวริมฝีปากของคุณให้นุ่ม เนียน ดูมีสุขภาพดีอยู่เสมอ