การดูแลรูปร่างและผิวพรรณ ผิวขาว September 13, 2015 Share 0 Tweet Pin 0 10 เคล็ดลับ แก้ปัญหาผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื่นเปล่งปลั่ง ผิวแห้ง... เป็นปัญหาสุขภาพผิวที่รบกวนจิตใจใครหลายๆคนเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะปกปิดอย่างไรก็ไม่สามารถอำพรางได้ ไม่ว่าจะทาแป้งหรือรองพื้นก็ไม่ช่วย ทั้งยังส่งผลให้เป็นหนักยิ่งกว่าเดิมอีก บางคนแห้งมากถึงขนาดลอกเป็นแผ่น หรือมีผื่นขึ้นเป็นปื้นๆก็มี ส่งผลให้ความมั่นใจลดน้อยลงลงอีกด้วย วันนี้ สุขภาพดี...ขอนำเสนอวิธีแก้ผิวแห้งที่ได้ผลขั้นเทพให้ได้ทราบกันค่ะ รู้ที่มาก่อนว่า...ผิวแห้งเกิดจากอะไร?สภาพแวดล้อมต่างๆ จากอากาศหนาวเย็น ทำให้ความชื้นในอากาศลดลง น้ำจะระเหยออกจากผิวมากขึ้น ส่งผลให้ผิวแห้งได้ง่ายนั่นเองสภาพผิวที่ขาดการบำรุง ไม่ได้รับการดูแลเป็นเวลานาน จึงทำให้ผิวเสียสมดุลกรรมพันธุ์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดการสร้างสารบางชนิดที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำที่ผิว โรคที่ทำให้ผิวหนังแห้งหรือมีขุย เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) สะเก็ดเงิน (Psoriasis)อายุที่เพิ่มขึ้น ต่อมไขมันจะสร้างไขมันน้อยลง ผิวจะบางและแห้งเซลล์ผิวกักเก็บน้ำได้น้อยลงการรบกวนต่างๆ จากสารเคมี เช่น การขัด การถู ก็นับว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่รบกวนผิวได้เช่นเดียวกัน วิธีแก้หน้าแห้ง-ผิวแห้งวิธีแก้ปัญหาหน้าแห้งนั้นสามารถเลือกทำได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ การทำทรีตเม้น เป็นต้น แต่สาวๆก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินและเปลืองเวลาขนาดนั้น เพราะจริงๆแล้ว ปัญหาผิวแห้งนั้นแก้ไขได้ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมากเลย วันนี้เรามีเคล็ดลับการแก้ผิวหน้าแห้งมาฝากกัน ด้วยวิธีง่ายๆที่ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลาและเห็นผลดีอีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด แล้วปัญหาผิวแห้งจะไม่มากวนใจสาวๆอีกเลยล่ะ1. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เป็นวิธีที่เบสิกสุดๆ แต่ก็ได้ผลมากที่สุดเช่นกัน เพราะปัญหาผิวหน้าแห้งเกิดจากการที่ผิวเสียสมดุล ทำให้สภาพผิวขาดน้ำนั่นเอง ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำเปล่ามากๆเพื่อรักษาสภาพความชุ่มชื่นของผิว2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย และแอลกอฮอล์ โดยการอ่านฉลากส่วนผสมหรือส่วนประกอบต่าง ๆ ว่ามีสารเหล่านี้อยู่หรือไม่ หากมี แนะนำให้เปลี่ยนโดยด่วย เพราะส่วนผสมเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และอาจเกิดเป็นผื่นแพ้ได้3. ไม่ควรล้างหน้าบ่อย เพราะจะเป็นการชะล้างไขมันที่ช่วยเคลือบผิว หากผิวแห้งมากควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่3. ไม่ควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้า เนื่องจากจะทำให้ไขมันซึ่งให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังสูญเสียไป ผิวจึงแห้งมากขึ้น คันเกิดการระคายเคืองได้ง่าย4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน เนื่องจากอากาศที่แห้งจะส่งผลให้น้ำระเหยออกจากผิวมากขึ้น แต่หากเลี้ยงไม่ได้ก็ให้ใช้โลชั่นหรือครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์เข้มข้นแทน5. หลีกเลี่ยงการรบกวนผิว เช่น การอบซาวน่า การสครับผิว ไม่ถูไม่ขัดผิว ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งลง รวมไปถึงการตากแดดหรือทำงานกลางแจ้งและการสัมผัสสารเคมีบางอย่าง6. ทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อช่วยให้เชลล์ผิวคงดุลภาพที่ดีอยู๋ได้อย่างยาวนาน ควรจะทาอย่างน้อยวันละสองครั้ง หากแห้งมากเป็นขุย ควรทาซ้ำบ่อยๆ ระหว่างวัน โดยไม่จำเป็นต้องล้างหน้า สามารถทาทับได้เลย7. ถ้ามีอาการคันไม่ควรเกา เพราะจะทำให้ผิวถลอกเกิดการอักเสบติดเชื้อได้ ให้ทาครีมบำรุงที่ปราศจากสี กลิ่น และน้ำหอมแทน จะช่วยทุเลาอาการคันได้8. การรับประทานอาหารเสริม น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส/ Evening Primrose Oil) เป็นกรดไขมันที่จำเป็น ช่วยลดอาการผิวแห้งและผิวอักเสบ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้9. เลือกใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นหรือมอยส์เจอไรเซอร์ เช่นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเคลือบผิว ป้องกันการระเหยของน้ำ (occlusive) เมื่อทาลงบนผิวจะเคลือบผิวหนัง กั้นไม่ให้น้ำภายในผิวหนังออกสู่ภายนอก จะมีสารพวกปิโตรลาทัม ลาโนลินมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น โดยการดึงน้ำจากอากาศไว้ที่ผิวหนัง (Humectant) จะมีสารกลีเซอรีน ซอร์บิทอลมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยการลอกหลุดของเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวนุ่มเนียน (Emollient) มีส่วนผสมของมิเนอรัลออยล์ โจโจ้บาออยล์10. ลองสูตรพอกหน้าจากธรรมชาติ ช่ วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก้ผิวแห้งได้อย่างดี ได้แก่ น้ำผึ้ง โดยการนำน้ำผึ้งมาพอกหน้าก่อนนอนประมาณ 20 – 30 นาที โดยน้ำผึ้งมีสรรพคุณในการรักษาปัญหาผิวแห้ง ซึ่งจะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวได้อย่างรวดเร็ว น้ำมันมะกอก เพียงนำน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าวมานวดบริเวณใบหน้าประมาณ 3 – 5 นาที จะช่วยให้ผิวแห้งกร้านกลับมานุ่มชุ่มชื่นได้อย่างรวดเร็ว หากมีการดูแลและปฏิบัติตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ผิวก็ยังคงแห้ง คัน เป็นขุย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและเหมาะสม จะสามารถแก้ไขปัญหาผิวแห้งได้ตรงจุด อย่าปล่อยให้ผิวแห้งเป็นขุยไปนานๆ เพราะนอกจากจะขาดความสวยงามแล้ว ยังทำให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นระคายเคืองได้ง่าย ทั้งยังทำให้ผิวแห้งกร้าน แก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย เมื่อถึงจุดนั้นจะแก้ไขให้เป็นเหมือนเดิมก็คงยาก รีบป้องกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อคงสภาพผิวสวยให้อยู่กับเราไปนานๆ