free web tracker, fire_lady 10 พฤติกรรมที่ไม่รีบเปลี่ยน ทำ “จุดซ่อนเร้น” มีกลิ่นแน่ • สุขภาพดี

10 พฤติกรรมที่ไม่รีบเปลี่ยน ทำ “จุดซ่อนเร้น” มีกลิ่นแน่

ปัญหาจุดซ่อนเร้นมีกลิ่น

ผู้หญิงอย่างเราๆ หากพบว่า “จุดซ่อนเร้น” เริ่มเกิดปัญหากวนใจในเรื่องของกลิ่นขึ้นมา คงทั้งสร้างความกังวลใจ ไม่สบายใจ และพานจะทำให้หมดความมั่นใจในยามที่ต้องออกไปเจอกับผู้คนหลายคนพยายามนั่งนึกเพื่อค้นหาถึงสาเหตุที่มาของกลิ่นตรงจุดซ่อนเร้นของตัวเอง จะใช่เพราะเราเป็นคนสกปรกหรือเปล่า ไม่ล้างทำความสะอาดส่วนนั้นเลยหรือทำน้อยไป กางเกงในล่ะอาจเป็นเพราะซักไม่สะอาด หรือเป็นเพราะนั่นนี่โน่น แล้วก็ลองทำลองแก้ไขแต่ยังไงกลิ่นก็ยังอยู่ ที่จริงปัญหาของจุดซ่อนเร้นมีกลิ่นนั้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากที่ไหนเลย แต่ล้วนเป็นเพราะพฤติกรรมหลายอย่างของตัวเราเองนี่แหละที่ชอบทำ ซึ่งเสี่ยงจะก่อให้เกิดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้

“จุดซ่อนเร้น” มีกลิ่นเพราะ 10 พฤติกรรมนี้หรือเปล่า?

1. ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับจุดซ่อนเร้น ซึ่งไม่จำเป็นเพราะใช้แค่น้ำเปล่าก็เพียงพอแล้วเพราะในน้ำยารวมถึงสบู่มีสารเคมีและมีการแต่งกลิ่นฉุน ซึ่งจะไปทำลายแบคทีเรียชนิดดีที่คอยดูแลส่วนนั้นให้ลดลง เกิดการติดเชื้อและกลิ่นได้ง่าย

2. ใช้ที่ฉีดก้นตามห้องน้ำสาธารณะ เมื่อต้องเข้าห้องน้ำที่อยู่นอกบ้านแล้วใช้ที่ฉีดก้นด้วยเสมอจะทำให้จุดซ่อนเร้นเสี่ยงจะติดเชื้อราจากหัวฉีดซึ่งอาจสกปรกหรือไม่ได้ทำความสะอาดเลย

3. ชอบล้างสวนช่องคลอด การทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้จุดซ่อนเร้นสะอาดและมีกลิ่นหอมขึ้นหรอกนะแต่กลับจะมีกลิ่นเหม็นเพิ่มมากขึ้น แบคทีเรียชนิดที่ช่วยไม่ให้เกิดกลิ่นจะน้อยลง และช่องคลอดยังอาจอักเสบได้ด้วย

4. โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ ทราบไหมว่าขนอวัยวะเพศคือตัวช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นจากภายในออกมาสู่ภายนอก และยังช่วยควบคุมอุณหภูมิให้อวัยวะเพศ ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดและลดแรงเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ การโกน แวกซ์ ดึง หรือถอนขนจึงเปิดโอกาสให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นนั่นเอง

5. ใส่กางเกงในที่ไม่สะอาดพอ การตากกางเกงในไม่ใช่แค่ผึ่งลมให้แห้ง แต่ควรโดนแสงแดดเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วย รวมทั้งกางเกงในผ้าไนลอนจะระบายลมไม่ดี เกิดเชื้อราได้ง่ายกว่าผ้าฝ้ายและกางเกงในเก่าๆ ที่ไม่ยอมเปลี่ยนสักที จะเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคที่ดีมาก

6. หลังขับถ่ายแล้วเช็ดจากหลังมาหน้า จะทำให้เชื้อโรคจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด และอาจหมักหมมจนเป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นคาวคล้ายปลาบูด ควรเช็ดทำความสะอาดจากหน้าไปหลัง

7. ใส่กางเกงยีนส์คับเกินไป มีโอกาสจะเกิดเชื้อรามากขึ้นเนื่องจากมีความอับชื้น การระบายอากาศไม่สะดวก แสงแดดส่องไม่ถึง

8. มีสุขอนามัยที่ไม่ดี โดยเฉพาะการใส่แผ่นอนามัยทุกวันเพราะเข้าใจและรู้สึกว่าสะอาด แต่นั่นจะทำให้จุดซ่อนเร้นยิ่งอับชื้นมากขึ้น ใส่เท่าที่จำเป็นก็เกินพอแล้ว รวมทั้งการลืมสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด ฯลฯ

9. กินอาหารหมักดองและกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม ปลาร้า ปลาเค็ม ปูดอง ฯลฯ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีสารเคมีที่จะไปกระตุ้นการตกขาวเกิดปฏิกิริยาทำให้อักเสบ ระคายเคือง ส่งผลให้มีกลิ่นที่จุดซ่อนเร้น

10. การกินยาปฏิชีวนะ หากกินติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียที่มีหน้าที่กำจัดเชื้อราในช่องคลอดโดนทำลาย ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการตกขาวและกลิ่นตามมา

ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ทันเอะใจว่ามันจะนำมาซึ่งกลิ่นเหม็นของจุดซ่อนเร้น เมื่อได้ทราบถึงต้นสายปลายเหตุกันแล้วก็ควรระวังและหลีกเลี่ยงจะดีกว่า เพราะแม้จุดซ่อนเร้นเป็นส่วนบอบบาง แต่บางการกระทำก็ไม่จำเป็นต้องทำมากเกินไป เอาที่พอดีเท่านี้จุดซ่อนเร้นก็ปราศจากกลิ่นมากวนใจแล้ว

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี