23 สรรพคุณ...ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว ผักเพื่อผิวสวย สุขภาพดี

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า “กระเจี๊ยบเขียว” ผักเครื่องเคียงน้ำพริกที่ดูเหมือนจะแสนธรรมดานั้นกลับไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เพราะมันคือแหล่งรวมสารบำรุงผิวชั้นดี ที่จะช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส แบบไม่ต้องพึ่งการฉีดกลูตาไธโอนเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นผักต้านโรคที่มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากมาย รับรองว่ากินกระเจี๊ยบเขียวแล้วจะสุขภาพแข็งแรง แถมยังมีผิวสวยสุขภาพดีจากภายในได้อย่างแน่นอน

สารอาหารใน "กระเจี๊ยบเขียว" ที่ดีต่อผิวพรรณ

กระเจี๊ยบเขียวถือกำเนิดเกิดขึ้นในแถบทวีปแอฟริกา และตามพื้นที่เขตร้อน จึงเป็นพืชที่เหมาะกับประเทศไทย ปลูกง่ายขึ้นง่ายได้ทุกภาค กระเจี๊ยบเขียวมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายมากมาย อาทิ โปรตีน โฟเลต ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก และวิตามินอีกหลายชนิด และยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์

นอกจากสารอาหารที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า “กระเจี๊ยบเขียว” นี้แหละที่เป็นผักบำรุงผิวชั้นดี เพราะมีกลูตาไธโอน ซึ่งสาวๆ หลายคนคงจะทราบดีว่าเป็นสารที่ทำให้ผิวขาว โดยการเปลี่ยนเอนโซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิวนั่นเอง

นอกจากนี้เมือกของกระเจี๊ยบเขียวยังมี “กรดกาแล็กทูโลนิก” ที่พบได้เฉพาะพืชบางชนิดเท่านั้น (พบได้ในผักและผลไม้ที่มีเมือกเยอะๆ) ซึ่งเจ้ากรดนี้จะช่วยกักเก็บน้ำ และทำให้ผิวชุ่มชื่น เหมาะกับอากาศช่วงหน้าหนาวที่ผิวแห้งแตก เพราะจะช่วยคืนน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งแตก อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านของการฆ่าเชื้อโรคด้วย เพราะเมือกในกระเจี๊ยบเขียวมีส่วนประกอบของเส้นใยอาหาร และถือว่าเป็นน้ำลายของพืชชนิดนี้ มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย กระเจี๊ยบเขียวจึงดีต่อลำไส้ ช่วยให้ลำไส้สะอาด และขับสิ่งสกปรกออกโดยการขับถ่าย อีกทั้งกากใยจากเมือกยังช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี

23 สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว ประโยชน์ในการรักษาโรค

เมนูกระเจี๊ยบเขียวแบบไทยๆ เสน่ห์ปลายจวักที่ไม่ควรพลาด

นอกจาก "กระเจี๊ยบเขียว" จะเป็นผักเครื่องเคียงน้ำพริก จะเป็นผักต้ม ลวกจิ้ม หรือ กินสดก็ดี แต่ยังสามารถนำไปทำแกงได้ด้วย อาทิ แกงไตปลา แกงส้ม แกงปลาย่าง เป็นต้น สุดแล้วแต่จะนำไปประยุกต์ เพราะคนสมัยก่อนจะนำกระเจี๊ยบเขียวไปใส่แกงเกือบทุกชนิด หรือจะเอาฝักกระเจี๊ยบไปหันเป็นแว่นๆ แล้วนำไปยำ ใส่น้ำยำรสเด็ด ก็จะได้เมนูยำกระเจี๊ยบเขียวรสแซ่บ อร่อยกรุบกรอบ ถูกใจคนชอบกินผักเป็นไหนๆ

แต่เมนูเด็ดที่หายากมากๆ ในยุคนี้ เห็นจะเป็นเมนูตำรับชาววัง ที่นำกระเจี๊ยบไปต้มราดกะทิสด กินคู่กับแกงหรือน้ำพริก ได้กลิ่นหอมและคงความสดของกระเจี๊ยบเขียวไว้ได้นาน ยิ่งนำไปกินคู่กับน้ำพริกกะปิ และปลาทู จะยิ่งได้รสชาติอร่อยลงตัว เข้ากันอย่างบอกไม่ถูก นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังเป็นผักที่ดีต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง เพราะช่วยบำรุงครรภ์และดีต่อสุขภาพของเด็กในท้องอีกด้วย

เกร็ดเล็กน้อยในการทาน "กระเจี๊ยบเขียว"

ใครที่ชอบกินกระเจี๊ยบเขียวเพราะอร่อยหวานกรุบกรอบแต่ไม่ชอบที่มันมีเมือกเหนียวๆ ต้องล้างออกก่อนกินทุกครั้งไปล่ะก็ ผิดมหันต์เลยทีเดียว เพราะสารที่มีประโยชน์อยู่ในเมือกของกระเจี๊ยบเขียวทั้งนั้น !

เรื่องราวสรรพคุณและประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียวที่หลายคนยังไม่รู้ นอกจากจะช่วยบำรุงผิว และบำรุงครรภ์แล้ว กระเจี๊ยบเขียวก็ยังเป็นไม้ประดับที่สวยงามอีกด้วย ดอกของมันมีสีเหลืองนวลๆ กลีบสีขาวครีมซ้อนกันสวยงามลักษณะคล้ายดอกอัญชันเลยทีเดียว และมีสีแดงระเรื่ออยู่ภายในตรงกลางบริเวณเกสร เรียกได้ว่าผลของกระเจี๊ยบเขียวมีประโยชน์ทั้งฝัก แถมด้วยดอกของมันยังสวยงาม ปลูกง่ายอีกด้วย

ข้อควรระวังไม่มีอะไรมากแต่อยากจะเตือนว่าหากคุณเลือกซื้อฝักกระเจี๊ยบซึ่งมีขนอ่อนๆ คลุมอยู่นอกเปลือกนั้นเป็นตัวกักเก็บสิ่งสกปรกจากภายนอกได้ง่าย ก่อนจะนำไปกินก็อย่าลืมแช่น้ำทิ้งไว้สัก 15 นาที แล้วล้างให้สะอาดก่อนกินทุกครั้งเพื่อสุขภาพที่ดีแก่ตัวท่านนะคะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับผักน่ารู้...คู่สุขภาพดี