สมุนไพรน่ารู้ อายุรวัฒน์เวชศาสตร์ January 4, 2018 Share 12 Tweet Pin 0 “กระทือ” สรรพคุณ-ประโยชน์ของกระทือ พืชต้นเล็กที่ไม่ควรมองข้าม“กระทือ” ไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งที่หลายๆ คนมองข้ามไปเนื่องจากเป็นพืชรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆ ไม่น่ารับประทาน และสามารถพบเห็นได้ทั่วไปจนดูเหมือนไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก แต่จริงๆ แล้วกระทือจัดเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่นับว่ามีคุณค่าทางสารอาหารและมีสรรพคุณทางยามากมาย มาลองทำความรู้จักสรรพคุณและประโยชน์ดีของกระทือกันให้มากขึ้นดีกว่า ที่มาของ“กระทือ”กระทือเป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์ขิง มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่นๆเช่น เฮียวแดง กะแวนแสมดำ เฮียวดำ กะแอน (ภาคเหนือ) เป็นต้น ถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนจะแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงประเทศไทย กระทือขยายพันธุ์ได้ง่าย พบเห็นได้ทั่วไปตามป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และจะพบมากในบริเวณริมลำธารกระทือมีรสเผ็ดร้อนเล็กน้อยและมีกลิ่นหอม จึงมีการนำมาประกอบอาหารโดยใส่ในเครื่องแกง เครื่องเทศ เนื่องจากทำให้อาหารมีกลิ่นหอมอร่อยน่ารับประทานมากขึ้น แต่ว่าได้รับความนิยมไม่เท่ากับขิงหรือข่าเท่าใดนักลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกระทือลำต้น เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเหนือพื้นดินสูงประมาณ 1-1.5 เมตร ทรงกลม เป็นไม้เนื้ออ่อน มีเส้นใยมากมาย มีลักษณะกาบหุ้มเป็นชั้นๆ และมีลำต้นใต้ดินมีลักษณะเป็นหัวหรือเหง้า รูปทรงกลม มีรากแขนงแทงออกมาจากเหง้ามากมาย คล้ายกับแง่งข่า แต่ละแง่งสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ เปลือกของหัวกระทือมีสีน้ำตาลอมเหลือง เนื้อสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสเผ็ดร้อนเล็กน้อยและขมเฝื่อน เจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยใช้หัว ชอบพื้นดินที่มีลักษณะร่วนซุยและชื้นพอสมควร พบเห็นได้ทั่วไปตามป่าต่างๆ หรือตามบ้านที่ชาวบ้านปลูกไว้ใบ เป็นใบเดี่ยว ก้านใบสั้น ใบเรียวยาวคล้ายหอก ออกเรียงสลับๆ กันในระนาบเดียวกัน ใบมีสีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบ ท้องใบมีขนอ่อนนุ่มปกคลุม มีร่องกลางใบเห็นชัด ปลายใบแหลม โคนใบมนกว่าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ บริเวณก้านใบมีลักษณะเป็นกาบหุ้มก้านเอาไว้ ผิวใบสามารถสังเกตเห็นริ้วเส้นใบได้ตลอดทั้งใบอย่างชัดเจนดอก ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ โดยแทงดอกขึ้นมาจากเหง้า ก้านดอกกลมยาว ช่อดอกมีลักษณะกลมทรงกระบอก แต่ตรงกลางจะป่องออกเล็กน้อย กลีบดอกมีสีขาวนวลอมเหลืองและจะบานไม่พร้อมกัน ดอกจะบานโดยแทงดอกออกมาจากใบประดับและจะค่อยๆ บานจากด้านบนลงล่าง ช่อดอกมีใบประดับสีเขียว หรือเขียวอมชมพูเรียงซ้อนกันหนาแน่น ส่วนดอกย่อยมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอก 3 กลีบ โคนหลอดติดกันเป็นหลอด เป็นดอกสมบูรณ์เพศโดยเกสรเพศผู้จะอยู่กลางดอก ส่วนเกสรเพศเมียจะอยู่ด้านล่างผล ค่อนข้างกลม เนื้อมีสีขาว แทรกอยู่ในใบประดับ ในหนึ่งผลมีเมล็ด 1 เมล็ดเมล็ด มีลักษณะกลม สีดำ มีเนื้อหุ้มเมล็ดสีขาว เปลือกเมล็ดเรียบเป็นมัน 11 สรรพคุณและประโยชน์ของกระทือ1.กระทือช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารหลั่งมากขึ้น จึงช่วยย่อยอาหาร ทำให้เจริญอาหาร รับประทานอาหารได้มากขึ้น แก้อาการผอมแห้งแรงน้อย บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ2. กระทือมีสรรพคุณลดไข้ แก้ไข้ตัวร้อนต่างๆ ลดเสมหะในลำคอ แก้ไอ ลดอาการระคายคอ3. กระทือช่วยขับลม ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นหน้าอก จุกเสียดแน่นท้อง ทำให้ผายลมมากขึ้น ลดอาการปวดบิดและปวดเสียดในท้อง4. กระทือช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการปัสสาวะกระปริดกระปรอย รวมทั้งช่วยขับอุจจาระด้วยเช่นกัน5. กระทือมีสรรพคุณบำรุงเลือด แก้เลือดกำเดาไหล ขับเลือดเสียออกจากร่างกาย ช่วยขับน้ำคาวปลาในสตรีหลังคลอดบุตร6. กระทือมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นน้ำนม จึงเหมาะสำหรับระกอบอาหารให้สตรีที่กำลังให้นมบุตรรับประทาน7. กระทือมีสรรพคุณแก้ฝี เหง้ามีสรรพคุณช่วยแก้ฝีและบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอกตามจุดต่างๆ ในร่างกายโดยการนำเหง้ากระทือมาฝนแล้วทาบางๆ ในบริเวณที่มีอาการ8. ประโยชน์ของกระทือใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะดอกกระทือมีสีสันสวยงามหรือนำมาจัดดอกไม้ ปักแจกันเพื่อความสวยงามในบ้านหรือพื้นที่ต่างๆ ได้9. กระทือใช้ประโยชน์กำจัดเห็บเหาได้ มีการสกัดสารสกัดชนิดหนึ่งจากกระทือ ซึ่งสกัดโดยใช้เมทิลแอลกอฮอล์ สารสกัดที่ได้มีฤทธิ์กำจัดเห็บเหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ10. น้ำมันหอมระเหยจากกระทือ นำมาผลิตเป็นยาฉีดกำจัดศัตรูพืชและลูกน้ำยุงได้11.ใบของกระทือนำมาใช้ห่ออาหาร ส่วนก้านนำมาผลิตเชือกได้เมนูแนะนำแสนอร่อยจากกระทือ1. หน่ออ่อนของกระทือ นำไปประกอบอาหารจำพวก ผัดเผ็ด แกงเผ็ดต่างๆ เช่น ผัดเผ็ดปลาไหล ผัดเผ็ดปลาดุก ช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ ทำให้อาหารมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น2. นำมาต้มจิ้มน้ำพริก โดยรับประทานเป็นผัก เป็นเครื่องเคียง ซึ่งสามารถนำมารับประทานได้เกือบทุกส่วนทั้งยอดอ่อน แกนกลางลำต้น หน่ออ่อนและลำต้นใต้ดินกระทือมีโทษต่อร่างกายอย่างไร?ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเพราะอาจจะทำให้คลื่นไส้และอาเจียนได้ได้รู้สรรพคุณและประโยชน์ของกระทือแล้ว...กระทือจัดเป็นพืชที่น่าสนใจมากชนิดหนึ่งเลยทีเดียว หากใครมีกระทืออยู่ตามบ้าน ตามริมรั้ว อย่าลืมลองนำมาประกอบอาหาร ต้มจิ้มน้ำพริกรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ สักจานหรือสตรีคนไหนที่กำลังให้นมบุตรอยู่ สามารถนำมาประกอบอาหารเพื่อเป็นอาหารบำรุงและกระตุ้นน้ำนมได้เป็นอย่างดี