อาหารเพื่อสุขภาพ โภชนบำบัด April 10, 2017 Share 1 Tweet Pin 0 Emerald Oil น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธีที่ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ...ผู้ช่วย "อาหารทอด" ให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคมะเร็ง คงปฎิเสธไม่ได้ว่า "อาหารทอด" ไม่ว่าจะเป็น หมูทอด ไก่ทอด ปลาทอด ลูกชิ้นทอด กุ้งชุบแป้งทอด และอีกสารพัดเมนูทอดๆ เป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของน้องๆ หนูๆ รวมถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย...ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะสีสันน่ากิน รสชาติกลมกล่อม เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน รวมถึงการปรุงก็ง่ายดาย ทอดปุ๊ป อร่อยปั๊บ ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ "อาหารทอด" เป็นเมนูถูกปาก ถูกใจของสมาชิกในครอบครัว แต่รู้หรือไม่...ในความอร่อยของ "อาหารทอด" อาจนำพาผู้ร้าย เข้าสู่ร่างกายโดยที่คุณไม่รู้ตัว!!สารพิษร้าย อันตรายใน "อาหารทอด"ผู้ร้ายที่ว่าคือ สารพิษต่างๆ ที่แฝงอยู่ในของทอด รอเวลาเข้าสู่ร่างกายคนเราเพื่อก่อให้เกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็ง ...แล้วสารพิษที่ว่ามันเกิดมาจากไหนล่ะ หากลองนึกดูดีๆ คำตอบที่พบคงไม่พ้น “น้ำมัน” และ “ความร้อน” ไปได้ ของทอดตามร้านข้างทางริมถนน ตามตลาดนัด แหล่งชุมชน แม้แต่ในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าชั้นนำ ก็คงเชื่อมั่นไม่ได้เต็มร้อยว่าจะไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ซึ่งมีอันตรายอยู่แน่นอน ยิ่งเป็นน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดสารพิษมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่อ “อาหาร” “น้ำมันพืช” และ “ความร้อน” มาอยู่รวมกัน น้ำมันที่มีคุณภาพต่ำจะไม่สามารถทนความร้อนสูงได้นาน ทำให้เกิดสารพิษชื่อว่า สารโพลาร์ (Polar Compound) และสารโพลีไซคลิกอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons: PAHs) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และมีความเสี่ยงเกิดโรคอื่นๆ เช่น ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วนลงพุง ลำไส้ทำงานผิดปกติ ตับและไตโต เป็นต้น ฯลฯ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะสามารถกินของทอดได้อีกหรือไม่? ต้องกินให้น้อยลงไหม? หรือไม่ควรกินเลยจะดีที่สุด.... อย่าเพิ่งคิดกังวลกันไปไกลขนาดนั้น เพราะในความเป็นจริงก็ยังกินอาหารทอดได้ถ้าเรารู้จักเลือกซื้อจากร้านที่ใช้วัตถุดิบสะอาด ถูกหลักอนามัย รวมถึงการใช้น้ำมันทอดที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับการทอด ก็จะเป็นทางออกที่มั่นใจว่า "อาหารทอด" นั้นดีต่อสุขภาพ ปลอดภัยจากโรคร้าย ห่างไกลอันตรายจากสารพิษอย่างแน่นอน น้ำมันทอดที่ปลอดภัย ช่วยห่างไกลโรคหัวใจ โรคมะเร็ง สังเกตและหลีกเลี่ยงของทอดที่เข้าข่ายอันตรายสำหรับวิธีการนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่เราสามารถนำไปใช้ซื้อของทอดตามร้านค้าแผงลอยทั่วไปได้ โดยการสังเกตน้ำมันที่ทางร้านใช้ทอดอาหารดังนี้- ควันของน้ำมันทอด ถ้าสังเกตเห็นว่าในขณะที่กำลังทอดอาหารมีควันลอยขึ้นมามากกว่าปกติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าน่าจะเป็นน้ำมันที่ใช้มานานแล้ว ไม่ควรซื้ออย่างยิ่ง- สีและกลิ่นของน้ำมันทอด น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารมีกลิ่นเหม็นหืน สีดำคล้ำ แถมมีฟองมากและกลิ่นเหม็นไหม้ร่วมด้วย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อของทอดที่ใช้น้ำมันในลักษณะดังกล่าว- หลีกเลี่ยงการทานของทอดที่ใช้ความร้อนสูงมากๆ เน้นว่าสูงมากๆ เพราะอุณหภูมิที่สูงจะทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพได้เร็วมากขึ้นนั่นเอง หากผู้ขายไม่ค่อยเปลี่ยนน้ำมันด้วยก็อาจยิ่งเป็นอันตราย- ควรใช้กระดาษสำหรับซับน้ำมัน (ไม่ใช่กระดาษทิชชู่นะ) ซับน้ำมันจากชิ้นอาหารก่อนกิน จะช่วยลดไขมันที่ติดมากับอาหารได้มากทีเดียวบริโภคน้ำมันที่มีสัดส่วนของกรดไขมันที่สมดุล ช่วยลดการเกิดโรคร้ายน้ำมันเป็นสารประกอบไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเกิดจาก กลีเซอลรอล (Glycerol) รวมตัวกับกรดไขมัน (Fatty acid) ในน้ำมันแต่ละตัวก็จะมีสัดส่วนของกรดไขมันชนิดต่างๆแตกต่างกันออกไป โดยเราได้แบ่งชนิดของกรดไขมันออก เป็น 3 ประเภท ดังนี้1. กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid: SFA) คือ กรดไขมันที่มีพันธะระหว่างคาร์บอนเป็นพันธะเดี่ยว ซึ่งทำให้น้ำมันสามารถทนความร้อนได้สูง เหมาะที่จะใช้ในการทอดอาหาร พบมากในน้ำมันปาล์ม, น้ำมันหมู และน้ำมันมะพร้าวSFA เป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมน และ ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น แต่ถ้าเรารับประทานในปริมาณที่สูงเกินความต้องการของร่างกาย กรดไขมันเหล่านั้นจะไปอุดตันตามหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตันจนไหลเวียนไม่ได้ นำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน2. กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated Fatty Acid: MUFA) คือกรดไขมันที่มีพันธะระหว่างคาร์บอนเป็นพันธะคู่ หนึ่งตำแหน่งพบมากใน น้ำมันมะกอก, น้ำมันคาโนลาและ น้ำมันถั่วเหลือง สามารถทนความร้อนได้น้อยกว่ากรดไขมันอิ่มตัว จึงเหมาะสำหรับทำอาหารผัด MUFA มีประโยชน์คือ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และมี ไขมันเลว (LDL)ที่ต่ำ3. กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated Fatty Acid: PUFA) คือ กรดไขมันที่มีพันธะระหว่างคาร์บอนเป็นพันธะคู่ หลายตำแหน่ง มักพบใน น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน, น้ำมันดอกคำฝอย, น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น เป็นกรดไขมันที่ทนความร้อนได้น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับ SFA,MUFA จึงเหมาะสำหรับ การทานสด, ทำน้ำสลัด หรือมายองเนส ประโยชน์ของ PUFA คือ จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ไขมันในหัวใจ อีกทั้งป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ใน 1 วัน ร่างกายควรได้รับพลังงานจากไขมัน 30% ซึ่งแบ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (MUFA,PUFA) 20% และกรดไขมันอิ่มตัว (SFA)10% ซึ่งเป็นสมดุลกรดไขมันที่แนะนำให้บริโภคตามหลักโภชนาการร่างกายจะนำกรดไขมันเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ เช่น ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ,สร้างฮอร์โมน, ดูดซึมวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ,เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค ,ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น วิตามินเอ ช่วยในด้านสายตา และผิวหนังวิตามินดี ช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็กและผู้ใหญ่ ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมวิตามินอี ป้องกัน การเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือดวิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือดด้วยความรู้และนวัตกรรมสมัยใหม่ ทำให้เราสามารถทำ น้ำมันผสม ที่มีสัดส่วนของกรดไขมันที่สมดุลที่ดีต่อร่างกายซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ และ โรคมะเร็งได้ ตามหาผู้ช่วยเรื่องของทอด พร้อมดูแลสุขภาพ กับ “น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธี ตราเอ็มเมอรัล (Emerald)”แต่หากใครที่ชอบทำอาหารกินเองที่บ้านบ่อยๆ และมักมีเมนูของทอดเป็นประจำ รวมทั้งบางคนที่จำเป็นต้องทอดอาหารทุกวัน การเลือกใช้น้ำมันสำหรับทอดอาหารที่ดี มีคุณภาพ มีมาตรฐานรับรอง จึงเป็นวิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย หรือช่วยให้อาการของโรคที่เป็นอยู่ทุเลาลงสำหรับอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่คนในยุคนี้ไม่ควรมองข้ามคือ น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธี ตรา เอ็มเมอรัล (Emerald) ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังมองหาน้ำมันมาใช้ในการทอดอาหารแบบไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็งที่แฝงตัวมากับอาหารทอด จึงไม่แปลกใจที่ น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธี ตราเอ็มเมอรัล (Emerald) จะกลายเป็นไอเท็มคู่ครัว คู่ใจของผู้บริโภคที่ใส่ใจและรักษ์สุขภาพ โดยมี 2 สูตร ที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์การปรุงอาหารแบบทอด 1. Emerald Oil สูตร Nutri Blend เป็นน้ำมันผสมผ่านกรรมวิธีระหว่างน้ำมันปาล์มโอเลอินกับน้ำมันคาโนลา มีจุดเดือดต่ำ ทำให้น้ำมันไม่ต้องใช้ความร้อนสูงในการทำอาหารเหมาะสำหรับอาหารประเภททอดและผัดเป็นน้ำมันที่มีสัดส่วนของกรดไขมันที่สมดุลดีต่อร่างกายโดยมี SFA:MUFA:PUFA = 1:1.7:0.6และได้รับฮาร์ตโลโก้ (Heart logo)ปริมาณสัดส่วนกรดไขมันที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ SFA:MUFA:PUFA = 1:1.5:5.1 2. Emerald Oil สูตรทอด Deep Frying Blend เป็นน้ำมันผสมผ่านกรรมวิธี ระหว่างน้ำมันปาล์มโอเลอินกับน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งทำให้น้ำมันสูตรนี้ลดไขมันอิ่มตัวลง 40% แต่ยังสามารถทนความร้อนสูงได้ จึงเหมาะสำหรับการทอดแบบน้ำมันท่วมและยังมีวิตามิน E 20% ของThai RDIThai Recommended Daily Intakes ซึ่งเป็นค่าของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้ควรบริโภคประจำวันสำหรับคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยคิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี Emerald Oil สูตรนี้ถือว่ามีวิตามินอีสูงคือไม่ต่ำกว่า 20% Thai RDI จึงเพียงพอต่อความต้องการใน 1 วัน หากร่างกายต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี โดยไม่ต้องกินวิตามินอีจากแหล่งอาหารอื่นเพิ่ม อย่างไรก็ดีการที่ได้รับวิตามินอีมากเกินไปอาจเกิดผลข้างเคียงให้รู้สึกปวดศีรษะ ร่างกายอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อล้า ตาพร่ามัว แน่นท้อง ท้องร่วง และการดูดซึมวิตามินเอทำได้ไม่ดี การันตีคุณภาพ Emerald Oil จากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงEmerald Oil สูตร Nutri blend ผ่านมาตรฐานได้รับตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ในโครงการอาหารไทย หัวใจดี ของมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ช่วยรับประกันได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมนำมาใช้ประกอบอาหาร ช่วยลดปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดหัวใจได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นจากคุณสมบัติของ Emerald Oil สูตรNutri blend เป็นน้ำมันที่ดีต่อใจแน่นอน จะใช้ทอดอาหารหรือปรุงอาหารแบบผัดก็ดีต่อสุขภาพร้อยเปอร์เซ็นต์“น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธีตรา เอ็มเมอรัล” จึงเป็นน้ำมันที่แพทย์แนะนำให้แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจใช้ในการทำอาหาร เนื่องจาก Emerald Oil เป็นน้ำมันที่ดึงเอาจุดเด่นของน้ำมันพืชแต่ละชนิดมาผสมกัน โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของน้ำมัน จนได้สมดุลของกรดไขมันที่ดี ทำให้สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้หลายชนิดขึ้น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคแห่งความเสื่อมของร่างกาย ตัวอย่างเช่น Emerald Oil สูตร Nutri Blend เป็นน้ำมันผสมระหว่างน้ำมันปาล์มโอเลอินที่มีไขมันอิ่มตัวสูง กับน้ำมันคาโนลาที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ กลายเป็นน้ำมันผสมใหม่ที่ทนความร้อนสูงเหมาะสำหรับการทอดและผัดและมี SFAไม่สูงมากหากเปรียบเทียบกับน้ำมันปาล์มทั่วไปทั้งนี้ Emerald Oil ทั้ง 2 สูตร Nutri blend และ Deep fry ยังมีผลวิจัยรองรับมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของน้ำมันจาก ALS Laboratory Group (Thailand) ในเครือข่าย ALS Laboratory Group ห้องปฏิบัติการชั้นนำของโลก ซึ่งยืนยันว่าในน้ำมันพืช Emerald Oil ไม่พบสารต้านออกซิเดชันสังเคราะห์ชนิด BHA (Butylated Hydroxyanisole), BHT (Butylated Hydroxytoluene) และ TBHQ (Tertiary Butylhydroquinone) ที่นิยมใส่ในอาหารเพื่อช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นหืนและการเกิดออกซิเดชันของไขมัน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัตถุกันหืน” ซึ่งสารเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีรายงานพบว่าเป็นสารพิษที่มีอันตรายต่อสุขภาพด้วย หากร่างกายได้รับในปริมาณสูงอาจส่งผลเสียก่อให้เกิดโรคมะเร็งในภายหลังได้“จุดเกิดควันสูง” คุณสมบัติที่ดีของน้ำมันทอดอาหารอีกสิ่งที่สำคัญในการใช้น้ำมันทอดอาหารนั่นคือ “จุดเกิดควัน” หรือ “Smoke Point” หมายถึง อุณหภูมิของน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารเริ่มกลายเป็นควัน ทำให้สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการและเกิดกลิ่นหืนด้วย โดยควันจากน้ำมันทอดอาหารจะเกิดขึ้นเมื่อน้ำมันที่ใช้ทอดได้รับความร้อนสูงกว่าจุดเกิดควัน เช่น การทอดแบบน้ำมันท่วมอาหาร (Deep Frying) การผัดอาหารด้วยไฟแรง (Stir Fry) ฯลฯ ควันที่เกิดขึ้นจะทำให้รู้สึกแสบตาหรือแสบคอ เพราะฉะนั้นถ้าต้องทอดและผัดอาหารด้วยไฟแรงจึงควรใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูงและ Emerald Oil เป็นน้ำมันผสมคุณภาพดีที่ผ่านการทดสอบจุดเกิดควันจาก Overseas Merchandise Inspection Co., Ltd. บริษัทชั้นนำในด้านการตรวจสอบ และตรวจวิเคราะห์คุณภาพสินค้าอาหารและการเกษตร ผลปรากฏว่า “น้ำมันผสม Emerald Oil” มีจุดเกิดควันที่ 233.50 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ช่วยลดโอกาสจะเกิดโรคมะเร็งได้มาก เพราะหากเปรียบเทียบกับน้ำมันพืชในกลุ่มที่มีSFA สูงแล้วจะมีจุดเกิดควันต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่เกินที่ประมาณ 200 องศาเซลเซียส"อาหารทอด" จะไม่ใช่เมนูอันตรายอีกต่อไป เพียงคุณเลือกใช้ “น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธี ตรา เอ็มเมอรัล” เพราะเป็นน้ำมันผสม นวัตกรรมใหม่ที่เหมาะสำหรับทอดและผัดช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) เพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) สามารถทนความร้อนได้สูง และไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แถมมั่นใจด้วยมาตรฐานคุณภาพที่มีการวิจัย ทดสอบ และรับรองจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงระดับโลกว่า ลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็งเมื่อทานในปริมาณที่เหมาะสมมาร่วมรักษ์สุขภาพ รักหัวใจ ด้วยการใช้น้ำมันที่ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ อย่าง Emerald Oil กันเถอะ!!บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับน้ำมันประกอบอาหาร หากรักษ์สุขภาพต้องรู้จัก “น้ำมันดอกคาโนลา” กับ “น้ำมันคาโนลาผสมน้ำมันทานตะวัน” ประโยชน์ของ “น้ำมันมะกอก” กับการบำรุงที่ล้ำลึกจากภายในสู่ภายนอก “น้ำมันดอกทานตะวัน” เนื้อบางเบา ไขมันต่ำ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ประโยชน์ของ “น้ำมันรำข้าว” คุณค่า สารอาหารจากข้าวเต็มเมล็ด