คลินิกสุขภาพจิต ไขปัญหาสุขภาพ December 19, 2016 Share 1 Tweet Pin 0 "ดีท็อกซ์โยเกิร์ต" สูตรนี้ดีชัวร์ หรือ มั่วนิ่ม? เรียกได้ว่าโดนเบรกเอี๊ยดสนั่นซะขนาดนี้ เมื่อจู่ๆ มี นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิสกุล ออกมาเปิดเผยในหนังสือพิมพ์มติชน คอลัมน์ธรรมชาติบำบัดว่า สูตร "ดีท็อกซ์โยเกิร์ต" นั้นมีผลเสียต่อเลือด และทำให้เกิดอันตราย จะยังไงลองมาดูกัน โดยคุณหมอ บรรจบได้บอกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการดีท็อกซ์โยเกิร์ตไว้ว่า1. ความหวานจากน้ำผึ้งก็คือแคลอรีจากน้ำตาลดีๆ นี่เอง น้ำผึ้งไม่ได้ปลอดภัยกว่าน้ำตาลทั่วไปเลย ความหวานของน้ำผึ้งจะเปลี่ยนให้โปรตีนจับตัวกันเป็นก้อน ลองนึกดูว่าแบคทีเรียในโปรตีนยังตาย คนโบราณจึงใช้น้ำผึ้งทาแผลเปื่อยเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ผลข้างเคียงคือทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเปลี่ยนสีกลายเป็นแผลเป็น ส่วนคนจีนโบราณจะใช้น้ำผึ้งในการดองศพ ลองคิดง่ายๆ นะว่า น้ำผึ้งเข้มข้นยังสามารถดองเนื้อเยื่อได้ โอ้... แล้วกระเพาะและลำไส้ของคนจะเป็นอย่างไร?2. โยเกิร์ตเป็นสิ่งบริโภคที่ไม่เหมาะกับคนเอเชีย เพราะโยเกิร์ตคือผลผลิตของนมวัว ซึ่งคนเอเชีย 50 -80 % แพ้โปรตีนในนม ถึงแม้ว่าโยเกิร์ตจะทำให้ถ่ายท้องได้คล่องก็จริง แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาก็ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาภูมิแพ้ของคนนั้นๆ หากมีอาการแพ้นมวัว โปรตีนก็จะทำให้เยื่อบุลำไส้ระคายเคือง เซลล์เยื่อบุเกิดอาการบวมน้ำ จึงปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ทำให้ขับถ่ายเป็นน้ำเหลวๆ ออกไป ถ้าปล่อยให้ระคายเคืองซ้ำๆ ก็จะทำให้ภูมิต้านทานคุณปรวนแปร จากแค่อาการแพ้ธรรมดาๆ ก็จะพัฒนาการเป็นลมพิษ ผื่นคัน ไปจนถึงหอบหืด และร้ายแรงที่สุกก็คือ โรคลำไส้เรื้อรัง3. ท้องผูกต้องแก้ด้วยไฟเบอร์ ควรทานอาหารพวกเส้นใยอาหารให้มาก โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งมะนาวไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดในขณะเดียวกันก็มีนักวิชาการทางการแพทย์ออกมาให้ความเห็นขัดแย้งกับ นพ.บรรจบ เกี่ยวกับการดีท็อกซ์ด้วยโยเกิร์ตดังนี้1. ข้อที่ว่า "ขี้ผึ้ง (wax) ที่ปนอยู่ในน้ำผึ้งช่วยระบายอุจจาระ" ซึ่งหมอโบราณระบุสรรพคุณของน้ำผึ้งเก่าเก็บมากกว่า 1ปี จึงจะช่วยระบาย ข้าพเจ้ากินน้ำผึ้งใหม่ๆ ของแท้ๆ จากเกสรดอกไม้ก็ไม่มีอาการระบายอุจจาระแต่อย่างไร2. "น้ำผึ้งจะทำให้โปรตีนของเนื้อเยื่อของแผลเปื่อยเปลี่ยนไปจากธรรมชาติเพราะน้ำผึ้งจะฆ่าเชื้อโรคบริเวณแผลได้ดี" ข้อความนี้ดูกำกวมถ้าไม่ดีทำไมโรงพยาบาลศิริราชและรามาธิบดีจึงใช้น้ำผึ้งในการสมานแผลผ่าตัด ผู้เขียนจะหลงประเด็นหรือไม่...การใช้น้ำผึ้งกับแผลก็ไม่เหมือนการกินน้ำผึ้งเพราะน้ำผึ้งที่กินเข้าไปต้องผ่านกระบวนการย่อย3. "โยเกิร์ตสร้างความระคายเคืองอย่างแรงให้กับลำไส้เพราะเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ของผู้กิน" ในข้อนี้คงจะไม่ถูก เพราะโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสซึ่งช่วยเก็บกวาดขยะในลำไส้ ประเทศบัลกาเลียก็รับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำ4. “การกินสูตรโยเกิร์ตเพื่อแก้ปัญหาท้องผูกเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด" ข้อนี้เห็นด้วย ว่าควรจะกินข้าวกล้อง ผัก-ผลไม้ที่มีกากใยทั้งหมดเป็นความเห็นทั้ง 2 ฝ่าย มีทั้งขัดแย้งและเห็นด้วย หลายคนก็ได้ผลต่างกัน แต่ถ้าใครอยากจะลองพิสูจน์ทฤษฎีดีท็อกซ์โยเกิร์ตด้วยตัวเองล่ะก็ เอาสูตรไปเลยจ้า สูตร 1 น้ำผึ้ง + มะนาว + โยเกิร์ตส่วนผสม:1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติครึ่งถ้วย2. มะนาวครึ่งลูก3. น้ำผึ้ง 1 ช้อน4. นมสดวิธีทำ: ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันเชคให้ลงตัวแล้วดื่มทันทีคำแนะนำ: สูตรนี้ควรดื่มทันทีไม่ควรวางทิ้งเอาไว้และควรใช้นมโคแท้เพราะจะได้สารอาหารเต็มเปี่ยมที่สำคัญควรทำตอนวันหยุดไม่เช่นนั้นจู๊ดๆเข้าห้องน้ำแบบหมดไส้หมดพุงแน่นอนแค่ 40 นาที ก็รู้เรื่องกับดีท็อกซ์โยเกิร์ตสูตรนี้ สูตร 2 โยเกิร์ต + นมสด + กล้วยน้ำว้าสูตรนี้ใช้นมสด 2 กล่อง ให้กินพร้อมกับกล้วยน้ำว้า 2 ลูก หรือจะนำไปปั่นรวมกันแล้วดื่มก็ได้ ดื่มตอนท้องว่างก็ดี แนะนำว่าดื่มก่อน 6 โมงเช้ายิ่งดีไปใหญ่ เพราะเราจะได้ถ่ายก่อน 7 โมง สูตรนี้จะช่วยกระตุ้นให้ขับถ่ายเป็นปกติ แนะนำอีกนิดว่าให้ทำติดต่อกัน 3 วันแล้วเราขับถ่ายเป็นเวลาด้วยสูตร 3 โยเกิร์ต + น้ำร้อน + เม็ดแมงลักสูตรนี้ง่ายๆ เลยค่ะคุณ แค่เตรียมน้ำร้อน 1 แก้วใส่เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา จากนั้นรอ 30 นาที ให้เม็ดแมงลักพองตัว แล้วค่อยดื่ม สูตรนี้แนะนำว่าให้ดื่มก่อนนอนนะจ๊ะ เม็ดแมงลักมีใยอาหารสูงและมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ จะช่วยชะล้างอุจจาระที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกมา ชนิดที่ว่าตื่นเช้าปุ๊บ วิ่งเข้าห้องน้ำปรู๊ดปร๊าดแบบหมดไส้หมดพุงกันเลยทีเดียว ประโยชน์ของดีท็อกซ์โยเกิร์ตสูตรนี้1. เหมาะสำหรับผู้ที่ท้องผูกขับของเสียในร่างกายโดยไม่ต้องพึ่งยาระบาย2. ช่วยบรรเทาอาการเบื่ออาหารสำหรับผู้ที่ท้องอืดอาหารไม่ย่อยเนื่องจากจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้เป็นไปตามธรรมชาติ3. เหมาะสำหรับผู้ที่เรอบ่อย หน้าไม่ใส มีสิว ควรได้รับการล้างพิษในลำไส้เป็นการดีท็อกซ์แบบธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไปไม่ระคายเคืองต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย4. ประหยัด สะดวก และวัตถุดิบทุกอย่างหาซื้อได้ง่ายสุดท้ายคนที่ตัดสินว่าดีท็อกซ์ด้วยโยเกิร์ตได้ผลหรือไม่ก็คือร่างกายของคุณเอง เพราะมีทั้งคนที่ได้ผลและไม่ได้ผล มีคนออกมาแย้งมากมาย ถ้าได้ผลดีก็ควรบอกต่อ แต่ถ้าไม่กระเตื้องกระตุ้นอะไร ก็ดูบทความต่อไปได้เลย ในเว็บของเรายังมีสูตรดีๆ ในการดีท็อกซ์สารพัดเลยจ้าบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่ไขปัญหาสุขภาพ กิน “น้ำเต้าหู้”…ช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือ? ทดแทน “น้ำตาล” ด้วย “น้ำผึ้ง” …ดีจริงหรือ? ไขข้อข้องใจ…อาบน้ำหลังกินข้าว ไม่ดีจริงหรือ? กิน “น้ำมันหมู” ดีกว่า “น้ำมันพืช” จริงหรือ?