free web tracker, fire_lady ประโยชน์ของ “ถั่วเขียว” ทานอร่อยทั้งแบบต้มน้ำตาล-ถั่วงอก-วุ้นเส้น • สุขภาพดี

ประโยชน์ของ "ถั่วเขียว"

ทานอร่อยทั้งแบบต้มน้ำตาล-ถั่วงอก-วุ้นเส้น

สรรพคุณ ประโยชน์ของถั่วเขียว

"ถั่วเขียว" หรือ Mungbean เป็นพืชไร่ชนิดหนึ่ง ในบรรดาที่เรารู้จักกันว่าเป็นพืชตระกูลถั่วที่หลายๆ คนชอบรับประทาน เนื่องจากนิยมนำมาทำเป็นของหวานแสนอร่อยอย่างถั่วเขียวต้มน้ำตาลนั่นเอง นอกจากนี้เมล็ดของถั่วเขียวยังใช้เพาะเป็นถั่วงอก และสามารถนำไปแปรรูปเป็นวุ้นเส้น บางทีก็นำไปผสมในอาหารสัตว์ ทำเป็นสินค้าแปรรูปชนิดต่างๆ สำหรับบทความนี้จะกล่าวถึงที่มา สรรพคุณและประโยชน์ของถั่วเขียวให้ทราบ ดังนี้

ต้นกำเนิดของถั่วเขียว

ก่อนจะพูดถึงสรรพคุณของถั่วเขียว เรามากล่าวถึงที่มาของถั่วเขียวกันดีกว่า ต้นกำเนิดของถั่วเขียวพบในประวัติศาสตร์ว่า ถั่วเขียวแรกเริ่มเดิมทีมีปลูกครั้งแรกในแคว้นมัธยประเทศของอินเดีย ส่วนในประเทศไทยมีต้นกำเนิดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ค้นพบโดยนักวิจัยในช่วงยุคสมัยหินกลาง จึงอนุมานได้ว่าการเพาะปลูกถั่วเขียวนั้นมีประวัติอันยาวนานมาหลายพันปีเลยทีเดียว

 รู้จัก "ถั่วเขียว" ให้ถึงรากถึงโคน

เราทราบกันดีว่า พืชตระกูลถั่วนี้เป็นพืชที่มักใช้ปลูกหมุนเวียนกับพืชอย่างอื่นเพื่อช่วยฟื้นฟูดินที่เสียให้กลับมามีคุณภาพที่ดีขึ้น นั่นเป็นเพราะ ระบบรากของถั่ว(รวมถึงถั่วเขียว)ประกอบไปด้วยรากแก้วและรากแขนงเป็นจำนวนมาก และหากสังเกตุให้ชัดๆ จะเห็นว่าบริเวณรากเหล่านั้นจะมีปมของเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ไรโซเบียม" ซึ่งสามารถตรึงไนโตรเจนในดินได้

ลักษณะของถั่วเขียว

ลักษณะของต้นถั่วเขียว

ส่วนวิธีสังเกตว่า นี่คือต้นของถั่วเขียวหรือไม่ ให้ดูที่ลำต้น โดยทั่วไปแล้วถั่วเขียวเป็นพืชที่มีลำต้นตรง ความสูงมีตั้งแต่ 30 จนถึง 150 เซนติเมตร นับว่าสูงทีเดียว แต่ก็มีบางสายพันธุ์อยู่เหมือนกันที่ลำต้นแทนที่จะสูงกลับเลื้อยไปตามพื้นแทน ส่วนลักษณะของใบนั้นเป็นแบบสามใบ คือ แต่ละใบแยกเป็นใบย่อยๆ อีก 3 แฉกนั่นเอง

ดอกของถั่วเขียวเป็นดอกช่อ ในแต่ละช่ออาจมีจำนวน 10-15 ดอก มีหลายสี ขาว เหลือง หรือ ม่วง แล้วแต่พันธุ์ที่ปลูก ส่วนฝักของถั่วเขียวนั้นกลมยาว แต่ละฝักจะมี 10-15 เมล็ด

7 สรรพคุณของถั่วเขียว...ประโยชน์มากกว่าเม็ดเล็กๆ ที่เห็น

ประโยชน์ของถั่วเขียวนั้น มีมากมายหลายอย่าง นอกจากการรับประทานเมล็ดถั่วเขียวต้มน้ำตาลเพื่อแก้ร้อนในแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆที่น่าเรียนรู้มาฝากกันด้วย ดังนี้

1. เมล็ดถั่วเขียวสามารถช่วยลดความอ้วนและลดน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานควรรับประทานบ้าง เพื่อให้ระดับน้ำตาลในร่างกายคงที่ ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำจนเกินไป ผู้ที่ลดน้ำหนักก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน

2. ประโยชน์ของถั่วเขียวช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ ตาพร่า ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาเหล่านี้ควรรับประทานถั่วเขียวต้มเป็นประจำ

3. ถั่วเขียวมีสรรพคุณช่วยให้ขับถ่ายง่าย แก้ท้องผูก เนื่องจากเมล็ดของถั่วเขียวนั้นมีใยอาหารสูง อีกทั้งยังทำให้เจริญอาหารอีกด้วย

4. ถั่วเขียวช่วยป้องกันภาวะเด็กทารกพิการแต่กำเนิดสำหรับผู้หญิงมีครรภ์ เนื่องจากมีโฟเลทสูง นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสอีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับหญิงมีครรภ์อย่างมาก ได้ประโยชน์ทั้งแม่และลูกด้วย

5.อุดมด้วยวิตามินบี ทั้งวิตามินบี1 และ บี2 ซึ่งจะช่วยรักษาอาการเหน็บชาและโรคปากนกกระจอกด้วย

6. ถั่วเขียวมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้

7. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก จึงช่วยในเรื่องของการไหลเวียนของเลือด รวมถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกายได้

จะเห็นได้ว่า เมล็ดถั่วเขียวมีสรรพคุณมากมายกว่าที่เราคิดไว้ ใครที่มีอาการดังนี้แล้วรักษายังไม่หาย สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานถั่วเขียวต้ม ราคาถูกกว่ายาของหมอมากทีเดียว แถมยังคุ้มค่ากับการดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

จำนวนพลังงานจากถั่วเขียว

"ถั่วเขียว" มีปริมาณแคลอรี่ที่น้อยมาก โดยมีเพียง 347 กิโลแคลอรี่ต่อปริมาณ 100 กรัมเท่านั้น ส่วนถั่วเขียวต้มน้ำตาล 1 ถ้วยมีปริมาณ 160 แคลอรี่เท่านั้นเองค่ะ หากถามว่า ถั่วเขียวจะทำให้อ้วนได้หรือไม่นั้น คงต้องตอบว่า ไม่ทำให้อ้วน เพราะถั่วเขียวสามารถลดน้ำตาลในร่างกายได้ ประกอบกับจำนวนแคลอรี่น้อย จึงไม่ต้องกังวลว่าหากทานแล้วน้ำหนักจะขึ้นแต่อย่างใด

การปลูกถั่วเขียว

การปลูกถั่วเขียวแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ปลูกแบบหว่านและปลูกแบบเป็นแถว

  • การปลูกแบบหว่าน คือ ต้องใช้การหว่านอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเนื้อที่ 1 ไร่ ต้องใช้เมล็ดพันธ์ 4-5 กิโลกรัมในการหว่าน
  • การปลูกแบบเป็นแถว คือ ต้องขุดหลุมแล้วหยอดเมล็ดลงไป โดยมีระยะหลุม 20 เซนติเมตร หยอดหลุมละ 3-4 เมล็ด

ลักษณะของดินที่จะใช้ปลูกถั่วเขียวได้ดี ควรเป็นดินร่วนปนทราย และมีหน้าดินลึกและควรเป็นดินที่มีคุณภาพมีอินทรีย์ธาตุและจุลินทรีย์ในดินเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต อีกทั้งควรทำทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังด้วย แต่เนื่องจากเรามักปลูกถั่วเขียวเพื่อเป็นพืชหมุนเวียนในการปรับดินให้มีคุณภาพ เช่นปลูกในนาดอนหลังเก็บเกี่ยวหรือปลูกสลับกับมันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชที่ทำลายสารอาหารในดิน ซึ่งดินที่ไม่เหมาะสมเหล่านั้นเมื่อปลูกถั่วเขียวลงไป ต้องมีการใช้ปุ๋ยหมักเพื่อช่วยด้วย ส่วนปุ๋ยเคมีควรใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ความที่ถั่วเขียวเป็นพืชล้มลุก โตเร็ว อายุสั้น ดังนั้นกรณีที่ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ไม่ได้เพื่อเป็นพืชหมุนเวียนกับพืชอื่นๆ ในปีหนึ่งๆ จะสามารถปลูกได้หลายครั้ง ส่วนการปลูกสลับในที่นา อาจปลูกได้เพียง 2 ครั้งคือ ก่อนทำนาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน เมื่อฝนเริ่มตกแล้ว กับหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว ในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน นับเป็นการสร้างรายได้และได้ปรับดินไปในตัว

จะเห็นได้ว่าพืชล้มลุกอย่าง "ถั่วเขียว"มีสรรพคุณที่ดีและสามารถเพาะปลูกได้ง่าย ดังนั้น ชาวไร่ชาวนาจึงควรศึกษาเพื่อเพาะปลูกสร้างรายได้ แต่สำหรับบุคคลทั่วไป เมื่อรู้ถึงสรรพคุณและประโยชน์ของถั่วเขียวแล้วควรทานถั่วเขียวเป็นประจำ เพื่อเสิรมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัย และที่สำคัญคือราคาของถั่วเขียวไม่แพง แม้แต่คนที่ตั้งใจลดน้ำหนักก็สามารถรับประทานถั่วเขียวได้ ให้ประโยชน์มาก แต่มีไขมันต่ำ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสรรพคุณ...ประโยชน์ของถั่ว