สมุนไพรน่ารู้ อายุรวัฒน์เวชศาสตร์ February 4, 2018 Share 0 Tweet Pin 0 "พริกหม่าล่า" พริกสำหรับเมนูปิ้งย่างรสเผ็ด อร่อยเด็ดจนหยุดไม่อยู่“หม่าล่า” เมนูปิ้งย่างที่ดูเผินๆ ก็เหมือนอาหารปิ้งย่างๆ ทั่วไปแต่ทำไมถึงมีชื่อเสียงและฮอตฮิตเป็นอย่างมาก สำหรับคนเชียงใหม่และเชียงรายคงคุ้นเคยกับเมนูที่ว่าเป็นอย่างดี แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยรับประทาน อยากรู้ว่า หม่าล่าเป็นอย่างไร? พริกหม่าล่าจี๊ดจ๊าดแค่ไหน? สามารถหาคำตอบได้ที่นี่ค่ะ ความนิยม ฮอตฮิตของพริกหม่าล่าหากจะพูดถึงเมนูปิ้งย่างอร่อยๆ ตอนนี้ เมนูแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น "หม่าล่า" โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เดินไปทางไหนก็จะเห็นร้านปิ้งย่างหม่าล่าอยู่แทบทุกหัวมุมถนน แต่เดิมหม่าล่าเป็นเครื่องเทศของชาวจีน ด้วยรสชาติอันมีเอกลักษณ์จึงเริ่มมีคนนำมาเข้าในประเทศไทยและเริ่มฮอตฮิตขึ้นมาเรื่อยๆ และเนื่องจากรสชาติที่แปลกใหม่ของหม่าล่า ปัจจุบันนี้จึงเริ่มเห็นจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในโซนภาคเหนือเปิดร้านขายปิ้งย่างหม่าล่าแล้วเช่นกัน เพราะรสชาติอร่อยๆ ของหม่าล่านั้นเข้ากันเป็นอย่างดีสำหรับคอแอลกอฮอล์และถึงไม่ใช่ทานเป็นกับแกล้ม ก็สามารถทานเล่นอร่อยๆ ได้เช่นกันโดยปกติแล้วพริกหม่าล่าสามารถนำมาปรุงอาหารได้เกือบทุกชนิด แต่สำหรับประเทศไทยนั้นนิยมนำมาใช้กับเมนูปิ้งย่างเป็นหลัก ซึ่งอาจจะใช้ เนื้อสัตว์ ลูกชิ้น หรือผักต่างๆ ตามชอบใจ ส่วนใหญ่จะเข้ากันกับรสชาติหม่าเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ผู้ผลิตเครื่องเทศหม่าล่าบางรายเริ่มปรับสูตรเครื่องเทศหม่าล่าให้หลากหลายมากขึ้น ในอนาคตคงจะได้เห็นชาบูหม่าล่า จิ้มจุ่มหม่าล่าหรือน้ำพริกหม่าก็เป็นได้ต้นกำเนิดของพริกหม่าล่าหม่าล่าเป็นสูตรเครื่องเทศชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายพริกป่น ส่วนประกอบหลักได้มาจากเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า "ฮวาเจียว" มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพริกไทยดำของไทย มีต้นกำเนิดอยู่ที่มลฑลเสฉวน ประเทศจีน ในประเทศไทยก็มีสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ลักษณะและรสชาติคล้ายๆ กับฮวาเจียวซึ่งก็คือ มะแขว่น เป็นสมุนไพรที่มักพบในภาคเหนือ เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับฮวาเจียวนั่นเองสำหรับเมนูอาหารหม่าล่าในไทยอดนิยมคือ ปิ้งย่างหม่าล่า น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากชาวจีนยูนนานในพื้นที่ภาคเหนือเพราะคนจีนชอบนำเครื่องเทศชนิดนี้ไปปรุงอาหาร พอปรุงแล้วรสชาติถูกใจคนรับประทานความนิยมก็เริ่มขึ้นและแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆในเวลาต่อมารสชาติเป็นอย่างไร?รสของฮวาเจียวหรือรสหม่านั้นมีรสเผ็ดและชาที่ลิ้น ที่ประเทศจีนนิยมประกอบอาหารเกือบทุกประเภทให้มีรสหม่าล่า ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอดหรือปิ้งย่างต่างๆ สำหรับบางคนที่รับประทานช่วงแรกๆ อาจจะไม่ชอบเนื่องจากอาจจะทำให้ลิ้นชาจนไม่รู้รสชาติอื่นๆ แต่สำหรับคนชอบอาหารเผ็ดๆรสหม่าล่าน่าจะเป็นที่ถูกใจไม่น้อยความแตกต่างจากพริกชนิดอื่นๆพริกหม่าล่า (Sichuan pepper) ไม่เหมือนพริกชนิดอื่นๆ ตรงที่ พริกหม่าล่าเกิดขึ้นจากเครื่องเทศหลายๆ ชนิดมาผสมกัน รสชาติเผ็ดก็ไม่ใช่เผ็ดอย่างเดียวเหมือนพริกทั่วไปแต่จะชาๆ ที่ลิ้นด้วย หม่าล่าเวลานำมาปรุงอาหารจะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอม น่ารับประทานมากขึ้น ทั้งยังช่วยดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดีประโยชน์ และสรรพคุณของพริกหม่าล่า1. พริกหม่าล่ามีสรรพคุณช่วยขับลม ทั้งในกระเพราะอาหารและลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร ทำให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น แก้ปวดท้อง ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น2. สรรพคุณของพริกหม่าล่าใช้สูดดม แก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้หวัด คัดจมูก ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการอักเสบในลำคอ แก้ไข้และช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย3. ประโยชน์ของพริกหม่าล่าช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงเลือด ลดความดันโลหิต4. พริกหม่าล่ามีฤทธิ์ช่วยขับระดูในสตรี ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติเมนูปิ้งย่างรสเด็ดจากพริกหม่าล่าสำหรับคนที่ซื้อรับประทานแล้วไม่อิ่มหรือรสชาติไม่ถูกใจ เรามีสูตรปิ้งย่างหม่ารสเด็ดมาฝากซึ่งสามารถทำตามได้ยาก ดังนี้ค่ะส่วนผสมฮวาเจียว 1 ช้อน (หากใครหาไม่ได้สามารถใช้มะแขว่นแทนได้)พริกขี้หนูแห้ง 4 เม็ดพริกไทยดำ 1 ช้อนพริกป่น 1 ช้อนกระเทียมยี่หร่าขิงผงพะโล้ซีอิ้วขาวน้ำมันมะกอกฮอยชินซอสน้ำตาลทรายเนื้อสัตว์หรือผักตามต้องการวิธีทำ1. ล้างเนื้อสัตว์และผักให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ รอเสียบไม้2. ทำหม่าล่าโดยนำฮวาเจียวหรือมะแขว่น พริกป่น พริกขีหนู กระเทียม ขิง พริกไทยดำและผงพะโล้มาตำผสมกันให้ละเอียด3. หลังจากตำจนละเอียดแล้วใส่ซีอิ้วขาว น้ำมันมะกอก น้ำตาลทรายแดง และฮอยซินซอสลงไป คนให้เข้ากัน4. นำเนื้อสัตว์มาหมักกับหม่าจนเข้ากันดี ทิ้งไว้สักพักให้หม่าเข้าเนื้อแล้วนำไปเสียบไม้ ส่วนผักไม่ต้องหมัก สามารถเสียบไม้รอได้เลย5. นำเนื้อเนื้อสัตว์และผักที่เสียบไม้แล้วมาปิ้งให้สุก เนื้อสัตว์เมื่อสุกสามารถทานได้เลย ส่วนผักเมื่อสุกแล้วทาด้วยหม่าล่าก่อน ค่อยนำไปรับประทานข้อควรระวังในการทานพริกหม่าล่าถึงแม้ว่าเมนูที่มีส่วนผสมของพริกหม่าล่าจะอร่อยถูกใจและมีคุณค่าทางสมุนไพรมากมาย แต่ว่าอะไรที่มากไปมักจะไม่ดี หม่าล่าก็เช่นกัน หากรับประทานมากอาจจะทำให้เกิดอาการร้อนใน ท้องเสียหรือท้องผูกได้ ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจากสรรพคุณและประโยชน์ของพริกหม่าล่า ถือเป็นเมนูใหม่ๆ ที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว เมนูที่ดูเหมือนอาหารปิ้งย่างธรรมดาๆ กลับมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และอร่อยถูกปากใครหลายๆ คน โดยเฉพาะใครที่ชอบอาหารเผ็ดๆ คงถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่ยังไม่เคยทานหม่าล่า แนะนำให้ลองทานสักครั้ง รับรองติดใจจนไม่อยากหยุดทานแน่ๆ ค่ะ