วิตามินบี 5 กับการรักษาสิว

ใครที่กำลังแสวงหาหนทางรักษาสิวมานาน ทั้งใช้ยาก็แล้ว ธรรมชาติบำบัดก็แล้ว เคมีก็แล้ว แต่สิวก็ยังไม่หายสักที ลองหันมาพึ่งวิตามินดูกันสักตั้งดีไหมคะ? เพราะมีงานวิจัยของต่างประเทศได้ทำการทดลองเกี่ยวกับการใช้ วิตามินบี 5รักษาสิว และผลที่ออกมาสามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าสามารถรักษาสิวได้จริง เป็นไงล่ะ น่าสนใจใช่ไหม มาดูกันค่ะว่า วิตามินบี 5รักษาสิวได้กับทุกคนหรือไม่ และมีกลไกในการทำงานอย่างไร วันนี้ สุขภาพดี...มีคำตอบและข้อมูลดีๆ มาให้ค่ะ

วิตามินบี 5 คืออะไร?

Vitamin B5 หรือ Pantothenic Acid มาจากภาษากรีกที่ว่า “ Pantos” ซึ่งหมายถึง "ทุก ๆ ที่" ก็คือเราจะสามารถพบวิตามินบี 5 ได้ในอาหารแทบทุกชนิดที่เรารับประทานเข้าไปนั่นเอง โดยวิตามิน B5 นี้เป็นสารจำเป็นในการสร้าง โคเอนโซม์ เอ (Coenzyme-A,CoA) ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างโปรตีน ไขมัน และเป็นสารที่พบอยู่ในเซลล์ ซึ่งมีความจำเป็นต่อปฏิกริยาชีวเคมี ช่วยในการสร้างฮอร์โมนของต่อมหมวกไตในการบรรเทาอาการเครียด เป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำ และด้วยคุณสมบัติละลายในน้ำของมันนี่เอง เป็นเหตุให้วิตามินบี 5 ถูกทำลายลงได้ง่ายจากความร้อน กรด และด่าง ดังนั้นในอาหารที่เรารับประทานเข้าไป จะหลงเหลือวิตามินบี 5 อยู่น้อยมาก เพราะต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆมากมาย หรือเพียงแค่ล้างน้ำก็ทำให้อาหารสูญเสียวิตามินบี 5 ไปแล้วเกือบหมด

วิตามินบี 5 รักษาสิวอย่างไร ?

โดยปกติแล้วคนเราต้องการวิตามินบี 5 ประมาณ 10 กรัมต่อวัน แต่หากร่างกายได้รับน้อยกว่านี้เป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดภาวะขาดวิตามินบี 5 ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างเอนไซม์มาทดแทนในส่วนที่ร่างกายสูญเสียไปได้ คนที่เป็นสิวมากๆ บางรายเกิดจากการขาด Coenzyme-A ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้วิตามินบี 5 ในการสร้าง หากขาดเอนไซม์ชนิดนี้จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดี ไขมันจึงออกมาทางส่วนต่างๆของผิวหนังแทน จนทำให้ต่อมไขมันเกิดการอุดตันได้ และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ในที่สุด

ดังนั้นการรับประทานวิตามินบี 5 อย่างเพียงพอ เป็นการช่วยให้ระบบการเผาผลาญไขมันทำงานเป็นปกติ ไม่เกิดไขมันส่วนเกินที่จำเป็นต้องขับออกทางผิวหนัง จนทำให้เกิดสิวนั่นเอง

หลักการทานวิตามินบี 5รักษาสิว

โดยทั่วไป วิตามินบี 5 ที่มีจำหน่ายในรูปแบบอาหารเสริมทั่วไปจะบรรจุวิตามินบี 5 100 mg./ เม็ด ซึ่งเพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน สำหรับการทานวิตามินบี5 เพื่อช่วยในเรื่องสิวไม่จำเป็นต้องทานเยอะ ให้ทานวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น ครั้งละ 1 เม็ดก็เพียงพอแล้ว แต่หากใครเป็นสิวน้อยๆ รับประทานเพียงวันละ 1 เม็ดก็พอค่ะ เพราะอย่าลืมว่าเราได้รับวิตามินบี 5 จากอาหารประเภทอื่นๆ ที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวันอยู่แล้ว ดังนั้นแนะนำให้ลองทานวิตามินบี 5 รักษาสิวติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน แล้วลองสังเกตสิวบนใบหน้าของตัวเองดูค่ะ ว่าดีขึ้นหรือไม่ หรือว่าหน้าของเรามันน้อยลงหรือเปล่า ซึ่งบางคนใช้แล้วจะรู้สึกว่าช่วยให้หน้ามันน้อยลง ใบหน้าจึงเรียบเนียน ไม่มีสิว และรูขุมขนเล็กลง แต่กับบางคนใช้แล้วก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ นั่นอาจเป็นเพราะสิวที่คุณกำลังเป็นอยู่ ไม่ได้เกิดจากอาการขาดวิตามินบี 5 ก็เป็นได้ค่ะ ดังนั้นจึงควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ผลข้างเคียงจากการทานวิตามินบี5รักษาสิว

จริงๆแล้ว วิตามินบี 5 ถือว่ามีผลข้างเคียงน้อยมาก เมื่อเทียบกับ โรแอคคิวเทน roaccutane ซึ่งเป็นยารักษาสิวชนิดรับประทาน มีน้อยรายมากที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการกินอาหารเสริมวิตามินบี5รักษาสิว ซึ่งอาการที่อาจพบคือ ท้องเสีย หิวน้ำบ่อย ปากแห้ง หน้าลอก ซึ่งหากใครทานวิตามินบี 5 แล้วเกิดอาการแบบนี้ควรหยุดทานทันที เพราะเป็นไปได้ว่าคุณอาจกำลังแพ้วิตามินบี 5 อยู่ แต่สำหรับคนที่ไม่แพ้วิตามินบี5 รักษาสิว ก็สามารถทานในปริมาณมากไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะอย่างที่กล่าวมาแล้วว่า วิตามินบี 5 เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ ร่างกายจะดูดซึมเท่าทีรับได้ ส่วนเกินที่เหลือก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะค่ะ

สรุปแล้วการกินวิตามินบี 5 เป็นอาหารเสริมเพื่อช่วยในการรักษาสิว ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แถมการกินวิตามินบี5 ก็ไม่ได้มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง หรืออันตรายมาก ดังนั้น ใครที่รักษาสิวมาสารพัดวิธี ก็ไม่หายเสียที ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...ลองกินวิตามินบี5 รักษาสิวกันดูเผื่อจะช่วยให้หน้าใสไร้สิวกันสักทีนะคะ สำหรับวิตามินบี 5 แบบแคปซูลที่แนะนำคือยี่ห้อนี่เลย  ผลิตภัณฑ์ดี มีคุณภาพ สั่งซื้อง่าย จัดส่งถึงบ้าน แถมมีเก็บเงินปลาย ที่สำคัญคือราคาถูกกว่าตามท้องตลาด สนใจ คลิกที่นี่ เลยค่ะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ "รักษาสิว"