สมุนไพรน่ารู้ อายุรวัฒน์เวชศาสตร์ August 31, 2018 Share 0 Tweet Pin 0 4 สมุนไพรรักษาเริม...รักษาหาย ได้ผลจริง"เริม" เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากๆ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เป็นกันได้ ในช่วงที่ตุ่มใสกำลังพุพองก็สร้างความเจ็บปวดให้มากพอดู แน่นอนว่าคงไม่อยากเจ็บแผลกันนานๆ แน่นอน ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเหล่ายอดสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคเริมได้มาฝากกันค่ะ ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็คงจะเริ่มสงสัยกันแล้วว่า สมุนไพรตัวไหนกันหนอ ที่จะช่วยจัดการกับโรคเริมได้อย่างอยู่หมัด แต่อย่าเพิ่งใจร้อนค่ะ ก่อนจะไปรู้จักกับสมุนไพรรักษาเริม เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าโรคเริมนั้นเป็นอย่างไร... โรคเริม คือ?โรคเริม (Herpes) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง จะทำให้มีตุ่มใสๆ พุพองขึ้นบนผิวหนังและเนื้อเยื่อเมือก เช่น ผิวหนังทั่วไปบนร่างกาย ริมฝีปาก ลิ้น เหงือก เพดานปาก อวัยวะเพศ เป็นต้น สามารถหายได้เองในเวลาไม่นาน แต่ถ้าผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ อาการของโรคอาจจะรุนแรงได้โรคนี้พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย แต่มักพบบ่อยในคนวัยหนุ่มสาวมากกว่า การติดเชื้อครั้งแรกอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเป็นแล้วครั้งหนึ่ง เชื้อโรคจะหลบซ่อนตัวอยู่ตามเส้นประสาทและอยู่ในร่างกายไปตลอดชีวิต รอเวลาที่จะกำเริบขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างกายอ่อนแอลง โรคเริมเป็นซ้ำได้ โดยมีอัตราการเป็นซ้ำ มากถึง 3 ครั้งต่อปี แต่ลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้นสาเหตุของโรคเริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม ( Herpes simplex virus : HSV ) ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ดังนี้HSV-1 เริมประเภทนี้มักปรากฏอาการอยู่ที่ผิวหนังส่วนบน เช่น ริมฝีปาก ดวงตา ลำตัวช่วงบน สาเหตุหลักเกิดมาจากการสัมผัสโดยตรง เช่น การจูบ การที่มือสัมผัสสารคัดหลั่งแล้วหยิบอาหารใส่ปากหรือป้ายตา รวมไปถึงการใช้สิ่งของร่วมกัน เป็นต้นHSV-2 เริมประเภทนี้มักปรากฏอาการที่ลำตัวช่วงล่างมากกว่า เช่น อวัยวะเพศ รอบทวารหนัก เป็นต้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์อาการของโรคเริมหลังรับเชื้อ จะใช้เวลาฟักตัว 2-20 วันก่อนจะเริ่มมีอาการ หากได้รับเชื้อครั้งแรกอาจจะมีอาการป่วยทั่วๆไปร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย เบื่ออาหาร เป็นต้น จากนั้นจะมีการอักเสบของผิวหนัง ปวดแสบปวดร้อน แล้วปรากฏตุ่มน้ำใสๆขึ้น โดยจะอยู่ติดๆกันเป็นกลุ่ม ผ่านไป 2-3 วันตุ่มน้ำจะเริ่มกลายเป็นสีเหลืองขุ่นแล้วแตกออกจนตกสะเก็ด โดยรวมๆตั้งแต่เริ่มมีตุ่มใส อาการจะดีขึ้นและหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์อาการของโรคจะรุนแรงหากเป็นการติดเชื้อครั้งแรก ติดเชื้อในเด็ก คนแก่และผู้ที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่ทานยากดภูมิ ส่วนการเป็นซ้ำ อาการจะไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรก หากผู้ป่วยเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายปกติ4 สมุนไพรรักษาโรคเริม1. เสลดพังพอนตัวเมีย (ชื่ออื่นๆ : พญายอ) เสลดพังพอนเป็นสมุนไพรที่บางคนน่าจะรู้จักเนื่องจากมีสรรพคุณช่วยแก้พิษจากสัตว์มีพิษกัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แต่จริงๆ แล้วเสลดพังพอนสามารถนำมารักษาโรคเริมได้ มีงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลรักษาโรคเริมด้วยสมุนไพรชนิดนี้ พบว่ามีประสิทธิภาพการรักษาดีเทียบเท่ากับยาแผนปัจจุบันหรือยาอะไซโคเวียร์ (Acyclovir) ชนิดทา การรักษาทำได้โดยนำใบเสลดพังพอนสด 5-10 ใบบดให้ละเอียดผสมกับเหล้าขาว จากนั้นคั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณที่เป็น ทำซ้ำ 2-3 วัน แผลจะเริ่มแห้งและหายเป็นปกติ หรือถ้าใครหาใบเสลดพังพอนไม่ได้ ก็สามารถซื้อครีมพญายอ (เป็นสารสกัดจากใบเสลดพังพอน) มาใช้แทนได้ ทั้งยังไม่ทำให้รู้สึกแสบร้อนในขณะทาเหมือนยาอะไซโคเวียร์อีกด้วย ทั้งนี้ประสิทธิภาพการรักษาจะไม่ดีเทียบเท่ายาอะไซโคเวียร์ชนิดรับประทานและได้ผลดีเฉพาะการติดเชื้อในครั้งแรก หากเป็นการติดเชื้อซ้ำ ต้องรักษาด้วยยาแบบรับประทานเท่านั้น2. เสลดพังพอนตัวผู้ นำมาใช้รักษาโรคเริมได้เช่นเดียวกัน เพราะว่ามีสรรพคุณที่คล้ายกัน แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่าเล็กน้อย วิธีการรักษาทำเหมือนกันการใช้เสลดพังพอนตัวเมีย เพียงแต่ว่าอาจจะต้องทำให้เข้มข้นมากขึ้นหรือทาบ่อยครั้งกว่า สำหรับเสลดพังพอนตัวผู้จะแตกต่างกับตัวเมียตรงที่มีหนามขึ้นกระจายทั่วลำต้น แต่ตัวเมียไม่มี3. ตำลึง ตำลึงไม่ได้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง แต่ว่าเป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น นำมาปั่นให้แหลกแล้วพอกแผลเริม จะช่วยให้แผลเย็นลง บรรเทาอาการคันและแสบร้อน ช่วยจำกัดพื้นที่การขยายตัวของแผลพุพอง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือทุกขั้นตอนการทำต้องสะอาด4. ใบย่านาง สำหรับข้อนี้ จริงๆ แล้วมีมากกว่าใบย่านาง เพียงแต่ย่านางเป็นส่วนผสมหลัก สำหรับสูตรรักษาเริมด้วยใบย่านาง ให้เตรียมย่านาง 10 ใบ พลู 5 ใบ วุ้นว่านหางจระเข้ 2 ใบ ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด 2 กำมือ เหงือกปลาหมอ 3 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด นำมาปั่นรวมกันละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ แล้วเอามาทาที่ผื่น ช่วยทำให้ตุ่มใสยุบแห้งไว ลดอาการบวมอักเสบ หากทาแล้วยังเหลือให้แช่ตู้เย็นเก็บไว้แล้วนำมาทาในวันต่อๆ ไป6 วิธีป้องกันให้ห่างไกลโรคเริมการป้องกันโรคเริมนี้ค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากบางคนอาจมีเชื้อ HSV แฝงตัวอยู่แต่ว่าไม่แสดงอาการ แต่ว่าสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ ดังนี้1. ไม่เปลี่ยนคู่นอนหลายคู่ หลีกเลี่ยงการซื้อบริการทางเพศ หากต้องมี ต้องป้องกันตัวเองโดยสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง2. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กันโดยใช้ปาก (Oral genital contact)3. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่เครียด4. หลีกเลี่ยงการใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้ว ชาม ช้อน หลอดดูด ขวดน้ำ ผ้าเช็ดหน้า/ตัว เสื้อผ้า ใบมีดโกน เป็นต้น5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่ยังอยู่ในระยะแพร่เชื้อ (ตั้งแต่ปรากฏอาการจนแผลหายดี ไม่มีสะเก็ด)6. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร ระหว่างวันหลีกเลี่ยงการขยี้ตาและการแคะจมูกไม่น่าเชื่อเลยว่าโรคนี้จะสามารถรักษาได้ง่ายๆ ด้วยสมุนไพรรักษาเริมเหล่านี้ โดยเฉพาะเสลดพังพอนตัวเมียนี่แหละรักษาได้อย่างเด็ดขาด ถึงแม้สมุนไพรบางชนิดจะหายากไปนิดหนึ่งก็ตาม ดังนั้นหากใครกำลังเดือดร้อนกับเริมเจ้าปัญหาอยู่ แล้วไม่สามารถหาสมุนไพรมารักษาได้ แนะนำให้หาซื้อครีมพญายอมาลองใช้ดูได้ ประสิทธิภาพการรักษาดีเยี่ยมไม่ต่างจากยาแผนปัจจุบันเลยค่ะ