โธ่! กินผิดมาตั้งนาน "น้ำมันถั่วเหลือง" มีโทษหรือประโยชน์กันแน่!

เรามักจะคุ้นหูกันมาตลอดว่า ถั่วเหลือง ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หันมาดื่มน้ำเต้าหู้เพื่อสุขภาพกันเถอะ แต่เดี๋ยวก่อน วางลงก่อนแล้วหันมาฟังทางนี้ เมื่อโลกเปลี่ยนไปความรู้ใหม่ๆ ก็เริ่มเข้ามา เราควรอัพเดทความรู้ที่เปลี่ยนไปให้ทันโลก มีงานวิจัยออกมาเปิดเผยว่าถั่วเหลืองเป็นภัยต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ"น้ำมันถั่วเหลือง" ที่เรามองข้ามทุกวัน ได้ยินแบบนี้แล้วอึ้งไปเลย ถ้าอยากรู้ว่าข้อเท็จจริง น้ำมันถั่วเหลือง ดี หรือไม่อย่างไร ตามมาค่ะ!

"น้ำมันถั่วเหลือง" ส่วนผสมหลักของอาหารแปรรูป

สิ่งที่คุณต้องรู้คือ "น้ำมันถั่วเหลือง" เป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักของอาหารแปรรูป และยังเป็นส่วนผสมที่อันตรายมากที่สุด เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าอาหารแปรรูปเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายต่อสุขภาพของคนส่วนใหญ่ ที่อาจนำมาซึ่งโรคเรื้อรังน่ะสิ และนอกจากน้ำมันแล้วยังมีฟรุกโทสจากน้ำเชื่อมข้าวโพด (HFCS) ที่อันตรายอีกด้วย

เติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันยิ่งก่ออันตรายทั้งสองอย่างนี้ ทั้งน้ำมันถั่วเหลืองและไฮโดรเจน สามารถพบได้ในอาหารแปรรูปทุกชนิด และอาหารเหล่านี้น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สุขภาพของเราค่อยๆ เสื่อมโทรมจนเกิดโรคภัยแบบไม่รู้ตัว

น้ำมันถั่วเหลืองเติมไฮโดรเจนแล้วจะเป็นยังไงน่ะเหรอ ก็เกิดไขมันทรานส์ยังไงล่ะ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับอันตรายต่อสุขภาพ เราน่าจะได้ยินคำนี้บ่อยๆ ว่าไขมันทรานส์คือไขมันเลว อีกส่วนก็คือตัวถั่วเหลืองเองนั่นแหละที่มีอันตรายเพราะมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น หลายๆ คนอาจจะสับสนว่า...สรุปถั่วเหลืองดีหรือไม่ดีกันแน่? แต่จะเฉลยให้ฟังว่าไม่ควรกิน เพราะปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่แล้วข้าวโพดกับถั่วเหลืองมีการดัดแปลงพันธุกรรมยังไงล่ะ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ก็ตามมาด้วย

ทำไมต้องเติมไฮโดรเจน?

นั่นก็เพราะว่าน้ำมันถั่วเหลืองไม่เสถียรพอที่จะถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร จึงเติมไฮโดรเจนเข้าไปในปริมาณครึ่งหนึ่ง เหตุผลหลักก็เพื่อยืดอายุในการเก็บรักษา เช่น เนยดิบมีแนวโน้มที่จะหืนเร็วกว่าเนยเทียมหรือมาการีนนั่นเอง (จริงๆ คือ น้ำมันชนิดใดก็เติมไฮโดรเจนได้)

เนยเทียมเป็นตัวอย่างที่ดีที่เราควรรู้ว่า เกือบครึ่งหนึ่งของไขมันเป็นน้ำมันทรานส์ กระบวนการเติมไฮโรเจนบางส่วนจะเปลี่ยนแปลงทางเคมีของกรดไขมันที่จำเป็น จึงช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นหืนจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นเมื่อนำมาปรุงอาหาร ในปี 1990 นักวิจัยจึงตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงเคมีข้อนี้ว่าอาจกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง จึงเริ่มมีการค้นคว้าอย่างจริงจังเพื่อนำความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค

ข้อควรระวัง

ระหว่างเติมไฮโดรเจนเต็มที่ กับเติมไฮโดรเจนบางส่วน มีข้อแตกต่างกัน คือ การเติมบางส่วนมีไขมันทรานส์ แต่เติมเต็มที่ไม่มี เนื่องจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมี แต่ถึงอย่างไรน้ำมันถั่วเหลืองก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีต่อสุขภาพ

อันตรายจากไขมันทรานส์ที่มีต่อสุขภาพ

สิ่งนี้จะทำให้ร่างกายของคุณเกิดความวุ่นวายในระดับเซลล์ จนถึงขั้นเกิดความผิดปกติ จึงมีการวิจัยเพิ่มเติมและพบว่าก่อให้เกิดโรคต่อไปนี้

• โรคมะเร็ง โดยจะทำการรับกวนเอนไซม์ที่ร่างกายของคุณใช้ต่อสู้กับโรคมะเร็ง

• ปัญหาเจ็บป่วยเรื้องรัง เช่น โรคอ้วน หอบหืด โรคภูมิคุ้มกันและการเสื่อมสภาพของกระดูก

• โรคเบาหวาน มันจะเข้าไปรบกวนการทำงานของตัวรับอินซูลินในเซลล์

• โรคหัวใจ เกิดไขมันอุดตันหลอดเลือดแดง แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ การเพิ่มไขมันทรานส์ในร่างกายยิ่งเสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน มากขึ้นถึง 3 เท่า ขีดเส้นใต้ย้ำแรงๆ

• เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือด แต่ระดับไขมันดีลดลง

• มีปัญหาเรื่องระบบสืบพันธุ์ เพราะมันจะไปรบกวนเอนไซม์ที่จำเป็นในการผลิตฮอโมนเพศ

ข้อควรระวัง

ผู้ผลิตบางรายอาจใช้การชวนเชื่อ เชิงว่าได้รับการอนุญาตจากองค์การอาหารและยา แต่ทางที่ดีที่สุดคือ หยุดเสี่ยงกับอาหารสำเร็จรูปได้แล้ว และศึกษาความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

ถั่วเหลืองมีโทษหรือประโยชน์กันแน่

ไขมันในน้ำมันถั่วเหลืองส่วนใหญ่เป็นโอเมก้า 6 ในขณะที่ร่างกายเราต้องการมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง และร่างกายก็ไม่ได้ขาดมันด้วยเพราะในอาหารของเราทั่วๆ ไป ก็อุดมด้วยโอไมก้า 6 อย่างเพียงพอ ที่จะส่งผลดีต่อการทำงานของโอไมก้า 3 และสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ก็คือ เราสามารถพบโอไมก้า 6 ได้ใน อาหารแปรรูป อาหารสัตว์เกือบทุกชนิด และพืชอีกหลายชนิด ซึ่งมีปริมาณมากเกินไปด้วยซ้ำ ดังนั้นจะบอกว่าขาดโอไมก้า 6 เป็นไปไม่ได้ ยิ่งรับเข้าไปในปริมาณมาก ยิ่งก่อความเสียหายและทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกายของคุณ และการอักเสบนี่แหละที่จะเป็นพื้นฐานสำหรับโรคเรื้อรังแทบทุกชนิด

จะเห็นได้ว่า บทความเกี่ยวกับน้ำมันถั่วเหลืองนี้สั่นสะเทือนความเชื่อเก่าๆ ที่ว่าถั่วเหลืองดีมีประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง เมื่อโลกเปลี่ยน วิวัฒนาการก้าวไกล เราก็ควรหาความรู้เพิ่มให้ทันโลกนะคะ ก่อนจ่ายเงินซื้ออาหารสำเร็จรูปในครั้งต่อๆ ไป อย่าลืมนึกถึงบทความนี้ให้ดี เพราะสุขภาพเป็นของคุณ หมอที่ดีที่สุดคือตัวคนป่วยเอง ถ้าคุณไม่นำตัวต้นเหตุเข้าปากโรคภัยต่างๆ ก็ไม่เกิด

ที่มา: รายการหมอนอกกะลา, Havard, Trans fats

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี