ผัก ผลไม้ วิตามิน อายุรวัฒน์เวชศาสตร์ June 19, 2016 Share 58 Tweet Pin 0 18 สรรพคุณ...ประโยชน์ของสับปะรด ชิ้นเดียว ก็ต้านโรคได้ เวลาไปเดินตลาด เดินห้าง หรือเดินผ่านรถเข็นขายผลไม้ตามข้างทาง แล้วสังเกตดีๆ จะพบว่า "สับปะรด" มักเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวางขายอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะสับปะรดออกผลให้เราได้กินตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องรอตามฤดูกาล และยังจัดเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลย ซึ่งนอกจากจะกินได้แบบสดๆ แล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง สับปะรดกวน แยมสับปะรด หรือปรุงเป็นอาหารก็ได้รสชาติที่อร่อยถูกปากหลายคนทีเดียว แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบผลไม้ชนิดนี้เท่าไร แม้ว่าสับปะรดมีรสหวานฉ่ำแต่ก็มีรสฝาดอยู่เล็กน้อย เมื่อกินเยอะๆ จะรู้สึกได้ แต่ทราบหรือไม่ว่า สรรพคุณ และประโยชน์ของสับปะรดนั้น เรียกว่าเป็นยารักษาโรคได้เป็นอย่างดี แม้เราจะทานเพียงแค่วันละชิ้นเดียว น่าทึ่งใช่ไหมค่ะ งั้นเราไปดูกันว่า สรรพคุณ ประโยชน์ของสับปะรดมีอะไรบ้าง สับปะรด...มากประโยชน์ สรรพคุณครบครัน สับปะรด ชื่อสามัญ Pineappleสับปะรด ชื่อวิทยาศาสตร์ Ananas comosus (L.) Merr. แค่เรากินสับปะรดเพียงวันละ 1 ชิ้นก็ช่วยดูแลสุขภาพในช่องปากได้แล้ว อาทิ อาการเสียวฟัน หรือเลือดออกตามไรฟัน เพราะวิตามินซีที่มีอยู่มากนั่นเอง แถมอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งขาดไม่ได้ เช่น กรดโฟลิก แคลเซียม โพแทสเซียม แมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ฯลฯ ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาโรคได้หลายชนิด โดยความสามารถพิเศษที่ต้องยกนิ้วให้สับปะรดคือ การช่วยย่อยอาหารประเภทเนื้อและเสริมการดูดซึมอาหารได้ดี เพราะเอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) ที่มีอยู่ในสับปะรดนั้นถือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งการต่อสู้กับโรค มีฤทธิ์ช่วยในระบบย่อยอาหาร ดังนั้นหากกินเนื้อสัตว์มากเกินไป ให้กินหรือดื่มน้ำสับปะรดหลังอาหารจะช่วยลดอาการแน่นท้องได้ชะงัด ที่สำคัญยังช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และสลายไขมันในร่างกายได้ดี เมื่อบวกกับใยอาหารที่มีมากจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยลดความอ้วนได้ดี 18 สรรพคุณของสับปะรด...บำบัดรักษาโรค1 เสริมสร้างภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้แข็งแรง จากวิตามินซีที่มีอยู่สูงในสับปะรดจะทำให้ร่างกายติดเชื้อยากและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี2 สรรพคุณของสับประรด ช่วยดูแลสุขภาพภายในช่องปากให้แข็งแรง ไม่เป็นโรคต่างๆ เกี่ยวกับช่องปากหรือโรคเหงือก3 สับปะรดมีวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะเข้ามาทำลายเซลล์ในร่างกาย4 ประโยชน์ของสับปะรด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส และช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย5 วิตามินซีที่มีสูงในสับปะรดนั้นยังช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัด ขับเสมหะในลำคอได้6 ช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีน เพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ธรรมชาติคือ บรอมีเลน ที่ย่อยอาหารได้ทั้งสภาวะกรดและด่าง จึงลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง7 สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งอัมพฤกษ์ อัมพาต เนื่องจากเอนไซม์บรอมีเลนที่มีอยู่สับปะรดจะไปช่วยลดการเกาะกันเป็นลิ่มเลือดของเกล็ดเลือด8 เอนไซม์บรอมีเลนยังมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ ที่ช่วยทำลายแบคทีเรียไม่มีประโยชน์ และยังช่วยสมานแผล ลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วย9 กินสับปะรดเป็นประจำช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งปอด ฯลฯ โดยบรอมีเลนจะทำให้เม็ดเลือดขาวหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokines) ซึ่งช่วยให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเซลล์มะเร็งได้ อ่านเพิ่มเติม แกนสับปะรดฆ่าเซลล์มะเร็งได้10 หากมีอาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก ให้กินสับปะรดหลังอาหารเป็นประจำจะช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น สับปะรดมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ แต่ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดอาการท้องเสียแทน11 ใยอาหารในสับปะรดมีสรรพคุณไม่เป็นสองรองใครแน่นอน นั่นจึงทำให้เป็นผลไม้ที่ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และยังทำให้รู้สึกอิ่มเร็วด้วย12 บรรเทาอาการจากโรคเกาต์ได้ โดยเอนไซม์บรอมีเลนจะช่วยยับยั้งอาการอักเสบ และยังช่วยลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากการออกกำลังกาย เล่นกีฬาหรือทำงานหนักๆ13 สรรพคุณของสับปะรด มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก แก้ขัดเบา รักษาโรคนิ่ว14 ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย จัดเป็นยาบำรุงกำลังจากธรรมชาติสำหรับผู้ชายที่ดีมาก15 ประโยชน์ของสับปะรดดีต่อผู้หญิง เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ขับประจำเดือนได้ดีขึ้น16 วิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 ในสับปะรดแม้จะมีไม่มากแต่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะจะช่วยป้องกันอาการเหน็บชา เหนื่อยง่าย ทำให้ระบบประสาทและเม็ดเลือดทำงานดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย17 สับปะรดอุดมด้วยแมกนีเซียมและแคลเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อ ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง18 สับปะรดมีสรรพคุณบรรเทาอาการร้อนกระสับกระส่าย กระหายน้ำ ไม่ว่าจะกินแบบสดหรือปั่นเป็นน้ำสับปะรดดื่มก็ได้เช่นกันสายพันธ์ของสับปะรดที่นิยมปลูกในประเทศไทย1. สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย หรือเรียกว่า สับปะรดศรีราชา : ลักษณะของผลสับปะรดจะใหญ่ที่สุด เนื้อมาก รสหวานฉ่ำ มีใบเขียวเข้ม นิยมทำเป็นสับปะรดกระป๋อง สับปะรดพันธ์ปัตตาเวีย2. สับปะรดพันธุ์อินทรชิตแดง : เป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง เป็นพันธ์เก่าแก่ที่สุด ปลูกมานานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีลักษณะโดเด่นคือ มีหนามสีน้ำตาลอิมแดง โค้งงอรอบผล ใบมีสีเขียวอ่อน เนื้อเป็นสีทอง รสไม่หวานมาก ขนาดผลค่อนข้างเล็ก สับปะรดพันธ์อินทรชิตแดง3. สับปะรดพันธุ์อินทรชิตขาว : สันนิษฐานว่ากลายพันธ์มาจากพันธ์อินทรชิตแดง แต่มีทรงพุ่มเตี้ยกว่า มีใบสีเขียวอมเหลือง ใบสั้นและแคบกว่าอินทรชิตแดง ส่วนเนื้อและรสชาติเป็นสีทอง รสไม่หวานจัดเหมือนกัน4. สับปะรดพันธุ์ภูเก็ต หรือ พันธุ์สวี : เป็นพันธ์ที่นิยมปลูกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและชุมพร เนื้อเป็นสีเหลือง รสหวานกรอบ มีกลิ่นหอม สับปะรดพันธ์ภูเก็ต5. สับปะรดพันธุ์นางแล หรือ พันธุ์น้ำผึ้ง :มีความคล้ายกับพันธ์ปัตตาเวีย ผลใหญ่ มีรสหวานฉ่ำ6. สับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง :เป็นพันธ์ที่มีความแตกต่างที่รสชาติหวาน กรอบทั้งผล เนื้อสีเหลืองทอง7. สับปะรดพันธร์ห้วยมุ่น :เป็นสับปะรดขึ้นชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพันธ์ปัตตาเวีย แต่นำมาปลูกในพื้นที่ดอยสูง เนื้อเหลืองอมน้ำผึ้ง รสหวานฉ่ำ ตาไม่ลึก8. สับปะรดพันธุ์ภูแลเชียงราย :เป็นพันธ์ที่นิยมปลูกในจังหวัดเชียงราย เป็นสับปะรดผลเล็ก กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบ รสหวานปานกลาง สับปะรดภูแล9. สับปะรดพันธ์เพชรบุรี 110. สับปะรดพันธ์เพชรบุรี 211. สับปะรดพันธ์ภูชวา หรือ ไซโก้เบอร์ 612. สับปะรดพันธ์ MD2อันตราย-โทษของสับปะรดแม้สับปะรดมีสรรพคุณมากมายตามที่กล่าวมา แต่หากทานมากไปก็ทำให้เกิดโทษได้ สำหรับปริมาณที่แนะนำให้ทานต่อวันคือ เนื้อสับปะรด 2 ชิ้น ซึ่งจะได้วิตามินซีในปริมาณ 100 มิลลิกรัม สารโบรมีเลน 500 มิลลิกรัม ถือเป็นสัดส่วน ปริมาณที่ดีและพอเหมาะต่อร่างกาย เพราะหากทานมากไปอาจมีผลข้างเคียงต่อไปนี้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ประจำเดือนมามากกว่าปกติ มีผดผื่นคันตามผิวหนัง เนื่องจากสารไบรมีเลนในสับปะรดอาจเกิดอาการปากบวมหรือแก้มบวม ริมฝีปากหรือมุมปากอักเสบได้หากรับประทานน้ำสับปะรดที่ยังไม่สุกเต็มที่อาจทำให้อาเจียนอย่างรุนแรงได้รู้ถึง 18 สรรพคุณ ประโยชน์ของสับปะรดที่ช่วยต้านโรคกันแล้ว...ก็อย่าหักโหมไปกินสับปะรดจนมากเกินไปล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นผลเสียแทน เพราะสับปะรดมีฤทธิ์เป็นยาถ่าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางไม่ควรจะกินในปริมาณมาก แล้วที่นี้เราก็จะได้รับประโยชน์จากสับปะรดอย่างเต็มที่แล้ว จะเลือกกินสับปะรดแบบสดๆ ฉ่ำๆ จะดื่มน้ำสับปะรดปั่น หรือนำมาทำเป็นอาหารก็ได้ไม่ว่ากัน และหากจะสะดวกกว่านั้น สับปะรดอบแห้ง สับปะรดกวน สับปะรดกระป๋อง แยมสับปะรด ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรักษ์สุขภาพสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ด้วยสับปะรดอบแห้งที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ในราคาประหยัด พร้อมบริการฟรี ส่งตรงถึงบ้าน เก็บเงินปลายทาง คลิกที่นี่ ได้เลยค่ะเรียบเรียงข้อมูลโดย sukkaphap-d.comบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ สรรพคุณ...ประโยชน์ของผลไม้ 10 สรรพคุณ…ประโยชน์ของแตงโม แคลอรีต่ำ ควบคุมน้ำหนัก 15 สรรพคุณ...ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งยารักษาโรค 15 สรรพคุณ…ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า มากคุณค่า อายุยืน 15 สรรพคุณ…ประโยชน์ของแคนตาลูป อร่อย สารอาหารเพียบ