free web tracker, fire_lady “คนท้องกินยาพาราได้ไหม” ยามป่วยไข้กินได้หรือเปล่า? • สุขภาพดี

คนท้องกินยาพาราได้ไหม” ยามป่วยไข้กินได้หรือเปล่า?

คนท้องกินพาราได้ไหม

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจรู้สึกกังวลใจมากเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย เพราะการรับประทานยาเป็นไปได้ค่อนข้างยากสำหรับการตั้งครรภ์ เกรงจะมีเกิดผลกระทบกับทารกในครรภ์ ด้วยเหตุนี้คุณแม่หลายคนจึงหลีกเลี่ยงทานยา หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ก็จะปรึกษาแพทย์เสียมากกว่า

คนท้องกินยาพาราอย่างไรให้ปลอดภัย

อาการปวด และไข้ เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนว่าคุณแม่ควรพักผ่อนให้มากขึ้น ถ้ามีอาการปวดเมื่อย ไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงมากนัก การใช้ยาชนิดครีมนวดจะปลอดภัยและไม่เกิดผลข้างเคียงกับทารกในครรภ์อย่างแน่นอน เพราะเป็นยาใช้ภายนอก แต่ถ้ามีอาการปวดมากหรือมีอาการปวดอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ ยาที่ปลอดภัยและคุ้นเคยรู้จักกันดีคือ “ยาพารา” หรือชื่อเต็มๆ คือพาราเซตามอล (ขนาด 500 มิลลิกรัม)

โดยขนาดรับประทานครั้งละ 1–2 เม็ดทุก 4–6 ชั่วโมง เมื่อมีอาการปวดหรือมีไข้ ทั้งนี้ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 24 เม็ด หรือติดต่อกันนานเกิน 10 วันในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ยานี้ก็จะมีข้อจำกัดในการใช้มากขึ้น

คนท้องกินยา "แอสไพริน" แทน "ยาพารา" ได้ไหม?

ส่วนยาบรรเทาอาการปวดลดไข้ที่อยากจะพูดถึงอีกตัวคือ “แอสไพริน” ถึงแม้ว่าจะเป็นยาที่มีราคาถูกกว่าและออกฤทธิ์ได้ดีกว่า รวดเร็วกว่า อีกทั้งยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และข้อต่อได้ดีกว่ายาพารา แต่ในคุณแม่ตั้งครรภ์ 3 เดือนก่อนคลอดไม่แนะนำให้ใช้แอสไพริน เนื่องจากยาชนิดนี้จะทำให้การหดรัดตัวของมดลูกลดลง ก่อให้เกิดอาการเจ็บครรภ์ยาวนานเกินกำหนด และยังลดการเกาะตัวกันของเลือด จึงทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดก่อนคลอดของคุณแม่ตั้งครรภ์

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบระหว่างยาบรรเทาอาการปวดทั้ง 2 ชนิด คือยาพาราเซตามอลและยาแอสไพรินแล้ว พบว่ายาพาราเซตามอลมีความปลอดภัยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยาแอสไพริน หรือเปรียบเทียบกับยาอื่นๆ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์คนใดที่เกิดมีอาการปวด หรือเป็นไข้ สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลได้อย่างไม่มีปัญหา

ในกรณีคุณแม่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับตับและไตอยู่แล้วก็ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานจะดีกว่าและที่สำคัญคุณแม่ไม่ควรซื้อยามากินเองถึงแม้ว่ายาชนิดนั้นจะเป็นยาพื้นๆ เช่น ยาพาราก็ตาม เพราะถึงแม้ว่ายาพาราเซตามอลจะถือเป็นยาสามัญประจำบ้านและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อคุณแม่และลูกในครรภ์ แต่ก็ควรรับประทานในขนาดที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงต่างๆ เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าคนท้องต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่แค่การดูแลคุณแม่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการดูแลอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่อยู่ในครรภ์ด้วย

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับคุณแม่ตั้งครรภ์