คลินิกสุขภาพจิต ไขปัญหาสุขภาพ September 23, 2015 Share 0 Tweet Pin 0 ทายซิ เม็ดแมงลัก หรือ พริกไทย ช่วยแก้อาการท้องผูก? ท้องผูก เป็นอาการน่ารำคาญระดับสิบ ที่ทำให้ทั้งสาวๆและหนุ่มๆ หงุดหงิดตั้งแต่เช้ายาวไปได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกไม่สบายตัว ท้องอืด อึดอัด ไม่กระปรี้กระเปร่า มีลมเยอะ แน่นท้องและรู้สึกว่าถ่ายไม่หมด คนที่มีอาการท้องผูกมักรู้สึกเจ็บปวดเวลาถ่ายอุจจาระ เพราะต้องออกแรงเบ่ง รวมถึงถ่ายอุจจาระใช้เวลานานแถมยังพาลทำให้อารมณ์เสียเอาง่ายๆด้วย แต่จากนี้ไปหากคุณไม่ต้องหงุดงิดใจ และทรมานกับอาการอึดอัดท้องเพราะสุขภาพดี นำเอาวิธีแก้ท้องผูกง่ายๆมาบอกทุกคนค่ะ... ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก ทุกคนคงจะรู้จัก “แมงลัก” ผักสวนครัวชนิดหนึ่ง ที่มีหน้าตาคล้ายกับใบกะเพราและโหระพาเป็นอย่างดี ใบแมงลักนอกจากสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารได้หลายชนิด นิยมนำมากินสดๆ คู่กับขนมจีนน้ำยาแล้ว ส่วนของเม็ดแมงลักยังมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนัก รวมถึงช่วยในเรื่องของการขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูกได้อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากการทานเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน เม็ดแมงลักมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้เยอะ ใช้เวลาย่อยนาน จึงทำให้อิ่มท้องนาน จึงช่วยให้ผู้ต้องการลดน้ำหนักหันมาทานเม็ดแมงลักเพื่อลดอาการหิว อยากกินจุ๊บกินจิบ สรรพคุณและประโยชน์ของเม็ดแมงลักยังใช้เป็นยาระบาย ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย ส่วนการนำเม็ดแมงลักมากินเป็นยาเพื่อแก้อาการท้องผูกทานอย่างไรนั้น เรามีสูตรง่ายๆมานำเสนอค่ะ สูตรเม็ดแมงลัก แก้อาการท้องผูกสูตรการทานเม็ดแมงลักเพื่อแก้อาการท้องผูกนั้นไม่ยุ่งยากเลย เพียงตัก “เมล็ดแมงลัก” 1 ช้อนชา ใส่ในแก้วน้ำที่มีน้ำสะอาดอยู่ประมาณ 250 มิลลิลิตร (3/4 ของแก้วน้ำ) รอสักครู่จนเม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่ จากนั้นให้ดื่มก่อนนอนเพื่อให้เม็ดแมงลักเข้าไปในกระเพาะอาหาร จัดการกับไขมันที่เกาะตัวอยู่ในผนังกระเพาะอาหาร เมื่อตื่นเช้ามาให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้วทันที เพื่อที่น้ำจะเป็นตัวช่วยดันอุจจาระและกากอาหารลงสู่ปลายลำไส้ใหญ่ได้ดีและเร็วขึ้น พร้อมที่จะขับถ่ายออกมาในตอนเช้า หลังจากการดื่มน้ำไปแล้ว 10-20 นาที สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูกรุนแรง ถ่ายยากมากๆ สูตรนี้อาจยังไม่ได้ผลในเช้าวันแรก แนะนำให้ทำติดต่อกัน 2-3 วัน โดยดื่มก่อนนอนทุกคืน คุณจะสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายในร่างกายของคุณว่ามีการปรับให้ขับถ่ายในตอนเช้าเป็นเวลาขึ้น สม่ำเสมอทุกๆเช้าขึ้น ซึ่งเวลาที่เหมาะสำหรับการขับถ่ายของเสียของร่างกายที่ดีที่สุดคือช่วงเวลา 05.00-07.00 น. ทั้งนี้หากใครไม่ชอบทานเม็ดแมงลักผสมน้ำเปล่าๆ ก็อาจเติมน้ำตาล หรือเฮลล์บลูบอยเพื่อเพิ่มรสชาต และความอร่อยได้ค่ะ จะช่วยทำให้ดื่มง่ายขึ้น คล่องขึ้น แต่ก็ควรระวังอย่าใส่เยอะเกินไป เพราะความอ้วนจะถามหาเอาได้ค่ะพริกไทย แก้อาการท้องผูก ได้หรือไม่ในทางตรงกันข้าม หากใครไม่อยากมีปัญหาท้องผูก แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน จัดจ้าน อย่างพริก หรือพริกไทย เพราะการรับประทานอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการเผ็ดร้อน ทำให้เกิดความร้อนเข้าสู่ลำไส้ เป็นผลทำให้น้ำในลำไส้แห้ง ขาดน้ำหล่อลื่นที่ช่วยลำเลียงอุจจาระออกมาได้ ทำให้อุจจาระมีลักษณะแห้งแข็ง ยากในการขับถ่ายออกมาได้ นอกจากนี้คนที่มีปัญหาท้องผูกที่ทานอาหารรสจัด เผ็ดร้อนบ่อยๆ จะทำให้รู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำ และมีกลิ่นปากได้ง่าย จึงแนะนำว่าหากต้องการทานอาหารรสจัดจริงๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ดื่มน้ำตามมากๆ จิ๊บน้ำบ่อยๆ จึงจะบรรเทาปัญหาน้ำในลำไส้แห้งได้ค่ะข้อควรระวังในการทานเม็ดแมงลักส่วนเรื่องที่ควรระวังในการรับประทานเม็ดแมงลักก็คือ ควรซื้อเม็ดแมงลักที่ได้มาตรฐาน เพราะในเม็ดแมงลักอาจมีเชื้อราหรือสารอัลฟาท็อกซินอยู่ได้ ทางที่ดีที่สุดควรดูยี่ห้อที่มีทะเบียนผลิตภัณฑ์ถูกต้อง อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิด เก็บไว้ในที่ที่เหมาะสม ไม่ชื้น และอีกประการหนึ่งคือควรแช่เม็ดแมงลักให้พองเต็มที่ก่อนการทานทุกครั้ง มิเช่นนั้นเม็ดแมงลักอาจเข้าไปดูดน้ำในกระเพาะ จับตัวเป็นก้อน และทำให้ท้องผูกยิ่งกว่าเดิม หรือร้ายแรงกว่านั้นอาจถึงขึ้นทำให้ลำไส้อุดตันกันเลยทีเดียว แม้การดื่มเม็ดแมงลักเป็นวิธีการแก้อาการท้องผูกขั้นเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกมากจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม การทานผัก ผลไม้ และธัญพืชที่มีกากใย หมั่นจิบน้ำบ่อยๆ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และให้เวลากับการขับถ่าย อย่ารีบเร่ง เป็นวิธีที่ถูกต้องและช่วยรักษาอาการท้องผูกได้ในระยะยาว ลองฝึกฝนทำเป็นนิสัยนะคะ เพื่อห่างไกลโรคและอาการท้องผูก