การดูแลรูปร่างและผิวพรรณ ผิวขาว November 14, 2015 Share 0 Tweet Pin 0 ผิวสวยเนียนใส ด้วย..."สครับสตรอเบอรี่" ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว สาวๆหลายคนคงได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ และคงคุ้นหน้าคุ้นตากับผลไม้ของฝากอย่างสตรอเบอรี่กันเป็นอย่างดี เพราะทั้งสีสัน กลิ่น และรสเฉพาะตัว ที่ใครหลายๆ คนคงอดใจไม่ได้ที่จะซื้อมารับประทาน หรือติดไม้ติดมือมาเป็นของฝาก แต่บางทีก็ซื้อมาเยอะเกินจนกินไม่ทัน...แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้ สุขภาพดี...มีวิธีแปรรูปสตอเบอรี่จากของกินมาเป็น “สครับสตรอเบอรี่” เพื่อบำรุงผิวมาฝากกันค่ะ 4 วิธีล้างสตรอเบอรี่ให้สะอาด ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงเมื่อนึกถึงสตรอเบอรี่ หลายคนคงวิตกกังวลเรื่องของยาฆ่าแมลงที่ใช้ในการเพาะปลูกเจ้าสตรอเบอรี่นี้ เลยทำให้รู้สึกหวาดระแวงว่า สครับสตรอเบอรี่ หากนำมาสครับหน้า จะดีเหรอ? ขนาดกินยังกลัวๆเลย...ว่าจะมียาฆ่าแมลงปนเปื้อนหรือเปล่า? แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้เรามีวิธีการล้างทำความสะอาดสตรอเบอรี่เพื่อกำจัดสารเคมีจากการเพาะปลูก และยาฆ่าแมลงตกค้าง ก่อนที่จะนำไปรับประทาน หรือนำไปประทินผิวมาฝากค่ะ โดยมี 4 วิธีให้เลือก และสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ 1 แช่สตรอเบอรี่ในน้ำสะอาด และใส่ด่างทับทิมลงไปเล็กน้อย ประมาณ 20-30 เกล็ดต่อน้ำ 4 ลิตร เมื่อแช่ด่างทับทิมเสร็จแล้วให้นำมาแช่น้ำสะอาดอีกประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษในสตรอเบอรี่ได้กว่าร้อยละ 402 ใช้ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร แช่สตรอเบอรี่นานประมาณ 15 นาที จะช่วยลดสารพิษได้ร้อยละ 803 ใช้น้ำส้มสายชูละลายน้ำ โดยใช้น้ำส้มสายชู แล้วแช่สตรอเบอรี่ไว้ 15 นาที จะลดสารพิษได้สูงสุดถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว 4 แต่หากคุณไม่มีด่างทับทิม ผงฟู หรือแม้แต่น้ำส้มสายชู เวลาล้างสตรอเบอรี่ไม่แนะนำให้แช่ผักทิ้งไว้เฉยๆ เพราะเท่ากับว่าสารพิษยังคงล่องลอยอยู่ในน้ำที่แช่ผัก ๆไม่ได้ไหลไปไหนเลย ทางที่ดีควรเปิดให้น้ำไหลแรง โดยให้น้ำไหลผ่านประมาณ 2 นาที จะช่วยลดสารพิษลงได้บ้างค่ะ นอกจากจะใช้กับสตรอเบอรี่แล้ว วิธีเหล่านี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการล้างผักและผลไม้ชนิดอื่น ๆ ด้วยนะคะ และเมื่อได้สตรอเบอรี่ที่สะอาด ปราศจากสารพิษแล้ว เรามาดูกันเลยค่ะว่าวิธีในการนำสตรอเบอรี่มาเป็นสครับสตรอเบอรี่ ขัดผิวนั้น ทำอย่างไรบ้างวิธีทำ "สครับสตรอเบอรี่"นำสตอเบอรี่ที่ล้างสะอาดแล้วประมาณ 3-4 ลูก กับโยเกิร์ตครึ่งถ้วย และน้ำเปล่าเล็กน้อยใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นนำไปสครับผิวหน้าเบาๆ โดยเวลาสครับให้เน้นที่จมูก หรือบริเวณที่มีสิวเสี้ยนและความมันเยอะ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แต่ถ้าหากไม่มีเครื่องปั่นก็สามารถนำสตอเบอรี่มาใส่ชามและใช้ช้อนส้อมขยี้ให้แหลกได้เลย แต่เนื้อสตรอเบอรี่อาจจะหยาบกว่าการปั่น แต่ก็สามารถใช้ได้เหมือนกันค่ะ เพราะเนื้อสตรอเบอรี่ส่วนใหญ่จะนิ่ม ไม่บาดผิวอยู่แล้ว และหากไม่มีโยเกิร์ตก็สามารถใช้นม หรือน้ำผึ้งแทนได้ แต่หากจะใช้เนื้อสตรอเบอรี่เพียวๆ มาสครับหน้าก็ทำได้เช่นกันค่ะ เพียงแต่คุณต้องใส่น้ำในปริมาณที่เยอะหน่อย เพื่อที่เวลานำมาสครับจะได้ไม่ฝืดหน้ามากค่ะ "สครับสตรอเบอรี่" สูตรนี้ควรทำเป็นประจำทุกๆ 2-3 วัน เพื่อใบหน้าที่เนียนใสอมชมพู และไร้สิวเสี้ยนค่ะ สครับสตรอเบอรี่ AHA เพื่อผิวสวย เนียนใส ระหว่างที่สครับหรือพอกหน้าด้วยสตรอเบอรี่อาจรู้สึกแสบๆ และคันยิบ ๆ เล็กน้อย เนื่องจากในสตรอเบอรี่มีกรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี่ หรือสาร AHA ที่ช่วยทำหน้าที่ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก อีกทั้งเมล็ดเล็กๆของสตรอเบอรี่ก็มีความหยาบเหมาะสำหรับใช้ exfoliate ผิวได้ดี ไม่ต่างจากเม็ดบีดส์สครับราคาแพงเลย นอกจากนี้สตรอเบอรี่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เคอซิติน เคมเพอรอล แอนโทไซยานิน ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้างสารอนุมูลอิสระของเซลล์ผิวได้ และในสตรอเบอรี่ยังมีวิตามินซีในปริมาณสูง โดยในสตรอเบอรี่สดประมาณ 100 g. จะมีวิตามินซีมากถึง 58 mg. เลยล่ะค่ะ วิตามินซี หรือ L-ascorbic Acid นอกจากสามารถผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวได้อีกด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า การใช้สตรอเบอรี่สครับหน้า นอกจากจะได้ผิวหน้าใส เกลี้ยงเกลาไร้สิวเสี้ยนแล้ว รอยสิว จุดด่างดำ และผิวหน้าโดยร่วมก็จะดูสว่างกระจ่างใสขึ้นอย่างมีสุขภาพดีด้วยค่ะ เห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าเราก็สามารถทำสครับผิวเองได้ง่ายๆ และถูกกว่าสครับหน้าแบบกระปุกที่มีขายตามท้องตลาด แถมยังมีวิตามินสุดยอดไปเลย ใครที่ผิวหน้ามีริ้วรอยจนดูแก่กว่าวัย ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด หรือการโดนแดดลมบ่อยๆ ให้ลองใช้สครับสตรอเบอร์รี่ สูตรนี้มาบำรุงผิวหน้ากันดูนะคะ ใบหน้าของคุณจะแลดูสดชื่น เนียนขาวใสอมชมพู เหมือนวัยแรกรุ่นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียวค่ะ