free web tracker, fire_lady โทษของ “งาดำ” ทานมากไป อาจทำลายสุขภาพได้นะ!! • สุขภาพดี

โทษของ “งาดำ” ทานมากไป อาจทำลายสุขภาพได้นะ!!

โทษของงาดำ

ปัจจุบันคนยุคใหม่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น จะเห็นได้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หลายคนไม่เคยรับประทานผักก็หันมารับประทานมากขึ้น รวมไปถึงสมุนไพรจำพวก ลูกเดือย แมงลัก และงาต่างๆ โดยเฉพาะ “งาดำ” ที่พักหลังมานี้ได้กลายมาเป็นส่วนประกอบของอาหารทั้งคาวหวานแทบทุกชนิด แต่ใครจะรู้ว่าการรับประทาน “งาดำ” อาจไม่ได้เกิดผลดีต่อร่างกายเสมอไป วันนี้เราชาวสุขภาพดี...จึงอยากนำเสนอในส่วนของโทษของงาดำ และผลข้างเคียงในการทานงาดำกันดูบ้าง เพื่อเป็นความรู้สำหรับผู้ที่เริ่มต้นรับประทานงาดำเป็นครั้งแรก หรือผู้ที่ชอบรับประทานงาดำคราวละมากๆ เพราะคิดว่าจะทำให้สุขภาพดี

ก่อนจะพูดถึงโทษของงาดำหากทานมากไป หรือไม่ถูกต้องมีผลอย่างไรต่อสุขภาพ เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานงาดำแต่ละรูปแบบกันเลยดีกว่าค่ะ

ตอบ 3 ข้อสงสัยเกี่ยวกับ “งาดำ”

1. รับประทานงาดำทั้งเมล็ดได้ไหม? จริงๆ สามารถรับประทานงาดำทั้งเมล็ดได้ แต่การเคี้ยวงาไม่ละเอียดเมื่อรับประทานเข้าไปร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้ 100% เมื่อดูดซึมไม่ได้ก็จะถูกขับออกมาทางอุจจาระ นอกจากนั้นเอนไซม์บางตัวจะไม่สามารถย่อยงาดำได้ทำให้ท้องอืด ดังนั้นหากอยากรับประทานแบบสดๆ เป็นเม็ดๆ ก็ต้องมั่นใจว่าสามารถเคี้ยวได้อย่างละเอียด

2. งาดำแบบป่นดีที่สุดในบรรดางาทุกประเภท? ดูเหมือนว่างาดำแบบป่นน่าจะดีต่อระบบย่อยอาหารที่สุดแล้ว แต่งาแบบป่นมักเป็นเชื้อราได้ง่ายกว่างาชนิดอื่นๆ ผู้บริโภคต้องทำการเก็บรักษาดีๆ เพราะเชื้อราจะทำให้เกิดอาการติดเชื้ออื่นๆ ได้ นอกจากนั้นงาดำแบบป่นจะทำให้มีกลิ่นหืนไว้อีกด้วย

3. งาคั่วเพิ่มอัตราเสี่ยงของโรคมะเร็งหรือไม่? งาคั่ว เป็นงาที่มีกลิ่นหอมที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดอีกด้วย แต่การที่นำงามาผ่านความร้อน สารชีวโมเลกุลบางอย่างในงาอาจสูญเสียไปได้ นอกจากนั้นการรับประทานงาคั่วต้องดูดีๆ ว่าเกิดการไหม้เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะการรับประทานของที่ไหม้บ่อยๆ จะนำไปสู่โรคมะเร็งได้

จะเห็นได้ว่า “งาดำ” แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ดังนั้นก็เลือกตามความเหมาะสมของผู้บริโภคแต่ละคน แต่หากเป็นไปได้ควรเลือกรับประทานแบบสกัดเย็นหรือแบบบดหยาบๆ ที่ยังคงคุณค่าทางอาหารไว้เท่าเดิมและไม่เป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารอีกด้วย

โทษของ “งาดำ” ทานมากไป เป็นอันตรายได้นะ!

1. โทษของงาดำอาจเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ เนื่องจากงาดำมีขนาดเล็กมาก เวลารับประทานเข้าไปบางคนอาจเคี้ยวไม่ละเอียดทุกเม็ดแต่เลือกที่จะกลืนเข้าไปเลย เมื่อไปถึงลำไส้ที่ต้องทำหน้าที่ย่อยอาจจะย่อยไม่หมด ทำให้งาดำเม็ดเล็กๆ จำนวนมากยังคงตกค้างอยู่บริเวณลำไส้ ก่อให้เกิดการอุดตันและนำไปสู่มะเร็งลำไส้ได้ ดังนั้นการรับประทานงาดำในแต่ละครั้งควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและเคี้ยวให้ละเอียดทุกครั้งก่อนกลืน

2. โทษของงาดำทำให้น้ำหนักตัวผิดปกติ งาดำเป็นอาหารที่มีกากใยมาก เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกอิ่มนาน หลายคนจึงเลือกงาดำให้เป็น Best choice ของอาหารสำหรับคนลดน้ำหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วงาดำเพียงแค่ 1 กำมือให้พลังงานแคลอรีสูงถึง 590 แคลอรี ซึ่งถือเป็น 40% ของปริมาณไขมันที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ดังนั้นหากรับประทานคราวละมากๆ แทนที่จะลดน้ำหนักแต่กลับเพิ่มความอ้วนได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว

4. โทษของงาดำอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรง ปกติข้อดีของการรับประทานงาดำคือช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยในการขับถ่าย แต่หากรับประทานมากเกินไปจะทำให้เกิดการระบายมากผิดปกติจนนำไปสู่อาการท้องร่วงได้ ซึ่งการที่ร่างกายขับถ่ายมากเกินไปหรือขับถ่ายไวเกินไป จะทำให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ออกมากับอุจจาระโดยที่ยังไม่ถูกดูดซึมและทำให้สูญเสียเกลือแร่โดยไม่จำเป็นอีกด้วย

5. โทษของงาดำอาจทำให้ผมร่วง คุณสมบัติเด่นของงาดำคือให้โปรตีนสูง ซึ่งโปรตีนดังกล่าวสามารถไปซ่อมแซมปลายผมที่แห้งเสีย ช่วยให้ผมสุขภาพดี แต่หากรับประทานมากจนเกินไป โปรตีนและสารอื่นๆ จากงาดำจะให้ผลตรงกันข้าม เนื่องจากการที่ได้รับงาดำมากผิดปกติจะทำให้ฮอร์โมนเกิดความไม่สมดุล ส่งผลต่อระบบความคุมและผลิตไขมันในร่างกาย ทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะแห้งแต่หนังศีรษะมัน ผมร่วงและหัวล้านในที่สุด

จะเห็นได้ว่าอาหารที่มีประโยชน์เมื่อรับประทานผิดวิธี หรือทานมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้เช่นกัน เชื่อว่าข้อมูลเกี่ยวกับโทษของงาดำ กับอันตรายที่ไม่ควรมองข้ามที่เรานำมาฝากในวันนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกๆ ท่าน โดยเฉพาะมือใหม่ที่อยากจะดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานงาดำ อย่าลืมว่า อาหารทุกชนิดต่อให้มีประโยชน์กับร่างกายเพียงใดก็ตามแต่ หากรับประทานไม่พอดี ย่อมเกิดโรคภัยและอันตรายต่อร่างกายได้แทบทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าลืมรับประทานงาดำให้เหมาะสมกับร่างกายในแต่วันด้วยนะคะ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี