"น้ำเปล่า"ลดความอ้วน...ดื่มถูกหลัก น้ำหนักลด ผอมเพรียวแน่นอน!!

 “น้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนัก” ใครเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้างคะ เพราะจริงๆ แล้วเครื่องดื่มที่ดูธรรมดาอย่างน้ำเปล่านี้กลับมีสรรพคุณที่ไม่ธรรมดา เพราะดื่มแล้วช่วยลดน้ำหนักได้จริง อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกสารพัด นับเป็นสุดยอดตัวช่วยในการลดน้ำหนักเลยทีเดียว คงอยากรู้กันแล้วสิว่า "น้ำเปล่า" ช่วยอะไรเราได้บ้าง มารู้จักความมหัศจรรย์ของน้ำเปล่าที่จะช่วยเราลดน้ำหนักกันเถอะค่ะ

1. ลดความอยากอาหาร การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้รู้สึกหิวน้อยลงในระหว่างวัน ถ้าดื่มก่อนมื้ออาหารสัก 20-30 นาที จะช่วยควบคุมปริมาณมื้ออาหารไม่ให้กินมากจนเกินไป

2. กำจัดคอลเลสเตอรอล น้ำมีส่วนช่วยให้ร่างกายกำจัดคอเลสเตอรอลได้เร็วขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักลดเร็วขึ้นนั่นเอง

3. กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลองสังเกตได้ว่าหากวันไหนดื่มน้ำน้อยแล้วดันไปทานอาหารมื้อหนักอย่างพวกเนื้อสัตว์ จะรู้สึกได้เลยว่าท้องอืด ท้องเฟ้อได้ง่าย รู้สึกอัดอัดไม่สบายตัวแถมเหนื่อยง่ายขึ้นด้วย ดังนั้นน้ำจึงสำคัญมากค่ะ แต่อย่าดื่มน้ำในลักษณะกินข้าวคำน้ำคำนะคะ เพราะในขณะที่ย่อยอาหาร ร่างกายต้องการกรดเข้มข้นในการย่อย การดื่มน้ำมากในขณะกินอาหารหรือดื่มทันทีหลังอาหาร น้ำจะไปเจือจางกรดในกระเพาะ ทำให้อาหารไม่ย่อยและท้องอืดได้เช่นเดียวกัน

4. เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่กล้ามเนื้อ ถ้าหากดื่มน้ำน้อยเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อขาดความแข็งแรง ดังนั้นออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อแล้ว อย่าลืมใส่ใจการดื่มน้ำด้วยนะ

5. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ ตับเป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่เผาผลาญไขมันให้ร่างกาย ซึ่งในกระบวนการกำจัดไขมันของตับ ตับก็ต้องการน้ำเช่นเดียวกันเพื่อที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่ ถ้าดื่มน้ำน้อย แน่นอนว่าย่อมไม่พอตามความต้องการของตับแน่ๆ ทีนี้กระบวนการกำจัดไขมันก็จะเริ่มรวนตามไปด้วยนั่นเอง

6. ลดอาการหิวหลอก บางครั้งที่เรารู้สึกหิวนั้นมันไม่ใช่ความรู้สึกหิวอย่างแท้จริง อยากรู้ว่าหิวจริงหรือหลอก ให้ลองดื่มน้ำดูสักแก้ว หากรู้สึกดีขึ้นนั่นแปลว่าคุณแค่รู้สึกกระหายน้ำเท่านั้นเองค่ะ

7. บำรุงผิว ในช่วงที่กำลังออกกำลังกายหนักๆ ไขมันและน้ำจะถูกกำจัดออกไปเยอะมาก ถ้าดื่มน้ำชดเชยไม่มากพอ จะทำให้ผิวพรรณดูแห้งกร้านไม่ชุ่มชื้น เนื่องมาจากอาการขาดน้ำนั่นเอง ดังนั้นต้องพยายามดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป

สาวๆ หลายคนไม่อยากที่จะดื่มน้ำเยอะมากเกินไปเพราะกลัวดื่มน้ำมากแล้วจะทำให้ร่างกายบวมน้ำ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมาก เพราะจริงๆ แล้วการดื่มน้ำน้อยเกินไปจนขาดน้ำต่างหากที่ทำให้ร่างกายบวมน้ำ? ใช่แล้วค่ะ ทุกคนอ่านไม่ผิดหรอก ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าร่างกายเราฉลาดมากค่ะ เพราะเมื่อใดที่ร่างกายเริ่มรู้สึกว่าได้รับน้ำน้อยเกินไป ก็จะเริ่มสะสมน้ำเอาไว้แทนเพราะกลัวว่าจะเสียน้ำไปอีก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บวมน้ำ ในขณะที่หากเราดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการ ร่างกายก็จะเข้าสู่โหมดสมดุล ไม่สะสมน้ำเกินความจำเป็นและจะขับถ่ายออกไปโดยการปัสสาวะนั่นเอง และสำหรับใครที่กลัวบวมน้ำ การทานอาหารรสเค็มจัดหรือมีโซเดียมสูงก็ทำให้บวมได้เช่นกัน

1. ดื่มน้ำหลังตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น 1-2 แก้วในช่วงท้องว่างหลังตื่นนอน เพื่อกระตุ้นการขับถ่ายและดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย อีกทั้งยังช่วยทำให้ระบบเผาผลาญเริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าค่ะ แต่ข้อสำคัญคือควรกลั้วปากด้วยน้ำเปล่าแล้วบ้วนทิ้งก่อนเพื่อกำจัดแบคทีเรียบางชนิดในช่องปาก และการดื่มน้ำในช่วงนี้ควรจิบช้าๆ ไม่ควรดื่มรวดเดียวหมด

2. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้อเช้า โดยดื่มก่อนอย่างน้อย 30-60 นาที ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น กระตุ้นการย่อยอาหารได้ดี

3. ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังอาหาร ประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

4. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้อกลางวัน ดื่มก่อน 30-60 นาที ป้องกันการกินอาหารมากเกินไปทำให้อิ่มเร็ว

5. ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังมื้อกลางวัน ประมาณ 1 ชั่วโมง กระตุ้นระบบย่อย ช่วยดีท็อกซ์ของเสีย

6. ดื่มน้ำ 1-2 แก้วตอนบ่าย เป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างร้อน ร่างกายขาดน้ำได้ง่าย ดื่มน้ำในช่วงนี้จะช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกาย อีกทั้งดื่มในช่วงท้องว่างจะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญลดน้ำหนักได้ดีขึ้นด้วย

7. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้อเย็น โดยดื่มก่อน 30-60 เพื่อช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ทำให้กินได้น้อยลง

8. ดื่มน้ำ 1-2 แก้วช่วง 1-2 ทุ่ม ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น ผิวพรรณสวยงาม

9. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนเข้านอน ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ บรรเทาอาการท้องผูกในตอนเช้า รับรองตื่นมาพุงหายแน่นอน

1. จิบน้ำบ่อยๆ การดื่มน้ำควรจิบบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน ไม่จำเป็นต้องรอให้เรารู้สึกกระหายน้ำเสียก่อน เพราะถึงตอนนั้นอาจจะไม่ใช่แค่หิว แต่ร่างกายอาจจะขาดน้ำไปก่อนแล้วก็ได้ เมื่อเราขาดน้ำ จะรู้สึกปากคอแห้งและกระหายน้ำมาก ระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานได้ไม่เต็มระบบ ไม่ว่าจะการย่อย การขับถ่าย ซึ่งจะส่งผลให้ลดน้ำหนักได้ยากขึ้น รวมทั้งอาจจะมีอาการบวมน้ำด้วย ดังนั้นถ้ารู้สึกปากแห้ง คอแห้ง ให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติเล็กน้อยค่ะ

2. ดื่มน้ำก่อนออกกำลังกาย ก่อนออกกำลังกายประมาณ 30-60 นาทีควรดื่มน้ำประมาณ 1 ขวดเพื่อเตรียมความพร้อมและป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียดท้อง ส่วนในระหว่างออกกำลังกาย หากออกนานกว่า 60 นาที ควรพักมาจิบน้ำทุกๆ 15 นาทีเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ แต่ถ้าออกแล้วรู้สึกปากคอแห้งมาก หรือน้ำลายเหนียว อาจต้องพักจิบน้ำบ่อยกว่าเดิม เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อสร้างความสมดุลของเหลวในร่างกาย กระตุ้นการเผาผลาญ ช่วยให้อวัยวะในร่างกายทำงานได้อย่างเต็มระบบ กระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่น ไม่ขาดน้ำ ที่สำคัญควรงดเครื่องดื่มประเภทน้ำหวาน น้ำอัดลมด้วย

น้ำอุ่นผสมมะนาว ถือเป็นสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักที่คนลดน้ำหนักต้องเคยได้ยินแน่นอน เรียกว่าฮิตมาก ส่วนผสมก็แค่น้ำอุ่น 1 แก้ว บีบมะนาวใส่ลงไปประมาณ 1 ผล ใส่เกลือปลายช้อน คนให้เข้ากัน เหมาะสำหรับดื่มช่วงเช้าหลังตื่นนอน น้ำมะนาวมีรสเปรี้ยวและวิตามินซีสูง ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ไม่งัวเงีย ป้องกันการเป็นหวัด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ใครที่ท้องผูก ถ่ายยากลองมาดื่มนั้มะนาวติดต่อกันสักอาทิตย์ รับรองว่าดีขึ้นแน่นอน ส่วนใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ น้ำมะนาวจะช่วยให้น้ำหนักลดไวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะวิตามินซีที่มีมากในมะนาวนั้นช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร แถมบรรเทาอาการท้องป่องจากการท้องผูกได้เป็นอย่างดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย เว็บsukkaphap-d.com