เคล็ดลับสุขภาพ เรื่องน่ารู้ June 18, 2016 Share 1 Tweet Pin 0 ตอบข้อสงสัย...การฉีดสลายไขมันแบบ Fat Burn อันตราย? ปัจจุบันนี้การฉีดสลายไขมัน (Fat Burn) เป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะมีอันตรายน้อยกว่าการดูดไขมัน ด้วยเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ ที่เป็นธรรมชาติ และมีเทคนิคที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะฉีดสลายไขมันแบบ Fat Burn เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า การฉีดสลายไขมัน (fat burn)คืออะไร? เหมาะกับฉีดส่วนไหน? และข้อควรปฎิบัติหลังการฉีด fat burn ทำอย่างไร? งั้นเราไปค้นหาคำตอบกันเลยค่ะ วิธีฉีดสลายไขมัน Fat Burnการกำจัดไขมันส่วนเกินมีหลายวิธี แต่วิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากขึ้นก็คือ วิธีฉีดสลายไขมัน Fat Burn โดยแพทย์จะทำการฉีดยาที่มีสรรพคุณในการสลายไขมันส่วนเกินในร่างกายที่ไปสะสมอยู่ในชั้นไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยการฉีด Fat Burn จะช่วยให้ผนังไขมันมีการแตกตัวออกไป ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนอยู่ตามชั้นไขมันจะสลายออกในรูปของไขมันเหลว (Lipid Fat) และจะถูกขับออกทางปัสสาวะ และเหงื่อ บริเวณที่นิยมฉีดสลายไขมันคือ บริเวณไขมันส่วนเกินที่ต้นแขน ต้นขา บริเวณไขมันส่วนเกินบนใบหน้า เช่น คาง และแก้ม บริเวณไขมันส่วนเกินตามร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ซึ่งการฉีดจะเห็นผลได้ชัดเจนมากโดยเฉพาะในส่วนของไขมันที่ต้นขา หรือน่อง ฉีดสลายไขมันแบบ Fat Burn อยู่ได้นานแค่ไหน?การฉีดสลายไขมันแบบ Fat Burn สามารถอยู่ได้นาน 4-5 เดือน อาจสั้นหรือยาวกว่านั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และระเบียบวินัยในเรื่องของการกินอาหาร และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะไขมันในร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้เสมอการดูแลตัวเองจึงมีผลต่อความยาวนานของการฉีดสลายไขมันนั่นเองหลังทำ Fat Burn ควรปฎิบัติตัวอย่างไร?1 งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อให้ไขมันที่ถูกละลายไปขับออกมาได้ง่ายขึ้นทางปัสสาวะ 2 ออกกำลังกายกระชับสัดส่วน เนื่องจากเมื่อไขมันสลายจะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย 3 หลีกเลี่ยงการเจอความร้อน เช่น อบไอน้ำ และอบซาวน่าหลังจากที่ฉีด Fat burn ประมาณ 1 อาทิตย์4 ออกกำลังกายด้วยท่าบริหารร่างกายแบบเบาๆ เช่น แอโรบิค โยคะ หรือการเดิน การวิ่ง เพื่อกระตุ้นและขับไขมันที่แตกตัวออกมามากที่สุดทางเหงื่อ5 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมากฉีด Fat Burn ส่วนใดของร่างกายได้บ้าง?การฉีด Fat Burn สามารถฉีดได้ทั้งร่างกาย และใบหน้า โดยส่วนใหญ่ที่ใบหน้าจะนิยมฉีด Fat Burn สลายไขมันที่คาง ในบริเวณที่มีเหนียง หรือเนื้อส่วนเกินที่ห้อยย้อย อย่างหนังตาและถุงใต้ตาก็สามารถฉีดสลายไขมันได้ รวมไปถึงบริเวณแก้มก็สามารถฉีดเพื่อให้รูปหน้าเล็กเรียวขึ้นได้ นอกจากนี้บริเวณปีกจมูก ก็สามารถฉีดสลายไขมัน เพื่อให้ปีกจมูกเล็กลงได้ด้วยเช่นกันส่วนการฉีดสลายไขมัน Fat Burn ในบริเวณร่างกายมักจะนิยมฉีดในส่วนที่มีไขมันส่วนเกินมากๆ เช่น ต้นขาบริเวณน่อง และต้นแขน รวมไปถึงการฉีดสลายไขมันในบริเวณยอดฮิตอย่างบริเวณหน้าท้อง ผู้ที่ไม่ควรฉีด Fat Burn ?1 หญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่ให้นมบุตร 2 ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 3 ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดทั้งหมด 4 ผู้ป่วยโรคมะเร็ง 5 ผู้ป่วยโรคหัวใจ การฉีดสลายไขมัน นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีกว่าการฉีดสารเคมีเข้าร่างกายแบบวิธีอื่นๆ แต่แม้จะไม่อันตรายเหมือนกับการดูดไขมัน แต่โดยหลักแล้วร่างกายของคนเราจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติอย่างถูกวิธี ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน เช่น ขนมขบเคี้ยว ของหวาน ของมัน และของทอดทั้งหลาย ควบคู่ไปด้วยกันกับการฉีดสลายไขมัน บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงาม “ศัลยกรรม” ความงามบนเส้นด้าย "โบท็อกหน้าเรียว"...กับคำถามที่สาวๆ อยากรู้ ตอบข้อสงสัย…จัดฟันช่วยให้หน้าเรียวไหม? สารพัดวิธีทำให้หน้าเรียว ไม่พึ่งมีดหมอ ไม่ง้อโบท็อกซ์