สมุนไพรน่ารู้ อายุรวัฒน์เวชศาสตร์ August 25, 2018 Share 18 Tweet Pin 0 “ทานาคา” สรรพคุณ-ประโยชน์ของแป้งสมุนไพร ผิวสวยด้วยธรรมชาติ“ผิวพม่า นัยน์ตาแขก” เป็นวลีฮิตที่ใช้กับสาวๆ ที่มีตาคมกลมโต ผิวพรรณขาวนวลเนียน หลายๆ คนคงจะเคยสังเกตเห็นว่าสาวพม่ามักจะทาแป้งสีเหลืองนวลที่แก้มและหน้าผาก เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นชนิดที่รู้ว่าเป็นสาวพม่าโดยที่ไม่ต้องบอกกันก่อนเลยทีเดียว แป้งสีเหลืองนี้เรียกกันว่า “ทานาคา” เป็นแป้งที่ได้จากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชาวพม่ารู้จักกันมานานแล้ว และปัจจุบันก็เริ่มแพร่หลายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย แต่ทานาคาจะเป็นที่รู้จักในรูปแป้งทาหน้าเป็นหลัก จริงๆ แล้วทานาคามีสรรพคุณและประโยชน์ที่มากกว่าการประทินผิว ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้ที่นี่ค่า ที่มา ถิ่นกำเนิดของทานาคาทานาคา ( Thanakha ) หรือต้นไม้ที่ไทยเราเรียกกันว่าต้นกระแจะนั้น มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Hesperethusa crenulata(Roxb.) จัดอยู่ในวงศ์ Rutaceae หรือวงศ์มะนาว มีชื่อเรียกตามท้องถิ่น เช่น พญายา(ราชบุรี), ขะแจะ(ภาคเหนือ), ตุมตัง(อีสาน), ตะนาว(มอญ), ทานาคา(เมียนมาร์) เป็นต้น ถิ่นกำเนิดไม่ชัดเจน แต่มีการ กระจายพันธุ์ทั่วไปตามพื้นที่เขตร้อนชื้นของทวีปเอเชีย เช่น พม่า ไทย ศรีลังกา อินโดนีเซีย ปากีสถาน บังคลาเทศ อินเดีย พบได้ตามป่าดิบชื้น ป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 100-400 เมตร ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการเพาะเมล็ด หรือจะใช้กิ่งมาปักชำก็ได้เช่นกันผงทานาคาถูกนำมาประโยชน์กันนานแล้ว ในสมัยก่อนเกือบทุกบ้านในพม่าจะมีแท่งไม้ทานาคาติดบ้านเอาไว้ เวลาจะใช้ก็นำมาฝนกับแท่งหินที่มีลักษณะหยาบคล้ายกระดาษทราย เวลาฝนก็ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย แล้วจะได้แป้งธรรมชาตินำมาใช้ทาผิว ใช้แก้คัน ทาตามรักแร้ลดกลิ่นตัวก็ได้ บางครั้งจะเห็นว่าชาวพม่าหลายคนทำงานกันกลางแดดจ้า แต่ก็ยังมีใบหน้าที่ขาวเนียนอยู่ เพราะว่าพวกเขาใช้ทานาคาทาหน้ากันอยู่เป็นประจำนั่นเองลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้น ทานาคาเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ลักษณะเป็นทรงพุ่มแต่ไม่แผ่กว้าง เป็นยืนต้นขนาดกลาง สูงเฉลี่ย 8-15 เมตร ลำต้นตั้งตรงสูงโปร่ง เปลือกลำต้นสีน้ำตาลขรุขระ แตกเป็นร่อง กิ่งแตกจากลำต้นหลักในแนวตั้งฉาก เนื้อไม้สีขาว ถ้าตากจนแห้งจะเป็นสีเหลือง มีหนามแข็งและยาว ตลอดลำต้นใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบหลักประกอบไปด้วยใบย่อย 8-13 ใบ ใบมีลักษณะเรียวยาว รูปไข่ ก้านใบเป็นครีบแผ่ออกทั้งสองข้างเป็นช่วงๆระหว่างคู่ใบย่อย ปลายและโคนใบแคบ ขอบใบหยักเป็นฟันปลา ผิวใบเนียนเกลี้ยง มีต่อมน้ำมันกระจายอยู่ทั่วดอก ดอกออกเป็นช่อ อยู่ติดกันเป็นกระจุกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว มี 4 กลีบ มีขนอ่อนนุ่มสั้นๆ ปกคลุม กลีบดอกโคนกว้างแต่ปลายเรียวแหลม แอ่นลู่ไปด้านหลัง ผิวกลีบเกลี้ยง มีต่อมน้ำมันอยู่เล็กน้อย มีเกสรตัวผู้ 8 อัน เกสรตัวเมียแยกเป็นแฉก ที่ปลายมีออวุลติดอยู่ ก้านดอกย่อยกลมยาวผล มีลักษณะเป็นทรงกลม ผลสดสีเขียว ผลแก่สีม่วงเข้ม ก้านผลยาวประมาณ 2 เซนติเมตรสรรพคุณเด่นๆ ของทานาคา 1. บำรุงร่างกาย นำแก่นลำต้นมาดองเหล้า ดื่มเป็นยากษัย ช่วยบำรุงร่างกาย ซุบซีด ทำให้เจริญอาหาร บำรุงเลือด2. แก้ปวดเมื่อย นำต้นมาต้มน้ำดื่มคราวละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้งหลังอาการ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เส้นยึด เส้นตึง เคล็ดขัดยอก ปวดตามข้อกระดูก3. ดับพิษร้อน นำแก่นมาต้มน้ำดื่ม มีฤทธิ์เย็น ลดไข้ แก้กระหาย แก้ร้อนใน ช่วยขับเหงื่อ4. แก้โรคประดง โรคนี้จะมีอาการผื่นขึ้นตามผิวหนัง คันมาก ยิ่งเกาผื่นยิ่งลาม หากเป็นมากผื่นจะติดกันเป็นแผ่นใหญ่หนา อาจจะมีอาการไข้ร่วมด้วยหรือเป็นลมพิษตามมา การดื่มน้ำต้มทานาคาช่วยบรรเทาอาการได้ ในขณะคันก็สามารถใช้ทานาคาทาผิว ให้ผิวเย็นลง คันน้อยลงได้5. รักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียดแน่น อาหารไม่ย่อย6. บรรเทาอาการท้องผูก มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น7. แก้ปวดท้อง รากใช้ปรุงยาแก้ปวดท้อง รักษาโรคลำไส้ บรรเทาการปวดท้องบริเวณลำไส้ใหญ่และลิ้นปี่ประโยชน์ดีๆ ของทานาคา 1. ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทานาคามีสารต้านอนุมูลอิสระสูง รวมทั้งมีสาร Curcuminoid ที่พบในขมิ้นชัน จึงช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดการสร้างเซลล์เม็ดสี ชะลอการเกิดรอยเหี่ยวย่น ใครที่ใช้ทานาคาทาหน้าเป็นประจำ จะมีผิวที่นวลเนียนเปล่งปลั่ง ไม่ว่าจะมีผิวขาวหรือผิวเข้ม แต่จะรู้สึกได้เลยว่าผิวเนียน ดูสุขภาพดี2. ลดการเกิดสิว ผงทานาคาช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดี แต่ไม่ทำให้หน้าแห้งและเสียสมดุล ดังนั้นจึงช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้ นอกจากนี้ในทานายังมีสาร suberosin ซึ่งมีสรรพคุณช่วยต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยป้องกันไม่ให้สิวอุดตันเกิดการอักเสบ หากผสมน้ำนำมาแต้มบางๆที่สิวอักเสบ สิวก็จะยุบไวขึ้น ลดโอกาสการเกิดรอยดำรอยแดง3. รักษาโรคผิวหนัง นำมาทาผิวแก้ผดผื่นคันจากอากาศร้อนได้ดี เพราะทานาคาเป็นไม้เนื้อเย็น ทำให้ผดผื่นยุบลง บรรเทาอาการคัน4. ปกป้องผิวจากแสงแดด มีงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ในทานาคามีสารสำคัญที่ชื่อ marmesin อยู่เป็นจำนวนมาก มีคุณสมบัติช่วยกรองรังสียูวีจากแดด รังสียูวีนี้หากสัมผัสกับผิวโดยตรง จะไปทำลายเส้นใยโปรตีนหรือคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เหี่ยวย่นได้ง่าย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยปกป้องและฟื้นฟูผิวไปพร้อมๆ กัน5. รักษาฝ้า สารอาร์บูตินเป็นสารหนึ่งที่มักเป็นส่วนผสมหนึ่งของครีมบำรุงผิว ซึ่งสารนี้ก็พบมากในทานาคาเช่นกัน อาร์บูตินช่วยยับยั้งการผลิตเซลล์เม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้า กระ รอยคล้ำ จุดด่างดำแลดูจางลง ช่วยลดการหลั่งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า เรียกว่าทำงานเสริมประสิทธิภาพกันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว6. ลดกลิ่นตัว หลังอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวให้แห้ง ทาผิวบางๆ ด้วยทานาคา ช่วยดูดซับความชื้น ลดเหงื่อ ยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวข้อควรระวังในการใช้ทานาคา การใช้ทานาคาของแท้นั้นไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อร่างกาย นอกเสียว่าเป็นการแพ้ส่วนบุคคล หรือใช้ขัดหน้าอย่างรุนแรงในขณะเป็นสิวเท่านั้น สิ่งที่ต้องระวังมีเพียงการใช้ทานาคาปลอมโดยไม่รู้ตัว มีส่วนผสมอะไรบ้างก็ไม่ทราบได้ ใช้แล้วอาจจะแพ้ สิวเห่อ สิวอุดตัน หากมีอาการผิดปกติใดๆ หลังใช้ ต้องรีบไปล้างหน้าแล้วหยุดใช้ทันทีเลือกซื้ออย่างไรให้ได้ทานาคาบริสุทธิ์ ดมกลิ่น ทานาคาที่ดีจะมีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆ แค่เล็กน้อยเท่านั้น คือแทบจะไม่ได้กลิ่นเลยก็ว่าได้ นอกเสียจากว่าจะผสมน้ำแล้ว จึงจะกลิ่นหอมมากขึ้น ถ้าทานาคาที่จะซื้อมีกลิ่นหอมมากและเย็นมาก นั้นหมายความมีส่วนผสมของพวกน้ำหอมหรือแป้งหอมอยู่สังเกตเนื้อสัมผัส ทานาคาที่ฝนเองด้วยมือ จะมีผิวสัมผัสที่หยาบเล็กน้อย หากมีเนื้อเนียนนุ่มละเอียดจะดูเหมือนแป้งฝุ่นก็จะเป็นของปลอม หรือผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมมามากจนแทบจะหมดคุณประโยชน์เลยใช้ทานาคาอย่างไรให้ได้ผลดี 1. ผสมน้ำเปล่าธรรมดา หากจะใช้ทานาคาทาผิวหน้าในชีวิตประจำ ให้ผสมแค่น้ำเปล่าเท่านั้น ไม่ต้องใช้น้ำร้อน น้ำเย็น หรือผสมส่วนผสมอื่นใดลงไป2. มีสิวห้ามขัด ในขณะเป็นสิวใช้สามารถใช้ทานาคาทาหน้าได้ แต่ห้ามขัดเด็ดขาด เพราะจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น เวลาทาก็เว้นผิวตรงที่เป็นสิวไปเลยจะดีกว่า3. ขัดผิวเบาๆ ถ้าต้องการขัดผิวด้วยทานาคา ก็ผสมน้ำเปล่านั้นแหละ หลังจากนั้นก็เอามาขัด แต่ต้องขัดให้เบามือที่สุด ขัดวนๆไปประมาณ 5 นาทีก็พอ แล้วก็ทิ้งไว้ให้แห้ง ล้างออกด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติจนสะอาด ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ แล้วบำรุงผิวตามขั้นตอนปกติสรุปได้ว่าทานาคาเป็นแป้งธรรมชาติที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ในพม่านั้นไม่ว่าจะผู้หญิงผู้ชาย เด็กหรือคนแก่จะใช้ทาหน้าผิวกันตลอดทั้งวัน เป็นวิธีดูแลและปกป้องผิวโดยปราศจากสารเคมี ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดด ลดสิวฝ้ากระ จุดด่างดำ ใช้ดับกลิ่นตัว ทาแก้คัน ใช้รักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ เรียกว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านก็ว่าได้ สรรพคุณและประโยชน์ของทานาคามีมากจริงๆ ดังนั้นจะหาซื้อมาติดบ้านสักระปุกสองกระปุกมาติดบ้านก็ดีไม่น้อยค่ะ แต่ว่าปัจจุบันมีทานาคาปลอมขายกันแล้ว ดังนั้นพิจารณาแหล่งซื้อให้ดีๆ ก่อน และก่อนจะใช้แนะนำให้ทดสอบที่ท้องแขนก่อนสัก 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ใช้ต่อได้เลยค่า