น้ำมันมะพร้าวช่วยลดความอ้วนได้?...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

โดยทั่วไปแล้วน้ำมันมะพร้าวที่วางขายตามท้องตลาดจะมีอยู่ 2 ชนิดซึ่งมีวิธีการผลิตที่แตกต่างกันออกไป

1. น้ำมันมะพร้าวธรรมดา (RBD Coconut Oil)  เป็นน้ำมันมะพร้าวชนิดแรกที่ถูกค้นพบและนำมาใช้ประโยชน์ จัดเป็นน้ำมันที่สกัดได้จากพืชชนิดแรกๆ ที่คนเรานำมารับประทานเลยทีเดียว น้ำมันมะพร้าวชนิดนี้ถูกสกัดมาจากเนื้อมะพร้าวแก่และแห้ง น้ำมันที่ได้จะมีสีเหลือง ค่อนข้างโปร่งแสง ก่อนจะนำมาบรรจุจะถูกนำไปผ่านกระบวนการการกำจัดกลิ่นหืนและฟอกสีก่อน ไม่จัดเป็นน้ำมันธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายน้ำมันพืชทั่วๆไป ในตอนแรกเป็นน้ำมันที่นิยมนำมาประกอบอาหารมากเพราะสามารถผลิตเองได้ง่าย แต่ช่วงหลังเสื่อมความนิยมลงไปเพราะสามารถสะสมเป็นไขมันได้เหมือนกับน้ำมันชนิดอื่น

2. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นน้ำมันมะพร้าวอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมาค้นพบวิธีการผลิตกันในภายหลัง ซึ่งกรรมวิธีการผลิตจะต้องไม่ผ่านความร้อนหรือสารเคมีใดๆ จะได้น้ำมันมะพร้าวที่ใสบริสุทธิ์ กลิ่นหอม อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์จากธรรมชาติ ใช้ทานและใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆได้อีกมากมาย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจะมีราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยากและต้องรักษาความสะอาดอย่างมาก อีกอย่างคือการจะสกัดน้ำมันได้สักขวดต้องใช้มะพร้าวปริมาณมาก ด้วยความแตกต่างของการผลิตนี้เองที่ทำให้น้ำมะพร้าวทั้งสองชนิดมีสรรพคุณที่แตกต่างกัน

1. น้ำมันมะพร้าวช่วยไม่ทำให้อ้วน หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม น้ำมันมะพร้าวต่างจากน้ำมันชนิดอื่นตรงที่โมเลกุลของน้ำมันมีขนาดกลาง จึงย่อยง่ายร่างกายนำไปใช้ได้เร็ว จึงไม่ตกค้างสะสมในร่างกาย

2. น้ำมันมะพร้าวช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ โมเลกุลของน้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม ทำให้ร่างกายอุณหภูมิสูงขึ้น เพิ่มระดับการเผาผลาญอาหารต่างๆ ที่เราทานเข้าไป จึงมีพลังงานเหลือค้างในร่างกายน้อย

3. น้ำมันมะพร้าวช่วยลดความอยากอาหาร ไขมันจากน้ำมันมะพร้าวช่วยกดความรู้สึกอยากอาหารได้ จึงมีผลให้ลดการกินจุกกินจิก ชะลอความหิวและทำให้รับประทานอาหารน้อยลงในมื้อถัดไป

1. ไม่ควรทานเกินวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ เพราะแทนที่จะช่วยลดน้ำหนักอาจจะทำให้น้ำหนักพุ่งได้แทน ดังนั้นถ้าหากใครที่ต้องการลดน้ำหนักให้ทานเพียงครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะโดยทานก่อนมื้ออาหาร จะทานก่อนทุกมื้อหรือแค่ เช้าและเย็นก็ได้ เมื่อรับประทานน้ำมันมะพร้าวแล้วเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ต้องลดไขมันประเภทอื่นๆ ในอาหาร รวมทั้งลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลลงด้วย

2. ใช้ในการฝััด-ทอด หากต้องการปรุงอาหารประเภทผัดหรือทอด ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันชนิดอื่น

3. รับประทานให้พอเหมาะ  มีข้อควรระวังคือต้องบริโภคไม่เกิน 30% ของแคลอรี่ที่ร่างกายสมควรได้รับต่อวัน

2. อายุการใช้งานนาน น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์และคุณภาพดี ควรอายุการใช้งานนานประมาณ 5 ปี

3. กลิ่นหอม ต้องไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เหม็นหืน น้ำมันมะพร้าวที่ดี กลิ่นจะหอมอ่อนๆ อยู่เสมอ ดมแล้วรู้สึกเหมือนเป็นน้ำมันใหม่

4. ต้องใสสะอาด มีความโปร่งใส น้ำมันมะพร้าวบางยี่ห้อใสจนเหมือนน้ำเปล่าเลยทีเดียว

5. ไม่เหนียวหนืด เมื่อนำมาทาผิว ต้องซึมซาบง่าย บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่ทิ้งคราบไว้หลังทา

6. ทานง่าย น้ำมันมะพร้าวที่ดีเมื่อทานแล้วจะรู้สึกเหมือนละลายในปาก กลืนง่าย ไม่มีกลิ่นหืนหรือเลี่ยนรุนแรง

7. มีข้อมูลครบถ้วน น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหารควบคุมตามประกาศของกระทรวงสาธารณะสุข ดังนั้นบนแพคเกจจะต้องมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ครบถ้วน ก่อนซื้อควรอ่านฉลากให้ดี สังเกตชื่อและรายเอียด รวมถึงวันผลิตและวันอายุด้วย

คำถามที่ว่า "น้ำมันมะพร้าวลดน้ำหนักได้" จริงหรือไม่นั้น...สรุปคือน้ำมันมะพร้าวนั้นไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักได้โดยตรง หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยกระตุ้นให้น้ำหนักลดง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะการทานน้ำมันมะพร้าวนอกจากไม่ทำให้น้ำตัวเพิ่มเหมือนการทานน้ำมันชนิดอื่นๆ แล้วยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานมากขึ้น ทั้งนี้ถ้าไม่ควบคุมการทานอาหารและไม่ออกกำลังกาย การทานน้ำมันมะพร้าวก็จะไม่ช่วยในเรื่องน้ำหนักเลย ดังนั้นใครที่ต้องการลดความอ้วนด้วยน้ำมันมะพร้าวต้องออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปด้วยนะคะ