free web tracker, fire_lady ประโยชน์ของ “น้ำตาล” มีดีมากกว่าความหวาน • สุขภาพดี

ประโยชน์ของ “น้ำตาล” มีดีมากกว่าความหวาน

ประโยชน์ของน้ำตาล

ขึ้นชื่อว่า “น้ำตาล” หลายคนคงนึกถึงโทษมากกว่าประโยชน์ บ้างก็นึกถึงโรคอ้วน บ้างก็นึกถึงเบาหวาน หรือกระทั่งฟันผุก็มี เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพที่ดี ถึงกระนั้น “น้ำตาล” ก็ยังเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารไทย รวมไปถึงขนมหวานที่ช่วยชูรสชาติอาหารมาจนปัจจุบัน วันนี้เราชาวสุขภาพดี...จึงอยากจะนำเสนอแง่มุมที่แตกต่างไปของ “น้ำตาล” ที่ต้องบอกว่าแม้จะมีโทษอยู่บ้าง แต่ประโยชน์ของน้ำตาลก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว

3 รูปแบบน้ำตาลที่นิยมบริโภค

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับประเภทของน้ำตาลกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ ที่จริงแล้วการจำแนกน้ำตาลสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นจำแนกตามขนาดโมเลกุล จำแนกตามสภาพทางกายภาพ หรือกระทั่งจำแนกตามสี แต่วันนี้ ‘สุขภาพดี’ จะเลือกจำแนกประเภทของน้ำตาลตามความนิยมในการบริโภคของคนไทยกันค่ะ โดยจะแบ่งออกได้ 3 แบบใหญ่ๆ คือ

1. น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายแดงที่ว่านี้เกิดจากกระบวนการแปรรูปของอ้อยสด ให้อยู่ในรูปของผลึกเล็กๆ ด้วยธรรมชาติของอ้อยจะมีสีส้มอมเหลือง เมื่อสกัดออกมาเป็นน้ำตาลจึงให้สีน้ำตาลแดงและมีลักษณะเป็นเม็ดหยาบๆ โดยน้ำตาลทรายแดงจะยังคงคุณค่าของโภชนาการไว้อย่างครบถ้วน ทั้งวิตามิน แคลเซียมและฟอสฟอรัส

2. น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายขาวเป็นน้ำตาลที่ได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายแดง แต่ทำมาเพิ่มมูลค่าให้ด้วยการตกผลึกให้เป็นเม็ดละเอียด นอกจากนั้นยังผ่านกระบวนการฟอกสีเผื่อให้ได้สีขาวบริสุทธิ์

ถึงแม้ว่าทั้งน้ำตาลทรายขาวและทรายแดงจะให้พลังงานในปริมาณที่เท่าๆ กัน กล่าวคือ 1 ช้อนชา เท่ากับ 15 กิโลแคลอรี แต่หากเทียบคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ควรเลือกรับประทานน้ำตาลทรายแดงดีกว่า เพราะยังคงสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน หากเทียบกับน้ำตาลทรายขาวที่คุณค่าลดลงจากกระบวนการตกผลึกและขัดสี

3. น้ำตาลเทียม ประเภทสุดท้ายของน้ำตาลสำเร็จรูปที่คนยุคใหม่นิยมรับประทาน น้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนี้ นิยมบริโภคในหมู่คนรักสุขภาพ ที่รู้จักกันดีคือ แซคคาริน แอสปาเทมและ ซูคาโลส ซึ่งได้จากการสังเคราะห์ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ น้ำตาลเทียมเหล่านี้ให้ความหวานแทนน้ำตาลทั่วไปถึง 200 เท่า แต่กลับให้พลังงานน้อย จึงไม่น่าแปลกใจที่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะหันมาใช้น้ำตาลเทียมในการกระบวนการผลิตมากขึ้น

5 คุณประโยชน์ของน้ำตาล ที่คุณอาจไม่เคยรู้

1. ประโยชน์ของน้ำตาลลดความเครียด เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินวลีที่ว่า ‘เครียดก็ไปกินของหวาน’ แน่นอนว่าน้ำตาลเป็นสารให้พลังงานที่ดีอีกชนิดหนึ่ง เมื่อรับประทานเข้าไปจะช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขหรือเอนโดฟินออกมา ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

2. ประโยชน์ของน้ำตาลใช้ทำ scrub เพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก น้ำตาลทรายถือเป็นวัตถุดิบหลักในการทำสครับแบบ hand made โดยเฉพาะสูตรที่ผสมกับน้ำผึ้งที่เรียกได้ว่าเป็นสูตรที่บอกกันมาปากต่อปาก โดยสามารถนำมาสครับริมฝีปากเพื่อเพิ่มความนุ่มชุ่มชื่นและลดอาการหมองคล้ำ นอกจากนั้นยังสามารถนำมาสครับบริเวณอื่น ไม่ว่าจะเป็นรักแร้ ตาตุ่มหรือบริเวณที่แห้งกร้าน

3. ประโยชน์ของน้ำตาลใช้ถนอมอาหาร น้ำตาลเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการถนอมอาหารมาทุกยุคทุกสมัย ส่วนใหญ่มักใช้กับการแปรรูปผลไม้ที่มีรสหวาน โดยที่เห็นกันได้บ่อยๆ คือการแช่อิ่ม การเคลือบหรือฉาบ เช่นกล้วยฉาบ เผือกฉาบ เพียงแค่ต้มน้ำตาลกับน้ำเปล่าให้มีความข้นพอสมควร จากนั้นนำมาทาเคลือบไว้ก็สามารถเก็บผลไม้ไว้รับประทานได้นานขึ้นแล้ว นอกจากนั้นน้ำตาลทรายยังถูกนำมาใช้เป็นสารดูดซับความชื้นในกล่องขนม เช่นคุกกี้ โดยจะมีการโรยน้ำตาลลงไปก่อนแล้วค่อยวางคุกกี้ตามลงไป ทั้งนี้เพื่อคงความกรอบของคุกกี้ให้ดูสดใหม่ตลอดเวลา

4. ประโยชน์ของน้ำตาลเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำตาลเป็นหนึ่งในสารที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์อีกหนึ่งชนิด ไม่ว่าจะในกระบวนการเผาผลาญหรือกระบวนการขับของเสีย ล้วนต้องอาศัยพลังงานจากน้ำตาลแทบทั้งสิ้น นอกจากนั้นนมแม่ที่ผลิตขึ้นเพื่อทารกที่เกิดใหม่ก็ยังมีส่วนผสมของ ‘แลคโตส’ ซึ่งก็เป็นน้ำตาลอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน

5. ประโยชน์ของน้ำตาลช่วยกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื้อภายในร่างกาย อวัยวะและเนื้อเยื้อต่างๆในร่างกายล้วนต้องการพลังงานจากน้ำตาลในรูป ‘กลูโคส’ โดยสมองต้องการกลูโคสประมาณวันละ 110-130 กรัม ยิ่งไปกว่านั้นน้ำตาลยังเป็นหนึ่งในอาหารของเม็ดเลือดแดงและไต หากเรางดรับประทานน้ำตาลไปเลยจะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำตาล ทำให้เม็ดเลือดแดงและไตทำงานผิดปกติ นอกจากนั้นยังอาจทำให้หน้ามืดและเป็นลมได้

จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของ ‘น้ำตาล’ เป็นสารที่ไม่เพียงให้ความหวานแก่เมนูอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย อย่างไรก็ตามแม้น้ำตาลจะเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ แต่หากรับประทานมากเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน ฟันผุหรือโรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือดและหลอดเลือด ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรบริโภคน้ำตาลแต่พอดี โดยในหนึ่งวันควรรับประมาณ 4 ช้อนชาหรือไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน ที่สำคัญควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และออกกำลังกายสม่ำเสมอควบคู่ เพียงเท่านี้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็จะอยู่กับคุณไปอีกนาน

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับประโยชน์ของอาหารเพื่อสุขภาพ