มหัศจรรย์ผักสีสด ช่วยบำบัด บำรุงสุขภาพ

อะโวคาโด ผลไม้แสนอร่อยจากดินแดนอเมริกาใต้ มีรสชาติมัน ๆ แต่กินแล้วไม่เลี่ยน นั่นเพราะเนื้ออะโวคาโดมีปริมาณไขมันสูงซึ่งเป็นไขมันดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังให้พลังงานสูงแต่มีน้ำตาลต่ำ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงสามารถกินได้อย่างปลอดภัย และถ้ากินเป็นประจำจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เพราะวิตามินบีในอะโวคาโดทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษด้วย

 มะเขือเทศมีสารแคโรทีนอยด์ซึ่งเป็นสารสีแดง และอุดมไปด้วยวิตามิน อาทิ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอและวิตามินซีมีในปริมาณสูง มีกรดมาลิกและกรดซิตริกซึ่งให้รสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีสารเบต้าแคโรทีนและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ฯลฯ รสชาติเปรี้ยวของมะเขือเทศจะช่วยดับกระหาย ทำให้เจริญอาหาร บำรุงและกระตุ้นกระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดี ช่วยขับพิษและสิ่งคั่งค้างในร่างกายเนื่องจากเป็นยาระบายอ่อน ๆ เหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคนิ่ว วัณโรค ไทฟอยด์ หูอักเสบ และเยื่อตาอักเสบ ให้กินผลสดจะลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากได้

พริกเม็ดโตสีสันสดใสนี้มีเบตาแคโรทีนสูง และมีวิตามินซี เหล็ก และโพแทสเซียม โดยพริกหวานสีเหลืองมีวิตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า ในพริกสีเขียว 100 กรัม มีวิตามินซี 100 กรัม นอกจากนี้ยังมีสารแคบไซซินช่วยยับยั้งสารอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคมะเร็ง

กะหล่ำปลีม่วงเป็นผักยอดฮิตสำหรับสลัด ซึ่งเป็นพืชที่มีกากใยอาหารสูงและอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารหลายชนิด อาทิ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม และวิตามินซีที่พบว่ามีมากกว่ากะหล่ำปลีเขียวถึง 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีสารซัลเฟอร์ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ และต้านสารก่อมะเร็งที่เข้าสู่ร่างกาย

ถ้าจะกินผัดผักก็ต้องยกให้บรอกโคลีเป็นที่หนึ่ง เพราะมีรสชาติไม่ขม กรอบ อร่อย ที่สำคัญสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่าเป็นพืชที่ช่วยต่อต้านมะเร็ง เพราะประกอบด้วยวิตามินเอ แคลเซียม ไรโบฟลาบิน หรือวิตามินบี 2 นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง หากกินเป็นประจำจะช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่นได้ง่าย ป้องกันการเกิดต้อกระจกเนื่องจากมีสารเบตาแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสารลูทีนที่สามารถป้องกันความเสื่อมของดวงตา