เคล็ด(ไม่)ลับ เคล็ดลับสุขภาพ April 4, 2017 Share 1 Tweet Pin 0 วิธีแก้ส้นเท้าแตก...แบบเคล็ด(ไม่)ลับ ในทุกๆ วันเราทุกคนตื่นขึ้นมาก็ดูแลร่างกายเกือบทุกส่วน แต่คงยกเว้นที่ "เท้า" ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดและบำรุงผิวพรรณบริเวณนั้นให้เนียนนุ่มน่าสัมผัสก็ตาม จนกระทั่งนานวันเข้าก็เกิดอาการของส้นเท้าแตก ปัญหานี้คนทุกเพศทุกวัยสามารถเป็นกันได้ บางคนเป็นแล้วดูแลรักษาจนหาย ทว่าสุดท้ายพอปล่อยปละละเลยก็กลับมาเป็นอีก ส่วนบางคนพยายามแก้ไขอย่างไรก็ไม่หายสักที สร้างความปวดหัวทำให้รำคาญใจเพราะไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี? สาเหตุสำคัญของ "ปัญหาส้นเท้าแตก"ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันให้ดีๆ ว่า "เท้า" ประกอบด้วยหนังแท้และหนังกำพร้าซึ่งแต่ละคนมีสภาพผิวไม่เหมือนกัน บางคนผิวหนังเท้าหนาหรือผิวบาง คนนั้นอาจมีผิวของหนังเท้าแห้ง แต่คนนี้มีผิวหนังเท้าที่ชุ่มชื้นแม้ไม่ได้บำรุงผิวเท้าเลย อย่างไรก็ดี เท้าเป็นอวัยวะที่ต้องทำงานทั้งวันและทุกวัน ปัญหาส้นเท้าแตกจึงเกิดได้กับทุกคนตลอดเวลา โดยเฉพาะหากแต่ละวันเราใช้เท้าไปในแนวทางที่สุ่มเสี่ยงกับการจะทำให้เกิดอาการส้นเท้าแตกดังต่อไปนี้ชอบใส่รองเท้าแตะ รองเท้าเปิดส้น รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ ซึ่งอาจมีคุณภาพไม่ดี มีพื้นรองเท้าแข็งมากอยู่บ้านก็ไม่ใส่รองเท้าทั้งในบ้านและนอกบ้าน ทำให้เท้าต้องสัมผัสกับความร้อน ความเย็น และฝุ่นบนพื้นบ่อยๆใส่รองเท้าที่คับหรือหลวมเกินไป ไม่พอดีกับเท้าของตัวเอง นานวันส้นเท้าจะเริ่มหนาและแตกผิวบริเวณรอบเท้าสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นจากสาเหตุ เช่น อากาศเย็นทำให้ผิวแห้งและแตกได้ ฯลฯมีน้ำหนักตัวมากซึ่งมีผลทำให้ส้นเท้าแตกเช่นกัน เพราะเท้าต้องรับน้ำหนักมากขึ้นการเดินและยืนเป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง ซึ่งจะทำให้น้ำหนักตัวทั้งหมดถูกถ่ายเทไปที่เท้าเพราะพันธุกรรมหรือป่วยเป็นโรค อาทิ โรคเบาหวาน หรือร่างกายมีความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เป็นโรคผิวหนังบางชนิดที่ทำให้ผิวแห้ง ขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดเมื่อประกอบกับการไม่ดูแลเอาใจใส่เท้าส่งผลให้ผิวหนังเท้ายิ่งขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้เกิดปัญหาส้นเท้าแตก เท้าแห้ง เป็นตุ่มแข็ง เป็นตาปลาหรือไตบ้างล่ะ แล้วถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ดูแลรักษาส้นเท้าแตก ฝ่าเท้าก็จะเริ่มหนาขึ้นและมีอาการบวมแดง หนังกำพร้าเกิดรอยแตกเล็กๆ เป็นร่องลึกซึ่งอาจถึงขั้นมีรอยเลือดซึมให้เห็น เวลาเดินจะรู้สึกแสบและเจ็บเป็นอย่างมาก แถมยังอาจมีแบคทีเรียเข้าไปสะสมส่งผลร้ายให้เกิดเชื้อราได้รวมเด็ดกลเม็ด...วิธีแก้ส้นเท้าแตกแล้วถ้าปัจจุบันเรากำลังเจอกับปัญหาส้นเท้าแตกอยู่ล่ะ จะมีหนทางไหนที่สามารถช่วยป้องกันและรักษาส้นเท้าแตกกันบ้างไหม...1. ทุกครั้งขณะอาบน้ำให้ใช้สบู่ถูส้นเท้าร่วมกับหินขัดเท้าขัดเอาส่วนที่แข็งๆ ออกไปอย่างเบามือ เสร็จแล้วบำรุงผิวเท้าด้วยโลชั่น จัดเป็นวิธีแก้ส้นเท้าแตกที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเลย2. แช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาที จากนั้นใช้หินขัดเท้าขัดส้นเท้าเบาๆ เพื่อให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดออก เช็ดเท้าให้แห้ง ทาครีมบำรุงหรือแก้ส้นเท้าแตก ควรทำติดต่อกันทุกวัน 2-3 สัปดาห์3. ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงามาทาเท้าและนวดประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ต้องล้างออก ทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยรักษาอาการส้นเท้าแตกได้4. ก่อนนอนทุกคืนควรดูแลเท้าเป็นประจำโดยเฉพาะบริเวณส้นเท้า ด้วยการใช้โลชั่น ครีมทาส้นเท้าแตกหรือปิโตรเลียมเจล รอจนเท้าแห้งแล้วใส่ถุงเท้าเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่เป็นอย่างไรบ้างกับ วิธีแก้ส้นเท้าแตก แบบทำได้ด้วยตัวเองทั้ง 4 วิธี...แต่หากทำแล้วยังไม่ได้ผล หรือยุ่งยาก ใช้เวลานานเกินไปสำหรับคุณ...ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญาหาส้นเท้าแตกที่มีคุณภาพ เห็นผลจริง จากผู้ใช้จริง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว แต่...เอ จะเลือกใช้ครีมอะไรดี ยี่ห้ออะไรดี...เรามีผลิตภัณฑ์ดีๆ มาแนะนำค่ะAL MORUS FOOT CRACKED HEELS CREAM หนึ่งเดียวของวิธีแก้ส้นเท้าแตกและเท้าเหม็นสำหรับโลชั่นหรือครีมที่ใช้ทาตัวก็สามารถใช้ทาผิวหนังเท้าได้เช่นกัน แต่ควรเลือกประเภทที่มีความเข้มข้นมากๆ ส่วนครีมทาส้นเท้าแตกควรจะพิจารณาเลือกที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังเท้า พร้อมกับช่วยป้องกันส้นเท้าแตกได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ “Al Morus Foot Cracked Heels Cream (อัล มอรัส ฟุต แคร็ก ฮีล ครีม)” ครีมบำรุงผิวเท้าเพื่อช่วยฟื้นฟูส้นเท้าแตกและสามารถป้องกันโรคเท้าเหม็นได้ในหนึ่งเดียว ด้วยสูตรพิเศษจากเทคโนโลยีไมโครฟลูอิด - ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเท้าทันทีที่ใช้ และป้องกันการระเหยของน้ำในชั้นผิวได้นานถึง 24 ชั่วโมง- แม้ส้นเท้าแตกและแห้งเพียงใดจะช่วยสมานผิวให้เป็นเนื้อเดียวอย่างรวดเร็ว- จะกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่หนา แข็ง ให้หลุดออก และสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่นุ่มนวลแทน- สามารถป้องกันอาการอักเสบ ลดโอกาสติดเชื้อและอาการคันของผิวเท้าที่แห้ง แตก- ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของเท้าเหม็น ป้องกันโรคเท้าเหม็น วิธีการใช้ไม่ยุ่งยากเลย หลังการอาบน้ำทำความสะอาดผิวกายจนทั่วตั้งแต่ศีรษะจดเท้า เช็ดเท้าให้แห้งทาครีม Al Morus Foot Cracked Heels Cream ให้ทั่วเท้าและหนาพอประมาณ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควรใส่ถุงเท้าหลังจากทาครีมเพื่อการฟื้นฟูที่ดีและลดการสูญเสียน้ำ ดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย รวมทั้งหลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาส้นเท้าแตก เรียกว่า เป็นวิธีแก้ปัญหาส้นเท้าแตก และเท้าเหม็นในหลอดเดียว จบจริงๆ ได้รู้วิธีแก้ส้นเท้าแตก พร้อมผลิตภัณฑ์ดีๆ กันไปแล้ว หวังว่าทุกคนคงจะตระหนักกันแล้วว่า ปัญหาส้นเท้าแตกเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องหมั่นดูแลอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย เช็คราคา Al Morus Foot Cream lorem ipsum dolor บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดี "วิธีแก้อาการตกขาว" แบบดีเวอร์...เห็นผลจริง "กระเป๋าน้ำร้อนไฟฟ้า" ผู้ช่วยลดความเจ็บปวด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ Emerald Oil น้ำมันผสมที่ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ…ผู้ช่วย “อาหารทอด” ให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคมะเร็ง เสิร์ฟอาหารทอดรสอร่อย ไม่มีไขมัน ด้วย “หม้อทอดไร้น้ำมัน Philips รุ่น HD9220”