เคล็ดลับสุขภาพ เรื่องน่ารู้ January 7, 2017 Share 1 Tweet Pin 0 อันตรายจาก "การจัดฟันแฟชั่น" จัดเล่นๆ แต่ตายจริงๆ!! ได้ยินกันมาไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ เกี่ยวกับอันตรายของการจัดฟันแฟชั่น แต่ก็น่าแปลกที่ข่าวออกครึกโครมเกี่ยวกับอันตรายที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตแต่ก็ยังมีคนไปใช้บริการจัดฟันแฟชั่น แถมคลินิกเถื่อน ไม่สิต้องใช้คำว่าหมอกระเป๋า ยังมีกันสะพัด เรียกได้ว่าเสิร์ชในอากู๋คำว่า “จัดฟันแฟชั่น” ก็มีหลายเจ้าให้เลือกเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเรามาทำความเข้าใจกันดีกว่า ว่าจัดฟันแฟชั่นคืออะไร การจัดฟันแฟชั่นคืออะไร?การจัดฟันแฟชั่นก็คือ การติดเครื่องมือสำหรับจัดฟันไว้บนฟัน แต่ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรักษาโครงสร้างของฟัน มุ่งเน้นไปที่ความสวยงาม ตามกระแสนิยมเท่านั้นเองจัดฟันแฟชั่นต่างจากจัดฟันจริงๆ ยังไง?การจัดฟันแฟชั่นคือจัดเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่การจัดฟันจริงๆ คือการแก้ไขช่องปากให้สวยงาม เพื่อสุขอนามัยที่ดีของช่องปากทำไมคนถึงอยากจัดฟันแฟชั่น?1. ตามกระแส ต้องเรียกได้ว่าเป็นเพราะกระแสนิยมในบ้านเรา แต่สำหรับต่างประเทศแล้วไม่ได้มองว่าการจัดฟันเป็นแฟชั่น หรือกระแสนิยมที่ต้องทำตาม2. ราคาถูก การจัดฟันนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หลักหมื่นถึงแสน จึงทำให้คนแสวงหาการจัดฟันเลียนแบบ หรือเรียกว่าจัดฟันแฟชั่น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ซึ่งเริ่มต้นเพียง 500 บาทเท่านั้น จึงทำให้เกิดธุรกิจจัดฟันแฟชั่น หรือจัดฟันเถื่อนขึ้นมาสถานที่จัดฟันแฟชั่น1. โรงพยาบาลเอกชน รู้หรือไม่ว่าโรงพยาบาลเอกชนทุกๆ ที่ มีบริการรับจัดฟันแฟชั่นด้วยนะ ข้อดีหน่อย คืออาจจะไว้ใจได้ที่ทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าการจัดฟันแฟชั่นจากแหล่งอื่นๆ2. จัดฟันแฟชั่นในคลินิก การจัดฟันแฟชั่นในคลินิกถือว่าสะดวกมากที่สุด และไว้วางใจได้ในความเชี่ยวชาญและเครื่องไม้เครื่องมือ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าแหล่งอื่น ที่สำคัญไม่ใช่ว่าทุกคลิกนิกจะรับจัดแฟชั่นให้ เพราะถ้าหมอฟันประเมินสภาพช่องปากแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่ทำให้และไม่อยากให้เสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ3. จัดฟันแฟชั่นกับหมอกระเป๋า พูดง่ายๆ ว่าหมอเถื่อนนั่นเอง การจัดฟันแฟชั่นแบบนี้เป็นที่นิยมที่สุดเพราะมีราคาถูก แต่คุณภาพก็ขึ้นอยู่กับโชคว่าคุณจะรอด หรือจะร่วง ดังที่เป็นข่าวเกี่ยวกับอันตรายของการจัดฟันแฟชั่น ทำให้ต้องล้มป่วย เป็นโรคซึมเศร้า บางรายเกิดความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ต้องถอนฟันหมดปาก และร้ายที่สุดคือถึงแก่ชีวิตจากการติดเชื้ออันตรายจากการจัดฟันแฟชั่น1. เกิดแผลอักเสบในช่องปาก เลือดไหล อาจเกิดจากลวดทิ่มแทงเพราะความยาวไม่พอดีกับฟัน ไม่มีการตรวจเช็คดูแลจากหมอฟันอย่างใกล้ชิด2. สารอันตรายถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่มีมาตรฐาน เช่น เกิดการเจือปนสารปรอท เกิดสนิม ลูกปัดมีสารหนู สารตะกั่ว เป็นต้น3. เกิดการแพร่กระจายของโรคติดต่อหรือเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากผู้ทำไม่ได้ใส่ถุงมือ รวมถึงขั้นตอนในการทำไม่มีการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี การฝังเครื่องมือเข้าไปในช่องปากอาจไม่สะอาดพอ4. เกิดการอักเสบในช่องปาก หรือเหงือกบวม ฟันผุ ก็อาจทำให้เกิดการลุกลามติดเชื้อ เนื่องจากประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลดลง เพียงแค่เศษอาหารติดฟันนิดเดียวก็อาจก่อให้เกิดโรคในช่องปากได้5. ปวดฟัน เนื่องจากฟันเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม ยิ่งทำกับคนที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็ยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผิดรูป ส่งผลให้เกิดความร้ายแรงจนประเมินค่าไม่ได้6. เคลือบฟันบางลง ฟันผุง่ายขึ้น บางครั้งจะมีการกรอเอาเคลือบฟันออก ซึ่งเคลือบฟันนี้จะไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่7. การจัดฟันแฟชั่นอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว การใส่ลวดเส้นเล็กถ้าไม่แน่นหรือหลวมไปจะเกิดอันตรายอย่างมาก ยิ่งเวลาใส่นอนอาจทำให้หลุดลงคอ รวมถึงเวลารับประทานอาหาร เส้นลวดขนาดเล็กและลูกปัดอาจหลุดรวมกับอาหารลงลำคอได้ทั้งหมดนี้น่าจะเห็นถึงอันตรายของ "การจัดฟันแฟชั่น" แล้วใช่มั้ยล่ะคะ ก่อนจะทำการจัดฟันอยากให้ศึกษาให้ดีๆ เพราะการจัดฟันไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดในการถอน การใส่ยางขยายช่องฟัน การครอบวงแหวน นี่ยังไม่รวมการเปลี่ยนยางทุกเดือน ยิ่งตอนดึงเชนน้ำตาร่วงทุกที ตัวผู้เขียนเองก็เคยอยากจัดฟันแฟชั่นทั้งที่ฟันไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงไปขอหมอจัด แต่ไม่จบแค่นั้นเพราะจัดฟันจริงๆ มีการถอนฟันถึง 6 ซี่ หมดเงินไปเกือบแสนไม่แค่นั้นจัดครั้งแรกแล้วดูแลไม่ดี ฟันล้มต้องจัดใหม่ เท่ากับเสียเงินไปเกือบสองแสนแลกกับความเจ็บปวด ไหนใครว่าจัดฟันแล้วจะผอม หน้าเรียว ไม่จริงเลยค่ะ ยิ่งบอกว่าจัดฟันแล้วแบ๊วๆ น่ารัก นี่อยากเถียงเพราะจัดฟันแล้วกลายเป็นคนยิ้มแหยๆ ขาดความมั่นใจไปเลยทีเดียวบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่ความงาม ตอบข้อสงสัย…จัดฟันช่วยให้หน้าเรียวไหม? "โบท็อกหน้าเรียว"...กับคำถามที่สาวๆ อยากรู้ สารพัดวิธีทำให้หน้าเรียว ไม่พึ่งมีดหมอ ไม่ง้อโบท็อกซ์ "ทรานซามิน" รักษาฝ้า กระ เพิ่มความขาวใสได้จริงหรือ?