เปิดความลับ “นมวัวแดง” หนึ่งในอาชีพพระราชทานจากในหลวง ร.9

ในปี พ.ศ. 2503 เมื่อครั้งในหลวง ร.9 ของเรา และสมเด็จพระราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสประเทศเดนมาร์ค และทรงสนพระทัยในกิจการโคนมของชาวเดนมาร์ค นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ไทย – เดนมาร์ค จึงเป็นการริเริ่ม “ฟาร์มโคไทย – เดนมาร์ค” พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นว่า การประกอบอาชีพเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า ทั้งยังช่วยให้เกษตรกรไทยมีอาชีพที่มั่นคง ไม่ต้องบุกรุกพื้นที่ป่า ทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป

ต่อมาปี 2505 รัฐบาลเดนมาร์คและสมาคมเกษตรกรโคนมไทยเดนมาร์ค ได้น้อมเกล้าถวายโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมขึ้นที่ อ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี ก่อนจะโอนกิจการทั้งหมดให้กับรัฐบาลไทย และจัดตั้งเป็น “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)”

คนไทยไม่ดื่มนม ผลกำไรมีไม่มาก

ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน "นิเวศ ชาติยานนท์" หัวหน้าสำนักการตลาดองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค) เล่าให้เราฟังว่า การจำหน่ายนมไทย – เดนมาร์ค เมื่อ 50 ปีก่อนไม่ได้กำไรมาก เพราะยังไม่มีการทำการตลาดแบบเป็นเรื่องเป็นราว แถมประชาชนยังไม่รู้จักการดื่มนมเท่าที่ควร แต่ก็พยายามปลูกฝังสิ่งที่ดีให้กับประชาชน กระทั่งประชาชนเริ่มดื่มนมจากคนละ 5 ลิตร เป็น 10 ลิตร ต่อปี จุดเด่นของนม อ.ส.ค คือ เป็นนมโคจากเกษตรกรแท้ ไม่มีนมผงผสม และมีส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้น จึงเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศต่อๆ ไป

โลโก้ “นมวัวแดง”

"นมวัวแดง" คุณภาพต้องได้มาตรฐาน

ขึ้นชื่อว่า "โครงการหลวง" แล้วคุณภาพต้องเป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารายได้ของเกษตรกร การผลิตนมยูเอชที ของฟาร์มไทย-เดนมาร์ค นั้น เป็นการผลิตที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานโดยนมยูเอชที คือนมที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่อุณหภูมิเกิน 133 องศาเซลเซียส ไม่น้อยกว่า 1 วินาที อุณหภูมิเท่านี้สามารถฆ่าเชื้อทำลายแบคทีเรียได้ทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนการผลิตเริ่มจากรับน้ำนมดิบเข้ามา ทำการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน และเข้าสู่กระบวนการผลิตของฟาร์ม สุดท้ายฆ่าเชื้อด้วยความร้อนแบบยูเอชที ก่อนไปบรรจุในกล่องภายใต้สภาวะปลอดเชื้อ

ที่มา: https://m.manager.co.th/Food/detail/9590000107674

https://oknation.nationtv.tv/blog/countrygirl/2011/10/03/entry-1

https://www.moac.go.th/ewt_news.php?nid=13468

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับประโยชน์ของนม