free web tracker, fire_lady เลือกกินดี ให้สมวัย ห่างไกลโรค • สุขภาพดี

เลือกกินดี ให้สมวัย ห่างไกลโรค

นอกจากการยึดหลักการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เแล้ว เราควรคำนึงถึงการจัดสรรสัดส่วนของอาหารแต่ละประเภทให้เหมาะสมตามวัย หรือช่วงอายุด้วย เพราะกระบวนการทำงานในร่างกายและการเผาผลาญแคลอรีของแต่ละช่วงอายุ มีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน ดังนั้นอาหารที่มีประโยชน์บางอย่างอาจจะไม่เป็นผลดีต่อคนบางกลุ่ม ด้วยสาเหตุที่กล่าวนี้นักโภชนาการจึงช่วยจำแนกพฤติกรรมตามกลุ่มอายุ และให้คำแนะนำอาหารที่เหมาะสมกับแต่ละวัย ว่าควรหรือไม่ควรทานอะไร เพื่อช่วยเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากการกินอาหารในแต่ละมื้อ โดยมั่นใจว่าได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และเหมาะสมกับร่างกาย

20+ วัยด่วน คึกคะนอง


สำหรับวัยหนุ่มสาววัย 20+ ที่มักเป็นเด็กจบใหม่ หรือเพิ่งเริ่มต้นทำงาน มีไฟแรง ทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดการยอมรับในความสามารถ เป็นกลุ่มที่รักการพบปะสังสรรค์ มีเพื่อนฝูงมาก จนทำให้มองข้ามเรื่องของการดูแลสุขภาพ ปัญหาหลักที่พบมาก คือเรื่องของเวลา ที่บรรดาวัยโจ๋มักต้องตื่นเช้าไปเรียนหรือทำงาน จนละเลยอาหารเช้า ส่วนเย็นย่ำก็ฮัมเพลงไปตามสถานบันเทิงต่างๆ นอนดึก ตื่นอีกทีก็เกือบเข้างาน ดังนั้น การรับประทานอาหารในแต่ละมื้อจึงไม่ค่อยเป็นเวลา และไม่ได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่

นอกจากนี้ เมนูเด็ดของวัย 20+ ก็คือบรรดาฟาสต์ฟูดจานด่วน ซึ่งเต็มไปด้วยโปรตีน ไขมัน และเกลือ ที่ชวนให้สะสมของเสียในร่างกาย ซึ่งวัยนี้นี่เองที่เป็นบ่อเกิดของโรคภัยต่างๆ ให้แก่ช่วงวัยถัดไป การกินตามสไตล์วัยคะนอง ที่ไม่เน้นเรื่องเวลาและความมีประโยชน์ ได้ส่งผลให้หลายคนมีปัญหาเรื่องน้ำหนักและโรคกระเพาะ ดังนั้นสิ่งที่คนวัยนี้ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ เวลาในการรับประทานอาหาร และสิ่งที่ควรได้รับเพิ่มก็คือ ผักและผลไม้ ตามสัดส่วนที่พอเหมาะเพื่อป้องกันโรคที่จะเกิดกับทางเดินอาหาร

นักโภชนาการแนะนำว่า

นักโภชนาการได้แนะนำให้กลุ่มคนหนุ่มสาววัย 20-29 ปี เน้นทานผักใบเขียว ไม่ว่าจะเป็น คะน้า ผักโขม หรือหน่อไม้ฝรั่ง โดยในแต่ละวันควรทานผักและผลไม้ให้มากถึง 4-6 ทัพพี และควรดื่มนมไม่ต่ำกว่า 1-2 แก้ว เพื่อเสริมสร้างนิสัยการบริโภคที่ดี เพราะถ้าไม่ดูแลเสียตั้งแต่วันนี้อีกสัก 20 ปีข้างหน้า ผลจากการปาร์ตี้หนัก อาหารฟาสต์ฟูด และทานไม่เป็นเวลา จะก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ

30+ วัยสร้างครอบครัว


สำหรับผู้คนในวัยนี้ จะมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี เพราะหลายคนเริ่มสร้างครอบครัว ส่วนผู้หญิงก็จะต้องเลี้ยงลูก ซึ่งทำให้เริ่มหันมาดูแลสุขภาพ จากวัยรุ่นขาเที่ยว เน้นดื่ม กินอาหารไม่เป็นเวลา ก็เริ่มออกกำลังกาย และใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

นักโภชนาการแนะนำว่า

สำหรับอาหารที่คนวับ 30+ ควรเลือกทานก็คือ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพราะการเผาผลาญของร่างกายของคนวัยนี้เริ่มลดน้อยลง โดยต้องเลี่ยงผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ เช่น ไส้กรอก กุนเชียง และเบคอน เพราะจะทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายได้ง่าย

ทั้งนี้ให้เน้นรับประทานผักเพิ่มมากขึ้น ส่วนผลไม้ให้บริโภคแต่พอเหมาะ และห้ามทานผลไม้รสหวานจัด เพราะวัยนี้ต้องคำนึงถึงน้ำหนักตัวเป็นอันดับแรก ที่สำคัญคุณยังต้องควบคุมเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลงกว่าสมัยวัยคะนอง

นอกจากนี้ น้ำนม ก็ยังคงสำคัญอยู่ แต่จะแนะนำให้ดื่ม นมพร่องมันเนย หรือนมไขมันต่ำจะดีที่สุด

40+ วัยโรคภัยถามหา


ผู้คนในวัยนี้ ส่วนใหญ่เริ่มตั้งตัวกันได้แล้ว มีฐานะการงานที่มั่นคง จากต้องเดินตรวจงานเป็นหน้าที่หลักก็เปลี่ยนมาเข้าประชุมและกินเบรคแทน ซึ่งทำให้ก๊วน 40+ มีกิจกรรมน้อยลง ขณะเดียวกันปัญหาด้านสุขภาพก็เริ่มมาเยือนเป็นครั้งคราว ในบางรายอาจตรวจเจอโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ

นักโภชนาการแนะนำว่า

สำหรับหลักในการเลือกรับประทานของคนวัยนี้ ต้องเน้นที่การกินอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย โดยต้องโฟกัสเรื่องของรสชาติอาหาร

ลดกินเค็ม ถ้าคุณเริ่มเข้าสู่เลข 4 แล้ว ขอบอกเลยว่า อาหารรสเค็มควรอยู่ให้ไกลโดยเฉพาะสารพัดอาหารสำเร็จรูปที่แสนสะดวกสบาย และของดอง ซึ่งมีส่วนผสมของเกลืออยู่ในปริมาณที่สูง เนื่องจากเจ้าโซเดียมเค็มปี๋นี่แหละที่จะพาโรคไต ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ โรคหัวใจ อาการบวม และหัวใจวาย มาเยี่ยมหน้าบ้านหลังจากอายุมากขึ้น

นอกจากนี้คุณยังต้องเลี่ยงอาหารธรรมชาติบางอย่าง เช่น อาหารทะเล อย่างปลาหมึก และหอยนางรม ไปจนถึงอาหารบางประเภทที่ไม่มีรสเค็ม เช่น มายองเนส หรือ นมผงสำหรับทารก เพราะยังคงมีโซเดียมผสมอยู่มาก

ลดกินหวาน ในวัย 40+ เครื่องดื่มหลักที่คนวัยนี้มักเติมกันไม่พร่อง คงหนีไม่พ้นกาแฟเย็น ที่มีทั้งนมข้นและน้ำตาลอัดเต็มพิกัด ซึ่งของหวานๆ นี่เอง ที่เป็นต้นเหตุใหญ่ของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง หัวใจขาดเลือด เส้นโลหิตในสมองแตก ดังนั้นอาหารที่มีรสหวานเลี่ยงได้จะดีที่สุด

นอกจากควบคุมเรื่องของรสชาติอาหารแล้ว คนวัย 40-49 ปี ก็ต้องคอยเสริมการทานปลา เต้าหู้ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ส่วนผักให้ทานจำพวกที่เคี้ยวง่าย เช่น ผักกาดขาว บวบ แตงโมอ่อน และกระเจี๊ยบ เพราะสุขภาพฟันของคนวัยนี้เริ่มเสื่อมลง หากทานผักเคี้ยวยากก็อาจทำให้การย่อยไม่สะดวก

50+ วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย


เมื่อเดินทางมาถึงเลข 5 แล้ว รุ่นดึกส่วนใหญ่มักป่วยเป็นโรคเรื้อรัง ดังนั้นการเลือกรับประทาน จึงต้องมุ่งเน้นไปที่การเลือกอาหารให้เหมาะสมกับโรคในแต่ละบุคคล

สำหรับหลักการเลือกรับประทานในวัย 50+ ก็จะเหมือนกับช่วง 40+ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องระมัดระวังไม่ให้ท้องผูก เพราะหลายคนต้องพึ่งฟันปลอมกันเล้ว ซึ่งผักผลไม้ที่เคยกรอบเหนียวเคี้ยวง่าย จะกลายเป็นสิ่งที่ผู้สูงวัยขอบาย จนในที่สุดก็ต้องท้องผูก

นักโภชนาการแนะนำว่า

อาหารที่ผู้สูงอายุควรทาน ต้องเป็นกลุ่มที่ป้องกันภาวะท้องผูก ซึ่งมีดังนี้

1 อาหารกากใยสูง เช่น ข้าวกล้อง ผลไม้ ผักใบที่เคี้ยวได้ง่าย

2 แหล่งโปรตีนคุณภาพ ให้เลือกโปรตีนที่ได้จาก ปลา ไข่ขาว และถั่วเหลือง ส่วนพวกเนื้อหมูและเนื้อไก่ สามารถทานได้ แต่ในประมาณที่เหมาะสม คือมื้อละ 2-3 ช้อนโต๊ะ

3 น้ำดื่ม ต้องดื่มให้ได้อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน

ตอนนี้ก็รู้แล้วใช่ใหมคะว่าคุณควรทานอาหารประเภทไหน...อย่าลืมนำไปทำตาม เพื่อสุขภาพดีของตัวคุณเองนะคะ....

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี

Click here to add a comment

Leave a comment: