“เวชสำอาง” ต่างจาก “เครื่องสำอาง” อย่างไร? อย่าเพิ่งเสียเงิน ถ้าคุณยังไม่รู้!!

ความสวยความงามเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสาวๆ ทุกคน แต่อย่าเพิ่งเสียเงินซื้อ ถ้าคุณยังไม่ได้อ่านบทความนี้จนจบ และยังไม่พบคำตอบว่าเวชสำอางต่างจากเครื่องสำอางอย่างไร? และอะไรที่ดีกว่ากัน...

ความหมายของเครื่องสำอาง และ เวชสำอาง

เครื่องสำอาง (cosmetic) หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายมนุษย์ ส่วนภายนอกร่างกาย ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ หรือกระทำการใดๆ เพื่อจุดประสงค์ในการรักษาความสะอาด และเพื่อส่งเสริมความงาม รวมถึงเครื่องประทินผิวต่างๆ ด้วย

เวชสำอาง (Cosmeticeutical) หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติระหว่างยา และเครื่องสำอาง คือ ที่ออกฤทธิ์หรือมีผลเมื่อใช้แล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ผิว เวชสำอางไม่เน้นความงามมาก แต่จะเน้นประสิทธิภาพ โดยสารออกฤทธิ์ผสมอยู่ในปริมาณที่เหมาะ พอที่จะกระตุ้นการทำงายของผิว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เช่น ต่อต้านริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่างใส และกันแดด เป็นต้น

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเวชสำอางและเครื่องสำอาง

ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย

เครื่องสำอาง: ทำหน้าที่เหมือนมอยเจอร์ไรเซอร์ คือ เติมเต็มน้ำหล่อเลี้ยงผิวชั้นนอก ทำให้เต่งตึง แต่ไม่มีผลในการช่วยปรับโครงสร้างผิวในการกักเก็บน้ำหล่อเลี้ยงผิว เมื่อน้ำระเหยหมดก็ทำให้ผิวแห้งเหมือนเดิม

เวชสำอาง : ครีมประเภทนี้นอกจากให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังสามารถปรับโครงสร้างผิวให้มีการสร้างสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิว และกลไกลการเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ เมื่อใช้เป็นประจำจะเต่งตึง ริ้วรอยจางลง แม้เลิกใช้ผิวก็ยังทรงสภาพได้จนกว่าเซลล์จะเริ่มเสื่อมลงจากปัจจัยต่างๆ

ผลิตภัณฑ์กันแดด-ครีมกันแดด

เครื่องสำอาง : ครีมกันแดดประเภทนี้มองดูเหมือนครีมกันแดด มีลักษณะที่เคลือบผิว ให้ผลทางด้านปกปิดหรือนวลเนียนขึ้น แต่ไม่มีสารป้องกันยูวีผสมอยู่ ไม่มีค่า SPF เมื่อใช้เป็นประจำจะทำให้ผิวเหี่ยว เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมือนกับไม่ได้ทาครีมกันแดดเลย

เวชสำอาง :ครีมประเภทนี้จะช่วยป้องกันแสงแดดได้อย่างแท้จริง เมื่อใช้เป็นประจำจะป้องกัน ฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างแท้จริง

ผลิตภัณฑ์ประเภทให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

เครื่องสำอาง : ครีมประเภทนี้จะมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวแห้งเกิดความชุ่มชื่นได้ชั่วคราว ไม่นานจะระเหยไป และต้องทาใหม่อีกครั้งเพื่อความชุ่มชื่น แต่ไม่มีผลต่อการปรับโครงสร้างของผิวโดยตรง

เวชสำอาง : ครีมบำรุงผิวประเภทนี้จะมีส่วนผสมที่ช่วยปรับโครงสร้างเซลล์ผิว ให้สามารถเก็บน้ำหล่อเลี้ยงผิวได้ดียิ่งขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำสามารถทำให้ผิวชุ่มชื้นได้จริงโดยธรรมชาติ เมื่อเลิกใช้ผิวก็ยังคงความชุ่มชื้นจนกว่าผิวบริเวณนั้นจะเสื่อมลงตามธรรมชาติ ถึงจะทำให้สูญเสียความชุ่มชื่นอีกครั้ง

นี่เป็นแค่บางส่วนที่แสดงให้เห็นว่าเวชสำอางแตกต่างจากเครื่องสำอางอย่างไร ปัจจุบันเครื่องสำอางหลายยี่ห้อพยายามเลียนแบบให้คุณสมบัติของเครื่องสำอางได้ผลเหมือนเวชสำอาง โดยการใส่สารอันตรายเข้าไป เช่น สารปรอท เพื่อทำไห้ผิวขาวใส หรือใส่สเตียรอยด์ที่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์เท่านั้น เพื่อทำให้หน้าเรียบ เนียน ลดอาการแพ้ สารทั้งสองตัวนี้แสดงผลต่อผิวในระยะเวลาอันสั้นอย่างน่าพอใจ แต่กลับทำร้ายเซลล์ผิวในระยะยาว ทำให้โครงสร้างเซลล์เสียอย่างมาก และต้องใช้เวลาฟื้นฟูในระยะหนึ่ง ซึ่งเวชสำอางสามารถฟื้นฟูโครงสร้างเซลล์ที่เสียหายให้กลับคืนมาปกติได้

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิวที่เราอาจมองเห็นชัดเจน

- มีขุยเกิดขึ้น หน้าแห้งเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่แสบร้อนผิว

- ในรายที่เป็นสิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิวอุดตันที่ฝังตัวอยู่ในผิว อาจจะผุดออกมา จึงมองเห็นว่าสิวเห่อ

อาการเหล่านี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการซ่อมแซมผิว เพราะปกติแล้วผิวจะสร้างเซลล์ใหม่อยู่ตลอดเวลา และหลุดร่อนเป็นขี้ไคล ระยะเวลาที่ซ่อมแซมผิวนั้นขึ้นอยู่กับความลึก ของระดับความเสียภายในชั้นเซลล์ แต่โดยทั่วไปเวชสำอางที่มีคุณภาพจะใช้เวลาอย่างมากสุด 3 สัปดาห์ แต่ถ้าเกิน 1-2 เดือนไปแล้วผิวยังไม่ดีขึ้นให้คิดไว้ว่า อาจไม่ใช่เวชสำอางที่รักษาสิวคุณได้ แต่อาจเกิดจากการระคายเคืองของเครื่องสำอางที่มีต่อผิว ฉะนั้นควรให้เวลา 14 วัน ในการเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพราะวงจรการผลัดเซลล์อยู่ที่ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าคุณมีวิถีดำเนินชีวิตที่ขัดต่อการดูแลผิวที่ดี ก็อาจจะทำให้วงจรผลัดเซลล์ผิวยาวนานขึ้น ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ ไม่เรียบ และดูมีอายุได้

สรุป เหตุผลที่ควรใช้เวชสำอาง

- ได้ผลดีกว่า

- ช่วยปรับโครงสร้างผิว

- ใช้แล้วเห็นผลเร็วและชัดเจน

- ไม่เป็นอันตรายต่อผิว

ได้บทสรุป เวชสำอางแตกต่างจากเครื่องสำอางอย่างไรแล้ว เห็นทีคงรู้แล้วสินจะว่าซื้อครีมหลอดต่อไป จะเลือกแบบไหน ระหว่าง เวชสำอาง และเครื่องสำอางทั่วไป

ที่มา: https://seraseraclub.blogspot.com/2013/02/blog-post.html

https://hilight.kapook.com/view/121110

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้...คู่สุขภาพดี