October 8, 2016

ไดเอ็ทแทบตาย!! แต่ผลไม้ที่กินแล้วอ้วนนี่แหละ ต้นเหตุชัดๆ

หลายๆ คนที่อยากลดความอ้วนคงจะพุ่งเป้าไปที่ผักผลไม้แทนการกินแป้งใช่มั้ยล่ะ แต่รู้หรือไม่ว่าผลไม้ถ้ากินไม่ดีแทนที่จะผอมกลับตุ้ยนุ้ยแบบไม่รู้ตัวนะจ๊ะ ถึงแม้ว่าผลไม้จะอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย แต่ก็มีน้ำตาลและแคลอรีปริมาณไม่น้อย โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสหวาน ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน ถ้าใครไม่เชื่อต้องลองมาดูตามนี้ แล้วจะเก็ตไปเอง

กินแต่ผลไม้...อ้วนได้ยังไง

หลายๆ คนเลือกที่จะรับประทานผลไม้จืด หรือเปรี้ยวแทนอาหาร 1 มื้อ เช่น กล้วย ฝรั่ง สับปะรด หรือแอปเปิล แต่เดี๋ยวก่อนนั่นคุณกำลังเข้าใจผิดหรือเปล่า เพราะผลไม้บางชนิดนั้นให้น้ำตาลค่อนข้างมาก และถ้าน้ำตาลมากไปก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย โรคอ้วนจึงถามหาเอาง่ายๆ ยังไงล่ะ....เปรียบเทียบง่ายๆ โดยปกติทานมะม่วงสุก 3 ลูกจะให้พลังงานเทียบเท่ากับข้าวขาหมู 1 จาน ต่อให้เปลี่ยนจากข้าวขาหมูมาเป็นมะม่วงก็เถอะ เทียบเท่ากับกินแป้งอยู่ดี แล้วอย่างนี้จะไม่อ้วนได้ไง ว่าป่าว!!

ดื่มน้ำผลไม้คั้นสด อ้วนมั้ย?

บางคนเข้าใจว่ากินผลไม้ไม่มีทางอ้วนแน่นอน โดยเฉพาะผลไม้คั้นสดๆ ยิ่งได้ประโยชน์เต็มๆ แต่เดี๋ยวก่อน ลองจินตนาการดูสิถ้าเติมน้ำเชื่อมลงไป แล้วเราจะได้กินอะไรกันแน่ น้ำตาลชัดๆ ถ้าดื่มน้ำผลไม้แต่ไม่เบิร์นแคลอรีออกไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะจ๊ะ นอกจากจะได้พี่ไขมันมาสะสมไว้ตามส่วนนั้น ส่วนนี้ ของร่างกายเปล่าๆ

ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน นี่แหละตัวการเห็นๆ

ผลไม้บางชนิดมีทั้งน้ำตาลและแคลอรีปริมาณที่สูง ทำให้ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการไดเอ็ท เมื่อรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานมากๆ ก็กลายเป็นการสะสมน้ำตาลโดยไม่รู้ตัว คงไม่ต้องให้อธิบายนะว่า น้ำตาลส่งผลต่อพุงหลามๆ ของคุณอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าใครที่อยากโซ้ยผลไม้แทนข้าวในมื้อเย็น หรือเป็นอาหารว่างมารู้จักผลไม้ที่กินแล้วอ้วน ผลไม้ที่ควรงดเหล่านี้กันดีกว่า รับรองได้ว่าไดเอ็ทไม่สูญเปล่า

14 ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน...ไดเอทไงก็ไม่ได้ผล

1. ทุเรียน (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีรสอร่อยมาก หวาน มัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำหนักถึงเพิ่มขึ้นพร่วดๆ ก็เพราะกินแล้วมันหยุดไม่ได้ ดังนั้นทุเรียนจึงไม่เหมาะกับสาวกไดเอ็ทด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวง ถ้าไม่อยากเพิ่มไขมันหน้าท้อง

2. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) เนื่องจากในมะม่วงสุกมีรสชาติหวานมาก ใครที่กำลังลดความอ้วนควรหลีกเลี่ยงด่วน

3. น้อยหน่า (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน )แต่แคลลอรีไม่น้อยตามชื่อ เพราะน้อยหน่ามีรสหวาน มัน กินบ่อยๆ ก็ทำให้อ้วนได้ไม่ยากเลย จริงมั้ย

4. ลำไย (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ผลไม้ลูกเล็กๆ ที่มีรสหวานเจี๊ยบ มีปริมาณน้ำตาลในลำไยสูงมาก แถมกินแล้วยังเป็นร้อนใน เป็นแผลในปากอีกด้วย ใครที่เข้าคอร์สไดเอ็ทอยู่ล่ะก็ ให้หลีกเลี่ยงโดยด่วน นานๆ ทีกินได้แค่เล็กน้อย

5. ขนุน (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ขนุนเป็นผลไม้เนื้อเหลือง สวย รสชาติหวาน ไม่ต้องถามหาน้ำตาลว่าจะมีมากแค่ไหน ยิ่งหอมหวานนุ่มลิ้น น้ำตาลก็ยิ่งทวีคูณตามไปด้วย กินเยอะๆ น้ำหนักขึ้นแน่นอน ฟังธง

6. กล้วยไข่ (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) กล้วยไข่ผลเล็กๆ แต่แคลอรีไม่เล็กตาม แม้จะมีรสชาติ หอม หวาน อร่อย แต่กินแล้วอ้วนง่ายนะจ๊ะ ยิ่งหวานมากก็ยิ่งน้ำหนักเพิ่มมากเช่นกัน คราวต่อไปต้องเพลาๆ ลงหน่อยนะ

7. กล้วยหอม (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) นี่ก็ใช่ย่อย กล้วยหอมลูกโตๆ ทำให้อ้วนขึ้นเป็น 2 เท่าของกล้วยไข่เลยนะ ถ้าอยากกินก็ควรแบ่งเป็นชิ้นเล็ก แค่พอหายอยากก็พอ

8. เนื้อมะพร้าว (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) เนื้อมะพร้าวมีรสชาติหวาน มัน และนั่นยิ่งทำให้อ้วนได้ง่าย ความมันในเนื้อหอมๆ นั่นแหละไขมันดีๆ นี่เอง

9. เงาะ (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) เพราะว่าเงาะอร่อยที่ความหวาน หอม นี่แหละ และมันก็อุดมไปด้วยน้ำตาล ยิ่งกินนานๆ น้ำหนักเพิ่มแน่นอน

10. ส้มโอ (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ไม่อยากเชื่อเลยใช่มั้ยล่ะว่า ส้มโอจะทำให้อ้วนได้ ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าส้มแต่ก็มีรสชาติหวาน ซึ่งมีน้ำตาลสูง ได้ยินแบบนี้แล้วความอ้วนจะไปไหนเสีย ถ้าอยากได้เอ็ทก็ต้องกินให้เป็น อย่าฟาดเรียบเป็นลูกๆ

11. มะขามหวาน (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่ามะขามหวานแค่ 1 ขีด แบบไม่รวมน้ำหนักเปลือกกับเม็ด แต่ให้พลังงานถึง 333 กิโลแคลลอรี เลยทีเดียว แล้วลองจินตนาการดูสิว่าถ้ากิน 1 กิโลกรัม จะงามไส้ขนาดไหน มะขามหวานมีรสชาติ หวาน ละมุน เป็นผลไม้ที่คนแก่นิยมนำมาประทานกับข้าวเหนียว เมนูนี้ยิงหนักเข้าไปใหญ่

12. ลองกอง (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ลองกอง1 ผล แบบปอกเปลือก จะมีเนื้อใสๆ อยู่ข้างใน รสชาติหวานฉ่ำของมันไม่ใสตามเนื้อนะจ๊ะ เพราะลองกอง 10 ผล ให้พลังงานถึง 60 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว

13. ลางสาด (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ลางสาดเป็นผลไม้อีกอย่างที่ชาวไทยนิยมนำมารับประทาน ลางสาดปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 67 กิโลแคลอรี โดยมีคาร์โบไฮเดรตอยู่ 15.6 กรัมเลยทีเดียว

14. ละมุด (ผลไม้ที่กินแล้วอ้วน) ละมุดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานบาดใจ เชื่อว่าหลายๆ คนคงไม่ทานแค่ลูกเดียวแน่นอน พยายามหักห้ามใจหน่อยนะจ๊ะ เพราะเนื้อหวานละมุนของละมุด 3 ผล ให้พลังงานถึง 120 กิโลแคลอรีเลยทีนะยู

สรุปแล้ว ผลไม้ทานได้แต่ทานในสัดส่วนที่พอดี ที่สำคัญเราต้องเบิร์นออกด้วย ถ้ากินไปหมื่นแคลลอรีแต่เบิร์นได้แค่ 500 แคลลอรี แล้วที่เหลือล่ะจะไปอยู่ส่วนไหน ถ้าส่องกระจกแล้วเห็นต้นขา ต้นแขนใหญ่ๆ ก็อย่าแปลกใจไปเลยเนอะ รีบสมัครฟิตเนสแล้วออกไปเบิร์นซะตั้งแต่วันนี้

ที่มา: https://health.kapook.com/view100904.html

https://healthgossip.co/fatty-fruits/

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับผลไม้ลดน้ำหนัก