free web tracker, fire_lady 10 วิธีดูแลเล็บ ให้แข็งแรงเงางามอยู่เสมอ • สุขภาพดี

10 วิธีดูแลเล็บ ให้แข็งแรงเงางามอยู่เสมอ

วิธีดูแลเล็บ

คุณรู้หรือไม่ว่าเล็บเป็นส่วนประกอบหนึ่งของร่างกาย ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนิ้ว นอกจากนั้นเล็บยังเป็นตัวส่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกาย หรือ แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังอ่อนแอ และมีโรคภัยไข้เจ็บมาเยี่ยมเยือน ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากสีของเล็บ โดยปกติทั่วไปคนที่มีสุขภาพแข็งแรงจะมีเล็บสีชมพูเรื่อๆ ตามธรรมชาติ แต่สำหรับคนที่มีอาการเจ็บป่วยแล้ว เล็บจะเปลี่ยนสีเป็น ซีด คล้ำ เหลือง ม่วง หรือ สีดำเป็นต้น เพราะเล็บเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย สุขภาพดี...เรามีวิธีดูแลเล็บ พร้อมเคล็ดลับการบำรุงเล็บมาบอกกันค่ะ

10 วิธีดูแลเล็บ ไม่ทำตาม ไม่ได้แล้ว

1 รับประทานอาหารบำรุงเล็บ เล็บประกอบไปด้วยโปรตีนที่ห่อหุ้มเล็บเรียกว่า เคราติน (keratin) ซึ่งเล็บที่มีสุขภาพดีมักจะมีลักษณะผิวเรียบไม่ขรุขระ ดังนั้นการรับประทานอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างให้เล็บมีความสมบูรณ์ อาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารประเภทที่มีโปรตีนสูงเพื่อเสริมสร้างเคราตินให้แข็งแรง เช่น หมู ไก่ ปลา และอาหารที่มี ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินบี ได้แก่ ข้าวกล้อง ผักใบเขียว ผักโขม และอื่น ๆ เรียกว่าเป็นวิธีดูแลเล็บแบบสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

2 นวดด้วยน้ำมันมะกอก การที่เล็บของเราขาดความชุ่มชื้น จะทำให้มีเนื้องอกออกมาข้างจมูกเล็บและแห้งแตก เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการนวดเล็บและมือด้วยน้ำมันมะกอกเป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้คุณก็จะมีเล็บที่สุขภาพดีแถมยังได้มือที่นุ่มนวลอีกด้วยค่ะ

3 ทาโลชันหรือแฮนด์ครีม ป็นประจำ การทาโลชันหรือแฮนด์ครีมหลังล้างมือเสมอ จะทำให้เล็บได้รับความชุ่มชื้น ไม่แห้ง แตก และมีสุขภาพดี เพราะสบู่หรือโฟมล้างมือจะชะล้างน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้หลุดออกไป ดังนั้นหลังล้างมืออย่าลืมทาครีมบำรุงเล็บทุกครั้งนะคะ

4 ใช้มะนาว มะขามเปียกแก้ปัญหาเล็บเหลืองจากยาทาเล็บ สาวๆ หลายคนที่ชอบทาเล็บเป็นประจำ จะเกิดปัญหาเล็บเหลืองได้ วิธีแก้คือใช้มะนาวถูเล็บ หรือ แช่เล็บในน้ำมะขามเปียกประมาณ 10 นาที เป็นวิธีดูแลเล็บให้แข็งแรงไม่เปราะง่าย อีกทั้งช่วยลดปัญหาเล็บเหลืองได้เป็นอย่างดี

5 หมั่นตัดเล็บให้สั้น เพื่อรักษาความสะอาดซอกเล็บหรือร่องเล็บเป็นส่วนที่เก็บเชื้อโรคได้ดี ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาเพียงแค่คุณหมั่นตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ หรือทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ก็สามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคได้ แต่หากว่ามีคราบสกปรกที่ฝังติดอยู่ที่เล็บแล้วล่ะก็ ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาล้างแผลขัดถูที่เล็บเพื่อทำความสะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่อีกทีก็จะทำให้คราบต่างๆ เหล่านั้นหลุดออกไป

6 สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม การสวมใส่รองเท้าที่ไม่สบายเท้า หรือไม่รับกับรูปเท้า เช่น คุณผู้หญิงทั้งหลายที่ชอบใส่ส้นสูง ก็จะทำให้เกิดปัญหาการบีบแน่นของปลายเท้า หรือเล็บเท้า จะส่งผลต่อการงอกของเล็บเท้าได้ ดังนั้นการเลือกรองเท้าเพื่อสวมใส่ควรให้พอดี ไม่บีบรัดปลายเท้า

7 การตัดเล็บไม่ควรลึกเกินไป การตัดเล็บควรตัดหลังอาบน้ำเพราะจะทำให้เล็บอ่อนนุ่มตัดได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญควรตัดให้พอดีนิ้ว อย่าตัดเล็บให้ลึกจนเกินไปเพราะอาจทำให้ปลายนิ้วได้รับอันตรายได้เพราะไม่มีเล็บคอยห่อหุ้มป้องกัน

8 อย่าใช้เล็บแคะแกะของแข็ง การใช้เล็บแกะหรือแคะของแข็ง อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขึ้นเล็บฉีกขาดได้ ถ้าจำเป็นต้องแกะหรือแคะอุปกรณ์หรือสิ่งต่าง ๆ ควรหาเครื่องมือที่เหมาะสมมาช่วยจะดีกว่า

9 อย่ากัดหรือดึง เมื่อเกิดการฉีกขาดของผิวด้านข้างเล็บ เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการฉีกขาดของผิวหนังด้านข้างเล็บเป็นประจำ ดังนั้น อย่าดึงหรือฉีกเป็นอันขาด ควรใช้กรรไกรตัดเล็บที่คมและสะอาดมาตัดออกจะดีกว่า เพราะถ้าหากดึงอาจทำให้ฐานเล็บฉีกขาดจนถึงขั้นติดเชื้อได้

10 หมั่นสังเกตเล็บของตนเอง ถึงแม้ว่าคุณจะบำรุงเล็บอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็ให้คอยสังเกตเล็บว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพราะนั่นอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพภายในที่เรากำลังเผชิญอยู่ หากเล็บเปลี่ยนสีไปจากเดิมหรือมีความผิดปกติไปมาก ให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายได้เลยค่ะ

หากคุณเป็นคนที่ชอบทาเล็บหรือทำเล็บเป็นประจำ ยิ่งควรที่จะใส่ใจสุขภาพเล็บให้มากกว่าปกติ เพราะการทำเล็บอาจทำให้ติดเชื้อตามมา ที่สำคัญควรเลือกร้านทำเล็บที่อุปกรณ์สะอาดและมีผ่านการฆ่าเชื้อ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลส่วนต่างๆ ในร่างกาย